จับตา Fund flow หลังเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,651.67 จุด ลดลง 6.62 จุด (0.40%) มูลค่าการซื้อขาย 53,413.46 ล้านบาท ปรับตัวลงจากตัวเลข GDP ไตรมาส 4/65 ของไทยออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไปมาก ตอกย้ำผลประกอบการไตรมาส 4/65 ของบริษัทจดทะเบียนไทยที่ออกมาแย่อยู่แล้ว จึงมีแรงขายออกมา

แนวโน้มตลาดวันนี้… รับความเสี่ยงทั้งปัจจัยภาย-ภายนอก โดยในประเทศ สภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP 65 ของไทยออกมาขยายตัวเพียง 2.6% จากที่คาดขยายตัว 3.0-3.2% เนื่องจาก GDP4Q65 ออกมาแย่กว่าคาดอย่างมาก อยู่ที่ขยายตัว 1.4%YoY โดยหลักมาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเร็วกว่าคาด และมีส่วนทำให้การส่งออกของไทยหดตัวแรงในช่วง 4Q65 แต่ทั้งปียังขยายตัวกว่าปี 64 ที่ +1.5% ส่วนแนวโน้มในปี 66 ปรับประมาณการ GDP ลงเหลือ +3.2% (จากเดิม +3.5%) ได้การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของอุปสงค์ภายในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ด้านประเด็นทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ และ รมว. กลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ว่ามีแนวโน้มจะยุบสภา ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนมีนาคม หนุนกลุ่ม Pre-election ส่วนสัปดาห์นี้ ติดตามการรายงานงบ 4Q และการทยอยประกาศจ่ายปันผล รวมถึง ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า ส่วนปัจจัยต่างประเทศยังมีแรงกดดันว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง หลังสัปดาห์ก่อนมีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจทั้งเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น, ตลาดแรงงานตึงตัว และการใช้จ่ายของผู้บริโภคฟื้นตัว แต่ประเมินว่าตลาดรับรู้ไปพอสมควรแล้ว

สัปดาห์นี้ ติดตาม… 23 ม.ค. GDP 4Q65 สหรัฐฯ ตลาดคาด +2.9%QoQ ทรงตัวจากครั้งก่อน, 24 ม.ค. PCE ม.ค. +0.3%QoQ ทรงตัวจากงวดก่อน

กลยุทธ์การลงทุน… ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway

แนะนํา Trading ในกรอบ 1646-1672 โดยเราให้น้ำหนักกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่จะถูกขับเคลื่อนด้วยภาพการท่องเที่ยวและการบริโภคที่ฟื้นตัว รวมถึงความชัดเจนของภาคการเมือง และการเลือกตั้ง Selective buy กลุ่มที่ downside risk ที่จำกัด 1. BANK BBL KBANK KTB KKP TISCO 2. Domestic play BJC CPALL MAKRO DOHOME 3

เคาะไป คุยไป SC

  • รายงานกำไรสุทธิปี 65 ที่ 2,556 ล้านบาท (+23.95% YoY) เนื่องมาจากยอด Presales 24,468 ล้านบาท (แนวราบ 80%, แนวสูง 20%) โดยรายได้รวมเท่ากับ 20,654 ล้านบาท (+10.97%YoY) คิดเป็นการเติบโตในโครงการแนวราบ 12.42% จากการเปิดโครงการแนวราบมากที่สุด จํานวน 25 โครงการ มูลค่ารวม 3.74 หมื่นล้านบาท และการเติบโตแนวสูง 3.78% จากการที่บริษัทได้ขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปยัง Gen Y มากขึ้น ด้านอัตรากำไรขั้นต้นปี 65 ปรับตัวดีขึ้น จาก 30.8% เป็น 33.2% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 17.20% จากการเติบโตของธุรกิจ จำนวนโครงการที่เพิ่มขึ้นและการเปิดโครงการแนวสูงระหว่างปี
  • ปี 66 เราคาดรายได้จะยังคงเติบโตต่อเนื่องภายใต้ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งเราคาดการณ์รายได้ไว้ เท่ากับ 22,880 ล้านบาท เติบโต 10.78% ธุรกิจ Recurring income โรงแรม YANH Ratchawat จํานวน 78 ห้อง คาดพร้อมเปิดดำเนินการช่วง มี.ค.66 และโรงแรมอีกแห่งจาก FJBKK ขนาดใหญ่ 323 ห้อง พร้อมเปิดดำเนินการ ม.ค.68 ซึ่งผู้บริหารให้เป้าหมายระยะยาวที่ 1,000 ห้อง ธุรกิจในสหรัฐ Service apartment มีแผนจะเตรียมเข้าซื้ออีก 1 แห่งจากเดิมที่ม แล้ว 2 แห่งในบอสตัน โดยจะเริ่มรับรู้รายได้จากแห่งใหม่ในช่วง 1Q66 และธุรกิจคลังสินค้า ล่าสุดได้จัดหาที่ดินเตรียมได้แล้ว โดยเฟสแรกจะเป็นคลังสินค้าแบบ Built-to-suit ให้กับผู้เช่าอย่าง FLASH ขนาด 16,000 ตร.ม. พื้นที่จ.นครสวรรค์ คาดเปิดดำเนินการได้ในต้น ปี 67

Global Markets

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแต่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ท่ามกลางความวิตกที่เพิ่มขึ้นว่า เฟดจะยังคงคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปเป็นเวลานานกว่าที่คาดกันไว้ก่อนหน้านี้

(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบได้รับแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ

(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดลบ เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรถ่วงราคาทองลง

- Advertisement -