บล.บัวหลวง:

Refining & Chemical – ค่าการกลั่นและส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง (NEUTRAL)

ค่าการกลั่นปรับตัวลดลงต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถูกกดดันโดยส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ทุกประเภทที่ปรับตัวลดลง ในขณะที่ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้เรายังคงชอบ TOP และ IVL มากที่สุด

การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์และโควต้าการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปของประเทศจีน ซึ่งจะเพิ่มอุปทานในตลาดเป็นปัจจัยที่น่าจับตามองเนื่องจากอาจกดดันค่าการกลั่นให้ปรับตัวลดลง ในทางกลับกับการเปิดประเทศจีนในปัจจุบันจะเป็นปัจจัยหนุนอุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวมทั้งค่าการกลั่นและส่วนต่างราคาปิโตรเคมี

เรายังคงชอบ TOP มากที่สุดในหุ้นกลุ่มโรงกลั่น เนื่องจากการเป็นผู้ผลิตที่มีประสิทธิภาพด้านต้นทุนการผลิตซึ่งจะส่งผลให้กําไรมีความไวต่อการปรับตัวสูงขึ้นของค่าการกลั่น และเรายังคงชอบ IVL มากที่สุดในกลุ่มปิโตรเคมี เนื่องจากแนวโน้มกำไรหลักปี 2566 ที่แข็งแกร่ง รวมทั้งมีอัพไซต์ต่อแนวโน้มการเติบโตระยะยาวจากการลงทุนและ/หรือการเข้าซื้อกิจการใหม่

ค่าการกลั่นปรับตัวลดลงต่อเนื่อง WoW

ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 1.27 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 5.92 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งถูกกดดันโดยส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ทุกประเภทที่ปรับตัวลดลง อุปทานซึ่งมีจำนวนมากเนื่องจากอัตรา การกลั่นที่เพิ่มขึ้นที่โรงกลั่นในมาเลเซียและและสต็อกในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นส่งผล ให้ส่วนต่างราคาก๊าซโซลีนปรับตัวลง 1.52 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 16.82 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ SPRC มากที่สุด) นอกจากนี้ความกังวลด้านอุปทานในยุโรปที่คลี่คลาย, อุปทานที่เพิ่มขึ้นจากเกาหลีใต้และอินเดีย, และสต็อกในสิงคโปร์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างราคานํ้ามันเครื่องบินและส่วนต่างราคาดีเซลปรับตัวลง 3.30 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 22.87 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ 2.85 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 20.04 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามลำดับ (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ TOP มาก ที่สุด) ในทางตรงกันข้าม การนําเข้าจากจีนที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ส่วนต่างราคา น้ำมันเตาที่มีส่วนผสมของกำมะถันในระดับสูงปรับตัวขึ้น 2.37 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ -18.74 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ส่วนต่างราคาเอธิลีนปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ส่วนต่างราคาโพรพิลีนปรับตัวลดลง WOW

ต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาที่เพิ่มขึ้นและแรงซื้อในเอเชียที่แข็งแกร่งขึ้น ส่งผลให้ราคาเอธิลีนปรับตัวขึ้น 25 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 905 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่อุปทานซึ่งมีจำนวนมากส่งผลให้ราคาโพรพิลีน ปรับตัวลง 5 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 965 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาปรับตัวขึ้น 19 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 720 เหรียญสหรัฐ/ตัน

ส่วนต่างราคาเอธิลีนจึงปรับตัวขึ้น 6 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 185 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ PTTGC มากที่สุด) แต่ส่วนต่างราคาโพรพิลีนปรับตัวลง 24 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 245 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ IRPC มากที่สุด)

ส่วนต่างราคา HDPE และส่วนต่างราคา PP ปรับตัวลดลง WoW

ต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นและอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการเปิดประเทศจีนส่งผลให้ราคา HDPE ปรับตัวขึ้น 10 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 1,100 และส่งผลให้ราคา PP ทรงตัว WoW อยู่ที่ 1,120 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างราคา HDPE เทียบกับแนฟทาปรับตัวลง 9 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 380 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ PTTGC มากที่สุด) และส่วนต่างราคา PP ปรับตัวลง 19 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 400 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ IRPC มากที่สุด)

ส่วนต่างราคา MEG ปรับตัวลดลง แต่ส่วนต่างราคา PVC ปรับตัวเพิ่มขึ้น WoW

ต้นทุนวัตถุดิบเอธิลีนที่เพิ่มขึ้นและแรงซื้อในภูมิภาคที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ราคา MEG ปรับตัวขึ้น 5 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 525 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนเอธิลีนปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็วกว่าราคาผลิตภัณฑ์ส่งผลให้ส่วนต่างราคา MEG ปรับตัวลง 11 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ -45 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ PTTGC มากที่สุด) ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบเอธิลีนที่เพิ่มขึ้นและอุปสงค์ในเอเชียที่แข็งแกร่งขึ้น ส่งผลให้ราคา PVC ปรับตัวขึ้น 20 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 920 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบเอธิลีนปรับตัวเพิ่มขึ้นช้ากว่าราคาผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ส่วนต่างราคา PVC ปรับตัวขึ้น 8 เหรียญสหรัฐ WoW อยู่ที่ 468 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ PTTGC มากที่สุด)

คาดค่าการกลั่นทรงตัวแข็งแกร่ง YoY และเพิ่มขึ้น QoQ ในไตรมาส 1/66

อุปสงค์น้ำมันดีเซล, น้ำมันเครื่องบิน, และน้ำมันเตาที่มีส่วนผสมกำมะถันในระดับสูง คาดว่าจะแข็งแกร่งในไตรมาส 1/66 หนุนโดยอุปสงค์ตามฤดูกาลที่สูงและอุปสงค์การเปลี่ยนการใช้ก๊าซเป็นน้ำมัน จากมุมมองด้านอุปทาน การปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในฤดูใบไม้ผลิ, อุปทานที่ลดลงจากรัสเซีย, สต็อกน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ, และกําลังการกลั่นใหม่ที่มีจํากัดจะเป็นปัจจัยที่จำกัดอุปทาน ต้นทุนน้ำมันดิบ (พรีเมี่ยมของน้ำมันดิบ) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY แต่ทรงตัว QoQ ในไตรมาส 1/66 ดังนั้นจากแนวโน้มดังกล่าว เราจึงคาดว่าค่าการกลั่นจะทรงตัวแข็งแกร่ง YoY และเพิ่มขึ้น QoQ ในไตรมาส 1/66

หากการเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของโรงกลั่นใหม่ไม่เป็นไปตามแผน หรือมีการหยุดโรงกลั่นโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า (สาเหตุจากไฟไหม้, สงคราม, ภัยธรรมชาติ เป็นต้น) จะส่งผลให้อุปทานตึงตัว อาจเป็นอัพไซต์ต่อค่าการกลั่น นอกจากนี้การเปิดประเทศของจีนจะหนุนอุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปและน่าจะส่งผลดีต่อค่าการกลั่น ในทางกลับกันการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์และโควต้าการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปของประเทศจีน ซึ่งจะเพิ่มอุปทานในตลาดเป็นปัจจัยที่น่าจับตามอง เนื่องจากอาจกดดันค่าการกลั่นให้ปรับตัวลดลง

ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่มีแนวโน้มปรับตัวลง YoY แต่ปรับตัวดีขึ้น QoQ ในไตรมาส 1/66

การเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของกำลังการผลิตใหม่ และต้นทุนวัตถุดิบที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง จะกดดันส่วนต่างราคาปิโตรเคมีบางประเภทในไตรมาส 1/66 จากแนวโน้มดังกล่าว เราจึงคาดว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีส่วนใหญ่จะอ่อนตัวลง YoY จากมุมมองด้าน QoQ อุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้น หนุนโดยการเปิดประเทศจีนจะหนุนส่วนต่างราคาปิโตรเคมีให้ปรับตัวสูงขึ้น QoQ ในไตรมาส 1/66 นอกจากนี้อุปทานที่มีจํากัด ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการควบคุมมลพิษของจีน, ความล่าช้าในการเริ่มดำเนินงานของกำลังการผลิตใหม่อาจเป็นอัพไซด์ต่อราคาและส่วนต่างราคาปิโตรเคมี

- Advertisement -