บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +18.8%

Close Feb 15, 2023 Price 57.25

12M Target 68.00

KRUNGTHAI CARD (KTC) ปีนี้กลับมาเน้นขยายสินเชื่อ ชดเชย NIM ที่ต่ำลง

Event

วานนี้ผู้บริหาร KTC ให้ข้อมูลในงาน Opportunity Day โดยเราสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้

  • เป้าหมายทางการเงินในปี 2566 ในภาพรวมคาดเห็นการเติบโตขึ้นของผลดำเนินงานหนุน จากในฝั่งการขยายสินเชื่อที่จะเร่งตัวขึ้นตามทิศทางของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ดี
  • ตั้งเป้าโตพอร์ตสินเชื่อ 15%YoY แบ่งเป็น 1) ธุรกิจบัตรเครดิตคาดโต 10%YoY หนุนจากมาตรการช็อปดีมีคืนที่มีวงเงินสูงขึ้นจากปีก่อน นอกจากนี้บริษัทจะโฟกัสลูกค้ากลุ่มรายได้สูงมากขึ้น เช่นการเพิ่มสิทธิพิเศษต่างๆ และโปรโมชั่นที่สอดรับกับ Life Style ของลูกค้าเพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย 2) ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล คาดโต 7%YoY จากการเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ ของพันธมิตรมากขึ้น 3) สินเชื่อในกลุ่ม KTC พี่เบิ้ม คาดมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ 9,000 ลบ. เร่งตัวขึ้นมากจากปี 2565 ที่ 1,055 ลบ. หลังปรับปรุงระบบการพิจารณาสินเชื่อให้คล่องตัวมากขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารในการแข่งขัน ขณะที่ในแง่ของช่องทางปล่อยสินเชื่อปัจจุบันสามารถขอสินเชื่อ KTC พี่เบิ้มผ่านสาขาของ KTB ได้เกือบทุกสาขาแล้ว รวมถึงมีบริการประเมินสินเชื่อแบบ Delivery เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และ 4) ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ โดย KTBL เริ่มกลับมารุกขยายธุรกิจเช่าซื้อ โดยจะเน้นกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์มือสองเป็นหลัก เพราะให้ผลตอบแทนสูงคุ้มกับความเสี่ยง ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 3,000 ลบ. ในปีนี้
  • บริษัทมองว่าระดับ Cost to Income จะอยู่ที่ 36% ลดลงเล็กน้อยจากปี 2565 แม้มีค่าใช้จ่ายในการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ และการทำโปรโมชั่นเพิ่มขึ้น แต่จะถูกชดเชยด้วยรายได้ที่ปรับขึ้นได้เร็วกว่า
  • การตั้งสำรองเบื้องต้นคาดจะทรงตัว YoY จากการใช้นโยบายตั้งสำรองเชิงระมัดระวัง เพื่อรองรับความเสี่ยงของพอร์ตที่เพิ่มขึ้นตามการเร่งขยายสินเชื่อ
  • สำหรับประเด็นที่ ธปท. มีแผนเปิดให้ผู้ประกอบการคิดดอกเบี้ยกับฐานลูกค้าความเสี่ยงสูงแบบ Risk-Based Pricing ผู้บริหารมองว่ามีความน่าสนใจ และจะเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้นจาก ธปท. (คาดจะมีการทำประชาพิจารณ์ใน 2Q66)

Our Take

  • เรามีมุมมองเป็นกลางหลังจบการประชุม โดยยังคงคาดทั้งปี 2566 KTC จะมีกำไรสุทธิ 7,942 ลบ. โต 12.2%YoY แม้คาดการตั้งสำรองทรงตัว YoY แต่จะถูกชดเชยด้วยการเร่งขยายพอร์ตสินเชื่อ ทั้งในส่วนของธุรกิจสินเชื่อเพื่อการบริโภคที่ได้อานิสงค์บวกจากมาตรการ “ช็อปดีมีคืน” ในช่วงต้นปี และเริ่มเห็นการใช้จ่ายในหมวดท่องเที่ยวและการเดินทางฟื้นตัวขึ้น รวมถึงสินเชื่อจำนำทะเบียนในกลุ่ม “พี่เบิ้ม” ที่ผ่านการปรับปรุงการให้บริการที่คล่องตัวมากขึ้นแล้ว อีกทั้งมีสาขาและพนักงานของ KTB เป็นช่องทางในการติดต่อลูกค้า ทำให้คาดปีนี้จะเริ่มเห็นทิศทางการขยายตัวที่ดีขึ้น สำหรับ NIM คาดปรับลงเล็กน้อยเหลือ 15.2% จาก 15.3% ในปี 2565 จากต้นทุนทางการเงินที่ขยับขึ้น
  • เรามองผลดำเนินงานของ KTC ยังมีทิศทางขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากการผ่อนคลายเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ หลังความเสี่ยงทางเศรษฐกิจเริ่มบรรเทาลง ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside ราว 18.8% จากมูลค่าพื้นฐานเดิมปี 2566 ที่ 68 บาท (อิง Prospective PBV ที่ 5.6x) ทำให้เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”
- Advertisement -