บล.บัวหลวง:

Pruksa Holding (PSH TB/PSH.BK)

PSH – กำไรไตรมาส 4/65 มากกว่าเราและตลาดคาด; คาดไตรมาส 1/66 อ่อนตัว

มากกว่าที่เราและตลาดคาด

PSH รายงานทําไรหลัก ไตรมาส 4/65 ที่ 1.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 74% และ 93% QoQ ซึ่งสูงกว่าที่เราคาด 27% และสูงกว่าที่ตลาดคาด 13% (รายได้และอัตรากําไรขั้นต้นจากการขายโครงการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น) กำไรหลักปี 2565 อยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% YoY PSH ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับครึ่งหลังของปี 2565 ที่ 0.65 บาทต่อหุ้น (มากกว่าที่เราคาดที่ 0.44 บาทต่อหุ้น และตลาดคาด 0.62 บาทต่อหุ้น) ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลขั้นต้นที่ 4.9% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 9 มี.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 19 พ.ค.)

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

กำไรที่เติบโต YoY และ QoQ เนื่องจากยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น (โครงการคอนโด 4 แห่ง มูลค่าโครงการรวม 6.3 พันล้านบาท เริ่มโอนโครงการในไตรมาส 4/65) และอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายโครงการที่อยู่ อาศัยที่เพิ่มขึ้น ยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยในไตรมาสนี้อยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท (โครงการแนวราบ 52% โครงการคอนโด 48%) เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 55% QoQ ยอดขายโครงการแนวราบอยู่ที่ 4.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% YoY และ 29% QoQ ยอดขายโครงการคอนโดอยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% YoY และ 99% QoQ รายได้ธุรกิจการแพทย์อยู่ที่ 679 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 340% YoY และ 106% QoQ (PSH บันทึกรายได้จากโรงพยาบาลวิมุต และโรงพยาบาลเทพธารินทร์ รวมกันเป็นรายได้จากธุรกิจการแพทย์เทียบกับรายได้โรงพยาบาลวิมุตเพียงอย่างเดียวในไตรมาส 4/64) อัตรากําไรขั้นต้นจากยอดขายที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 33.9% เพิ่มขึ้น 160bps YoY และ 180bps QoQ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 17.0% เพิ่มขึ้น 110bps YoY แต่ลดลง 200bps QoQ เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิอยู่ในระดับต่ำที่ 0.2 เท่า ณ สิ้นปี 2565

แนวโน้ม

เราคาดว่ากําไรหลักไตรมาส 1/66 จะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ (รายได้ที่ลดลง) ยอดขายที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้น YoY (จากยอดโอนโครงการต่อเนื่อง) แต่ลดลง QoQ (การไม่มีกําหนดการโอนโครงการใหม่ในไตรมาส 1/66) PSH ยังคงเคลียร์โครงการเหลือพร้อมขาย แต่อัตราค่าไรขั้นต้นจากยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยจะได้แรงหนุนจากการโอนโครงการคอนโดทั้งสี่แห่งอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/66 จะอยู่ในกรอบช่วง 31- 32% เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 30.6% ในไตรมาส 1/65 แต่ลดลงจาก 33.9% ในไตรมาส 4/65 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ (จากการเปิดตัวโครงการใหม่)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราคาดกําไรหลักในปี 2566 ที่ 2.5 พันล้านบาท ลดลง 10% YoY (งานโครงการคอนโดในมือที่ลดลงและการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มากในช่วงครึ่งหลังของปี 2566) ยอดขายที่อยู่อาศัยคาดว่าจะอยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท ลดลง 11% YoY (แต่ต่ำกว่าเป้าหมายของ PSH ที่ 3 หมื่นล้านบาท) PSH ประกาศแผนธุรกิจปี 2566 มูลค่า 2.35 หมื่นล้านบาท ลุยเปิดโครงการใหม่ บริษัทมีคอนโดใหม่เพียงแห่งเดียวที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 (มูลค่า 1.1 พันล้านบาท โดยมีอัตราการจอง 13% เริ่มโอนในไตรมาส 2/66) อัตรากำไรโครงการที่อยู่อาศัยจะอยู่ที่ 31.4% ลดลง 1.1% YoY เนื่องจากยอดโอนโครงการคอนโดที่ลดลง อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิอยู่ในช่วง 0.2-0.3 เท่า ณ สิ้นปี 2566

คําแนะนํา

ตลาดอาจมีมุมมองเชิงบวกในระยะสั้น เนื่องจากการจ่ายเงินปันผลสูงกว่าที่เราและตลาดคาด แต่ PSH มีแนวโน้มที่จะได้รับแรงกดดันในภายหลัง เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/66 ที่อ่อนแอ (งานในมือที่ลดลงและปัจจัยฤดูกาล) เราแนะนำ ถือ ที่ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท อิงจากที่ PER ที่ 9.5 เท่า (ค่าเฉลี่ยระยะยาวของ PSH)

- Advertisement -