บล.ทรีนีตี้:
โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด – GPSC
คําแนะนํา: ถือ ราคาปิด 70.25 บาท, ราคาเป้าหมาย 75.00 บาท
อัพเดทการประชุมนักวิเคราะห์
Highlight
- ในไตรมาส 4 มี unplanned maintenance ของโรงไฟฟ้า GEN Phase5 ที่มาจากการเสียหายของวัสดุ (cable terminator) ซึ่งทำเกิดความเสียหายถึงขึ้นปิดโรงไฟฟ้าชั่วคราว ในส่วนของโรงไฟฟ้า GHECO1 68% มาจากการเสียหายของวัสดุ 23% มากจากการ delay ของการซ่อมบำรุง PM Breaker เนื่องจากโควิด 19 และอีก 9% มาจากชนิดของถ่านหินที่ไม่เหมาะสมกับเตาเผา ทั้งนี้โรงไฟฟ้าทั้ง 2 โรงได้รับการแก้ไขและป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- ปัจจุบันโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Avaada ที่บริษัทถือ 42.9% มีกำลังการผลิตทั้งหมด 3,931 MW เพิ่มขึ้นจาก 1,392 MW ในตอนที่บริษัทเข้าไป takeover ในปี 2564 และคาดว่าในปี 2566 จะสามารถทำกำไรให้บริษัทฯ ได้ 200 ล้านบาท (คิดตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ)
- วินด์ฟาร์ม Changfang and Xidao เริ่ม COD แล้ว 9.6 MW และคาดว่าจะ COD ครบทั้งหมด 50 เสาในช่วง 1Q66 (GPSC ถือหุ้นอยู่ 25% คิดเป็นกำลังการผลิต 149 MW) บริษัทคาดว่า AXXIVA บริษัทผลิต EV แบตเตอร์ภายใต้ NUOVO PLUS จะสามารถ COD ได้ภายใน 1H66
2566 Outlook
- บริษัทตั้งเป้าเพิ่มยอดขายไฟฟ้าให้ IUS 10% และตั้งเป้าเพิ่มยอดขายไอน้ำ 3% ในปีนี้จะมีโครงการใน Pipeline ทยอย COD คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 350MW (Avaada 200 MW, CFXD and others 150 MW)
- และมีการเพิ่มกำลังการผลิตนอก Pipeline อีกประมาณ 300MW ผ่านการประมูลตามแผน PDP2022 รวมถึงลงทุนผ่านบริษัทที่เข้าไปถือหุ้น
ความเห็นนักวิเคราะห์
- เรามีมุมมองเป็นกลางจากการประชุมนักวิเคราะห์ในปี 2565 ถือเป็นปีที่ท้าทายของบริษัทฯ ไม่ว่าสถาณการณ์ Russia-Ukraine ที่ทำให้ราคาพลังงานทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น ภาวะเงินเฟ้อ, และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายแห่ง ล้วนเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบรุนแรงต่อธุรกิจของ GPSC เราคาดปี 2566 จะเป็นปีที่บริษัทฟื้นตัวโดดเด่น จากเทรนด์ราคาเชื้อเพลิงที่เป็นขาลง รวมถึงการขึ้นค่า Ft ที่จะช่วยเพิ่ม Construbution margin ให้กับบริษัท
- แนวโน้มไตรมาส 1 โต QoQ จากค่า Ft ที่ปรับเพิ่มขึ้น (ปรับขึ้นเป็น 158 สตางค์ จาก 93.43 สตางค์) และไม่มีผลกระทบที่เกิดจากการซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าแบบไม่มีกำหนด เหมือนไตรมาส 4 ของ GEN Phase5 และ Gheco1
- อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมากว่า 20% ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ทำให้อัพไซด์เริ่มจำกัด เราจึงแนะนำให้ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 75 บาท และทยอยสะสมเมื่อราคาต่ำกว่า 70 บาท