บล.บัวหลวง:

Thai Union Feedmill (TFM TB/TFM.BK)

TFM – กำไรหลักตามคาด; คาดกำไรไตรมาส 1/66 เติบโตก้าวกระโดด YoY

กําไรสุทธิต่ำกว่าคาด แต่กําไรหลักเป็นไปตามคาด

TFM รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 17 ล้านบาท ลดลง 57% YoY และ 71% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษในไตรมาส 4/65 ซึ่งได้แก่ ขาดทุนจากการตั้งด้อยค่าลูกหนี้การค้า 16 ล้านบาท และกำไรอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 1 ล้านบาท กําไรหลักในไตรมาสนี้อยู่ที่ 32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY แต่ลดลง 51% QoQ กําไรสุทธิต่ำกว่าที่คาดก่อนหน้า 49% เนื่องจากรายการค่าใช้จ่ายพิเศษตั้งสำรองด้อยค่าลูกหนี้การค้า แต่กำไรหลักถือว่าเป็นไปตามที่เราคาดก่อนหน้า ยอดขายสูงกว่าคาด 5% อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/65 ที่ 7.4% ออกมาต่ำกว่าประมาณการของเราก่อนหน้าที่ 8.3% (และลดลงถ้าเทียบกับ 9.4% ในไตรมาส 4/64 และ 11.1% ในไตรมาส 3/65) กำไรหลังหักภาษีถือว่าเป็นไปตามที่เราคาดก่อนหน้า

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

กําไรหลักที่เพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากยอดขายและรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น การพลิกกลับไปเป็นรายการเครดิตภาษี และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง กลบอัตรากําไรขั้นต้นที่ลดลง (จากต้นทุนวัตถุดิบซึ่ง ได้แก่ กากถั่วเหลือง ข้าว สาลีและปลาป่นที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง) และขาดทุนสุทธิของ TUKL ในประเทศอินโดนีเซียที่ยังคงมีต่อเนื่องประมาณ 10 ล้านบาทในไตรมาส 4/65 (ซึ่งอิงตามสัดส่วนการถือหุ้นของ TFM ใน TUKL ที่ 65%) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารงานทั่วไปในไตรมาสนี้ลดลง 10% YoY และ 20% QoQ เนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานได้ดีขึ้น และมาตรการลดต้นทุนการดำเนินงาน ยอดขายในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 12% YoY (หนุนโดย ยอดขายอาหารกุ้งที่เพิ่มขึ้น 18% YoY ยอดขายอาหารสัตว์บกที่เพิ่มขึ้น 13% YoY และยอดขายอาหารปลาที่เพิ่มขึ้น 3% YoY) ปัจจัยหลักผลักดันยอดขายในไตรมาสนี้มาจากการปรับราคาขายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 21% YoY ซึ่งกลบวอลุ่มขายที่ลดลง 8% YoY เนื่องจากการยกเลิกหรือลดการขายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ที่ให้อัตรากำไรในระดับต่ำหรือไม่มีกำไร

ยอดขายอาหารกุ้งในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 18% YoY หนุนโดยราคาขายเฉลี่ย สําหรับอาหารกุ้งที่ปรับเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด ในขณะที่ยอดขายอาหารปลา เพิ่มขึ้น 3% YoY เนื่องจากการปรับเพิ่มราคาขายและการหันมาเน้นขาย อาหารปลากะพงที่ให้มาร์จิ้นในระดับที่สูงกว่า ยอดขายอาหารสัตว์บกเพิ่มขึ้น 13% YoY จากปัจจัยเรื่องวอลุ่มขายที่เพิ่มขึ้น และราคาขายเฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้น และเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจ อาหารกุ้งริงปรับตัวลดลงจาก 16.3% ในไตรมาส 4/64 เหลือ 11% ในไตร มาส 4/65 ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารปลาก็ลดลงเช่นกันจาก 4.5% เหลือ 3% ในไตรมาส 4/65

แนวโน้ม

เราคาดกําไรหลักที่ 20 ล้านบาทในไตรมาส 1/66 เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 301%YOY จากกำไรหลัก 5 ล้านบาทในไตรมาส 1/65 (เนื่องจากฐานกําไรหลักในไตรมาส 1/65 ที่ต่ำมากผิดปกติ) แต่ลดลง 38% QoQ (เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นสําหรับการเลี้ยงกุ้งในประเทศไทย และการเลี้ยงปลาในประเทศปากีสถาน บวกกับสภาพอากาศที่เย็นกว่าปกติในประเทศไทยในเดือนม.ค.2566) ยอดขายรวมสําหรับในเดือนม.ค. 2566 ยังคงอ่อนแอ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การพลิกกลับของสภาพอากาศไปสู่ภาวะอากาศที่ร้อนกว่าปกติในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนก.พ. 2566 เป็นต้นไปน่าจะที่จะกระตุ้นให้ผู้เลี้ยงกุ้งกลับมาเลี้ยงกุ้งเพิ่มขึ้น

เราคาดว่า TUKL จะทําการรับรู้ออเดอร์ยอดขายสําหรับธุรกิจรับจ้างผลิต (โออีเอ็ม) ในช่วงไตรมาส 1/66 TUKL มีแนวโน้มถึงจุดคุ้มทุนในแง่ของกำไรขั้นต้นในเดือนก.ค. 2566 และกำาไรบรรทัดสุดท้ายพลิกกลับมาเป็นบวกภายในปี 2567 บริษัทจะทำการออกผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ใหม่ที่เป็นเกรดมาตรฐาน หลังจากเผชิญกับสถานการณ์ตัดราคาจากคู่แข่งสัญชาติจีนรายใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย เรามองว่าราคาวัตถุดิบมีแนวโน้มยืนในระดับสูงต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ก่อนที่จะเริ่มอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2566

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ไว้เท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

คําแนะนํา

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น TFM จากการคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2566 ที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด YoY ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 1/66 เป็นต้นไป

- Advertisement -