KS Daily View 20.02.2023 > ราคาพลังงานปรับลง หนุนกลุ่ม Anticommodity SET คาด 1,635-1,655 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ SHR, PTG

สรุปตลาดหุ้นเมื่อวาน

ในประเทศ : SET Index เมื่อวานแกว่งตัวลงและปิด 1651.67 จุด (-0.4%) โดยหุ้นที่ปรับขึ้นและหนุนดัชนี คือ ITC+4.1%, OSP+3.2%, PTT+2.3%ฯลฯ  ในทางตรงข้ามหุ้นปรับลงแรง คือ  JMART -7.6%, BEM -3.2 ฯลฯ   หลักๆปัจจัยกดดันมาจาก

1.) รายงาน GDP ไทย 4Q22 ออกมา +1.4% YoY น้อยกว่าตลาดคาดที่ +3.6% ตัวเลขที่น่าผิดหวังไม่ใช้รายการหลัก แต่มาจาก สินค้าคงคลัง (-23% YoY) การใช้จ่ายของภาครัฐ (-8%) อย่างไรก็ตามแนวโน้มปี 2023  คาดยังสดใสคาด GDP ไทยจะเติบโต +4 หนุนจากนักท่องเที่ยวที่ 30 ล้านคนและการเลือกตั้งทั่วไป

2.) การรายงานงบงวด 4Q22 ของบริษัทจดทะเบียน สรุปเมื่อวันศุกร์ บริษัทที่รายงานงบออกมาต่ำกว่าคาด คือ CPNREIT, CBG   ส่วนบริษัทที่รายงานงบออกมาดีกว่าคาด(Beat) คือ  TASCO,HENG, STA, STGT บริษัทที่รายงานงบออกมาตามคาด คือ TIDLOR, PSH,TFM

ต่างประเทศ :  ตลาดหุ้นสหรัฐพลิกกลับมาพักฐานอีกครั้ง อิง ดัชนี Dow Jones  0.39%, S&P500 -0.28%, ดัชนี Nasdaq -0.58%  โดย Sector ในดัชนี S&P500 กลุ่มที่ Outperform หลักๆคือ กลุ่ม Consumer Staples 1.3%, กลุ่ม Utilities  1%, Health Care 0.89%  ส่วน Sector ที่ Underperform คือ กลุ่ม Energy-3.65%, IT -1.1%ฯลฯ

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ

เราประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้จะแกว่งตัวในกรอบ 1635 – 1666 จุด หากดัชนีย่อลงมาบริเวณ 1635 +- เป็นจุดทยอยสะสม  ประเมินว่ายังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ เชื่อว่าตลาดจะกลับมาโฟกัสการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ, Fed Minutes ทำให้ประเมินจะเป็นลักษณะแกว่งตัวออกข้างไปจนถึงการประชุม Fed ในวันที่ 22 มี.ค.2023

ส่วนปัจจัยในประเทศ Key หลักๆ ยังคงให้น้ำหนัก คือ การการรายงานงบ 4Q22  โดยสัปดาห์นี้จะมี 20 ก.พ. :  BCP, BCPG, CKP, MAKRO, RJH, STARK  21 ก.พ. AP, DOHOME, ERW, GFPT, JASIF, KISS, MTC, PYLON, SABINA, SPALI, WHAIR   22ก.พ.  AAI, ASIAN, BANPU, BDMS, BEM, BJC, BLA, BPP, OSP, PR9, SNNP, TU   23 ก.พ. AAV,  ANAN, BA, BAFS, BAM, BAREIT, BGC, CPALL, CPN, DIF, M, MEGA, QH, SAT, SYNEX, TEAMG, THG,TKN, VRANDA    24 ก.พ. BBIK, BOFFICE, BRI, B-WORK, CHAYO, CHG, CPF, DDD, EGCO,IIG , IVL, LHSC, MICRO ,MINT, PRM, RCL, SHR, SPRC, PRIME, TVO ,WHART โดยเรายังคงมุมมองตลาดจะเลือกโฟกัสเป็นรายกลุ่ม รายหุ้น และคาดหุ้นขนาดใหญ่จะยัง Underperform กว่า เนื่องจากยังขาดแรงหนุนจาก Flow ต่างชาติหลังจากเงินบาทอ่อนค่าขึ้นทำจุดสูงในรอบ 1 เดือนครึ่ง ที่ 34.4 บาท หลังจากค่าเงิน Dollar แข็งค่า และรายงาน GDP ไทยงวด 4Q22 ที่ออกมาต่ำคาด

Theme หุ้นแนะนำสัปดาห์

1.) หุ้น Mid Small cap ที่คาดกำไร 4Q22 จะออกมาโดเด่นและแนวโน้มปี 2023 โตต่อ อาทิ SHR, SABINA, PRM

2.) หุ้นโรงไฟฟ้า แนะนำ GUNKUL

3.) หุ้นที่ราคาพักฐานลงมาอยู่โซนล่าง แต่มีปัจจัยบวกในอนาคต อาทิ กลุ่ม Retail oil แนะนำ PTG   หุ้นเรือเทกอง แนะนำ PSL

ประเด็นที่ต้องติดตามคาดจะมีผลต่อตลาดหุ้นและกลุ่มหุ้น : ทิศทางราคาพลังงานปรับลง

1.) ราคาถ่านหินโลกที่ยังลงต่อเนื่อง ล่าสุดราคาถ่านหิน Newcastle Export index (6,700 kcal) ปรับตัวลง -29% WoW มาทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 ปีที่ US$202/ton (ณ วันที่ 17 ก.พ.) ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับราคาถ่านหินในจีน (5,500 kcal) ที่ลงมาทำจุดต่ำสุดรอบ 1 ปีที่ 980 หยวน (US$142.2/ton) เนื่องจากอุปทานเหมืองในจีนเพิ่ม ขณะที่อุปสงค์ของลูกค้าปลายน้ำฟื้นตัวอย่างช้าๆ ทำให้ปริมาณสต๊อกถ่านหินที่ท่าเรือ 8 แห่งของจีนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มขึ้นเป็น 35.96 ล้านตัน ซึ่งสูงสุดนับแต่เดือน เม.ย. 2020  เรามองเป็นบวกต่อหัน SCGP  ในทางตรงข้ามจะลบต่อ BANPU  LANNA UMS

2.) ทิศทางราคาน้ำมันดิบ ซึ่งปรับตัวลง -3.9% WoW จากการแข็งค่าของ USD ขณะที่อุปทานยังอยู่ในระดับสูงจากการที่สหรัฐฯมีแผนจะปล่อย SPR เพิ่ม และรัสเซียมีแผนส่งออกน้ำมันเท่าเดิมแม้จะลดกำลังการผลิตลง 5 แสนบาร์เรล จากรายงานข่าวของ Vedomosti ดังนี้อาจมีแรงเก็งกำไรในกลุ่ม Retail oil โดยเฉพาะ PTG

3.) ราคาก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าเดือน มี.ค. 66 ที่ล่าสุดลงมาที่ 49 ยูโรต่อ MWh (-5.7% DoD) มองเป็นบวกกับหุ้นที่ทำธุรกิจในยุโรป เช่น SHR, MINT เป็นต้น และมองบกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปที่ความเสี่ยงของ Recession ลดลง

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบ 1635-1655 จุด หุ้นแนะนำ   SHR, PTG

Top pick :

SHR (ราคาพื้นฐาน 5.9 บาท)  ราคาหุ้นปัจจุบัน ยังไม่แพงยังเทรดต่ำ BV ที่ 4.75 บาท และ PAR ที่ 5 บาทต่อหุ้น รวมล่าสุด ราคาก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าเดือน มี.ค. 66 ที่ล่าสุดลงมาที่ 49 ยูโรต่อ MWh (-5.7% DoD) บวกต่อ SHR  และบริษัทเตรียมล๊อคราคาก๊าซในช่วง 1Q23  และเป็น Turnaround play ได้อานิสงค์จีนเปิดประเทศ

PTG (ราคาพื้นฐาน 15.8 บาท)  ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลขึ้นมาสู่ระดับ 1.9 บาทแล้วเมื่อปล่ยอิทตย์ที่แล้ว  จากการปรับลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 0.35 บาท DoD ราคาน้ำมันขายปลีกดีเซลหน้าปั๊มยังคงที่ระดับ 34.44 บาท ส่วนค่าการตลาดน้ำมันเบนซินปรับลดเหลือ 2.58 บาท จาก 2.70 บาทในวันก่อนหน้า โดยเงินนำส่งกองทุนน้ำมันและราคาขายปลีกยังอยู่ที่ระดับ 2 บาท และ 36.25 บาท/ลิตร เช่นเดิม ดังนั้น เรายังมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่ม Retail oil ที่ผลประกอบการน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวในไตรมาส 1-2Q23  ชอบ PTG ซึ่งเป็นผู้ได้ประโยชน์มากที่สุด เนื่องจาก PTGมีสัดส่วนการขายน้ำมันดีเซลสูงสุด (73% ของปริมาณการขายน้ำมันเป็นดีเซล) มากกว่าคู่แข่งที่มีสัดส่วนราว 60-65%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันจันทร์ ติดตามตัวเลข Loan Prime Rate 1 ปี และ 5 ปีของจีนคาดคงดอกเบี้ยที่ระดับ 3.65% และ 4.3% ตามลำดับ
  • วันอังคาร ติดตามตัวเลข Jibun Bank Manufacturing PMI ของญี่ปุ่นเดือน ก.พ. คาด 50.4 จุด (+3.0% MoM) ตัวเลข Jibun Bank Service PMI ของญี่ปุ่นเดือน ก.พ. คาด 52.8 จุด (+1% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของยูโรโซน เดือน ก.พ. คาด 49.3 จุด (+1.0% MoM) ตัวเลข S&P Service PMI Flash ของยูโรโซน เดือน ก.พ. คาด 51 จุด (+0.4% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของเยอรมัน เดือน ก.พ. คาด 47.8 จุด (+1% MoM) ตัวเลข S&P Service PMI Flash ของเยอรมัน เดือน ก.พ. คาด 51 จุด (+0.6% MoM) ตัวเลข Zew Economic sentiment index ของเยอรมัน เดือน ก.พ. คาด 22 จุด (+30% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด 47.5 จุด (+1.5% MoM) ตัวเลข S&P Service PMI Flash ของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด 47.2 จุด (+0.9% MoM) ตัวเลข Existing home sales ของสหรัฐฯ​ เดือน ม.ค.​ คาด +2% MoM เป็น 4.1mn
  • วันพุธ ติดตามตัวเลข Ifo Business Climate ของเยอรมันเดือน ก.พ.​ คาด 91.4 จุด (+1.3% MoM) FOMC minutes และถ้อยแถลงของ Fed Williams
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขส่งออก และนำเข้าของไทย เดือน ม.ค.​ คาด -6.2% YoY และ -8.2% YoY ตามลำดับ และยอดขาดดุลการค้าของไทยเดือน ม.ค.​ คาด -1,524 ล้านเหรียญสหรัฐฯ​ (เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -1,034 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯรายสัปดาห์คาด +200K ถ้อยแถลงของ Fed Bostic และตัวเลขปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขยอดขายรถยนต์ของไทยเดือน ม.ค. ตัวเลขเงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือน ม.ค.​ คาด +0.2% MoM และ +4.2% YoY ตัวเลข Gfk Consumer Confidence ของอังกฤษ เดือน ก.พ. คาด -42 จุด (ดีขึ้นจาก -45 จุด) ตัวเลข Gfk Consumer Confidence ของเยอรมัน เดือน ก.พ. คาด -30.4 จุด (ดีขึ้นจาก -33.9 จุด) ตัวเลข GDP 4Q22 ของเยอรมัน (ปรับปรุงรอบสอง) คาด -0.2% QoQ แต่ +1.1% YoY ตัวเลข Personal income ของสหรัฐฯ​ เดือน ม.ค.​ คาด +0.9% MoM ตัวเลข Personal spending ของสหรัฐฯ​ เดือน ม.ค.​ คาด +1.3% MoM ตัวเลข Core PCE Price Index ของสหรัฐฯ​ เดือน ม.ค.​ คาด +0.4% MoM และ +4.3% YoY ตัวเลข New Home Sales ของสหรัฐฯ​ เดือน ม.ค.​ คาด +0.4% MoM เป็น 0.615mn ตัวเลข Michigan Consumer Sentiment index เดือน ม.ค.​ คาด 66.4 จุด (+2.3% MoM) ถ้อยแถลงของ Fed Jefferson และ Fed Mester
- Advertisement -