Our View? “กำลังภายใน”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,662 / 1,652 และแนวต้านที่บริเวณ 1,670 / 1,678 คาดตลาดอาจเผชิญ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวลดลงแรง จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อและคงอัตราดอกเบี้ยในระดับคุมเข้ม (Restrictive Level) ที่ยาวนานกว่าที่ตลาดคาดไว้ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในหลายๆ ด้านออกมาค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยเมื่อคืนนี้ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาครวมการผลิตและบริการเดือน ก.พ. ของสหรัฐออกมาอยู่ที่ระดับ 50.2 กลับขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 50.0 และเร่งตัวขึ้นจากเดือน ม.ค. ที่ 46.8 สะท้อนความคาดหวังภาคการผลิตสหรัฐกลับมาขยายตัว โดย CME FED Watch Tools ยังคงบ่งชี้ตลาดคาด FED มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% อีก 3 ครั้ง จนอัตราดอกเบี้ยขึ้นแตะระดับ 5.50% ในช่วงเดือน มิ.ย. และจะคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวไปจนถึงช่วงสิ้นปี คาดเป็นปัจจัยหนุนทิศทาง US Bond Yield ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้นอีกครั้ง ล่าสุด 10 Year US Bond Yield ปรับตัวขึ้นอยู่ที่ระดับ 3.95%+/- ลดทอนความน่าสนใจของตลาดหุ้นในเชิงเปรียบเทียบ กดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ อย่างไรก็ดี คาดตลาดจะติดตามการรายงานการประชุม FOMC ของ ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เพื่อจับสัญญาณถึงท่าที่ของ FED ที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และแนวโน้มการปรับใช้นโยบายทางการเงินในช่วงปีนี้ รวมทั้งการรายงานตัวเลขดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ม.ค. ในช่วงสุดสัปดาห์อีกครั้ง

อีกทั้งคาดตลาดอาจได้รับจิตวิทยาเชิงลบ จากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ที่คาดมีความเปราะบางมากขึ้น หลังปธน.โจ ไบเดน เยือนยูเครน เพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนยูเครนในการสู้รบกับรัสเซีย ขณะที่ ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ระงับความร่วมมือในข้อตกลงควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ (New START) รวมทั้งยังให้กระทรวงกลาโหมรัสเซียและบริษัทพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซียเตรียมพร้อมในการทดลองอาวุธ นิวเคลียร์หากมีความจําเป็น มองเป็น Noise รบกวนตลาดได้บ้างเล็กน้อย

สำหรับปัจจัยในประเทศเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่เมื่อวานนี้นายกฯ ส่งสัญญาณถึงการยุบสภาฯ ในช่วงเดือน มี.ค. เพื่อเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งใหญ่ก่อนวันที่ 7 พ.ค. คาดจะกระตุ้นแรงเก็งกำไรในหุ้นในธีม Election Play อาทิ STEC, CK, SEAFCO, MAKRO, CPALL, BJC และ TKS อย่างไรก็ตาม ยังคงแนะนำติดตามการรายงานผลประกอบการ 4Q65 ของหุ้นไทย โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มค้าปลีกต่อ (BJC, CPALL, DOHOME และ HMPRO) โดยเรายังคงคาดหวังการฟื้นตัวขึ้นได้จาก 3Q’65 คาดอาจทำให้ตลาดมีความผันผวนได้บ้าง หลังจากที่การรายงานผลประกอบการ 4Q′65 ในหลาย Sector ที่ส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด คาดจะกดดันทิศทาง EPS ของตลาดในปีนี้ลดลง เป็นปัจจัยกดดัน จํากัด Upside ของตลาดหุ้นไทยได้อยู่ อย่างไรก็ตาม เราแนะนำทยอยซื้อสะสมหุ้นในบางกลุ่มที่ถึงแม้ผลประกอบการออกมาแย่กว่าคาด แต่มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้ต่อในปีนี้ อาทิ 1.) หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC, BGRIM และ GULF) และ 2) หุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, BBL และ SCB) 3.) กลุ่มปิโตรเคมี (SCC, PTTGC และ IVL) เรามองราคาอ่อนตัวลงรับรู้การรายงานผลประกอบการ 4Q′65 ไปบ้างแล้วในระดับหนึ่ง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “STEC”

กลยุทธ์ แนวรับ 13.50 / 13.00 Target 14.50 / 15.50 Stop <12.80

- Advertisement -