บล.บัวหลวง:
Bumrungrad Hospital (BH TB/BH.BK)
BH – กำไรไตรมาส 4/65 สูงกว่าคาด; เห็นถึงการปรับเพิ่มประมาณการกำไรของตลาด
ดีกว่าเราและตลาดคาด
BH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 1,546 ล้านบาท เติบโต 153% YoY และ 3% QoQ หากไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 9 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 1,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133% และ 4% QoQ ซึ่งสูงกว่าเราคาด 32% (รายได้ที่มากกว่าคาดและอัตรากำไรขั้นต้นที่มากกว่าคาด และสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ที่ต่ำกว่าคาด) และมากกว่าตลาดคาด 18% กำไรหลักปี 2565 อยู่ที่ 4.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 306% YoY BH ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับครึ่งหลังของปี 2565 ที่ 2.35 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลขั้นต้นที่ 1.1% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 13 มี.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 10 พ.ค.)
ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ
การเติบโตของกำไร YoY และ QoQ เป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น และสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ที่ลดลง รายได้การแพทย์อยู่ที่ 6.0 พันล้านบาท (ผู้ป่วยไทย 34% และผู้ป่วยต่างประเทศ 66%) เติบโต 54% YoY และ 5% QoQ ซึ่งรายได้จากผู้ป่วยไทยอยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท เติบโต 3% YoY และ 9% QoQ ขณะที่รายได้ผู้ป่วยต่างประเทศอยู่ที่ 4.0 พันล้านบาท เติบโต 105% YoY และ 3% QoQ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติ ส่วนใหญ่มาจากประเทศอินโดจีนและทางฝั่งตะวันออกกลาง ซึ่งหนุนรายได้และกำไรสุทธิของ BH อย่างมาก อัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจการแพทย์ในไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 47.4% เพิ่มขึ้นจาก 41.7% ในไตรมาส 4/64 (รายได้ที่เพิ่มขึ้น) แต่ลดลงจาก 48.4% ในไตรมาส 3/65 ((ปริมาณผู้ป่วยเคสซับซ้อนที่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล) ในไตรมาสนี้ สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 17.5% ลดลง 4.0% YoY และ 0.1% QoQ และ BH มีเงินสดในมือสุทธิ ณ สิ้นปี 2565 ที่ 5.9 พันล้านบาท
แนวโน้ม
กำไรหลักไตรมาส 1/66 จะเติบโต YoY จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของผู้ป่วยต่างชาติ (4.0 พันล้านบาทในไตรมาส 4/65, ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด) แต่ลดลง QoQ (ฐานที่สูงในไตรมาส 4/65) รายได้การแพทย์จะเพิ่มขึ้นก้าว กระโดด YoY (อุปสงค์ผู้ป่วยต่างชาติที่ฟื้นตัว) แต่ลดลง QoQ (อุปสงค์ที่ฟื้นตัวลดลงกว่าในไตรมาส 4/65) โดยอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจการแพทย์จะขยายตัว YoY แต่ลดลง QoQ เราคาดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายจะลดลง YoY (ทรงตัว QoQ)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
ผลประกอบการไตรมาส 4/65 ที่แข็งแกร่งของ BH ส่งผลให้เราปรับประมาณการกำไรหลักปี 2566 เพิ่มขึ้น 17% ไปเป็น 5.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY ซึ่งเป็นการเติบโตที่เร็วที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาลที่เราให้คำแนะนำ ประมาณการในปี 2556 ของเราแสดงถึงการเพิ่มขึ้น 43% จากกำไรหลักในปี 2562 เราคาดรายได้ธรุกิจการแพทย์จะเติบโต 9% YoY หนุนโดยธุรกิจผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรหลักน่าจะเพิ่มขึ้นจาก 23.9% ในปี 2565 มาอยู่ที่ 24.7% ในปี 2566 เราคาดเงินสดในมือสุทธิของ BH จะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาเงินปันผลในปี 2566 ที่ 3.90 บาทต่อหุ้น (อัตราตอบแทนจากเงินปันผลที่ 56% เท่ากับปี 2565) เงินปันผลจ่ายปีละสองครั้ง
คำแนะนำ
เราเช่ือว่าผลประกอบการไตรมาส 4/65 ที่เซอร์ไพรส์จะเป็นปัจจัยหนุนการปรับประมาณตลาดและราคาหุ้น นอกจากนี้ BH เป็นหุ้นที่ดีสุดในธีมการฟื้นตัวการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ธุรกิจผู้ป่วยต่างชาติสามารถสร้างสเกลได้เทียบเท่า (หรือมากกว่า) ก่อนช่วงโควิดในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 นอกจากนี้ ยังมีโอกาสในธุรกิจการแพทย์แบบดิจิทัลและเทคโนโลยีด้านการแพทย์ที่อาจสร้างอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรในปัจจุบันของเรา เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” BH โดยมีราคาเป้าหมายใหม่ ณ สิ้นปี 2566 ที่อิงจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ที่ 250 บาท (เพิ่มจาก 235 บาท) อิงจาก WACC ที่ 7.1% และ Terminal Growth ที่ 2%