Daily Focus: Election Rally vs FED rate hike

2023SET Target: 1750

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่ง Sideways ในช่วงครึ่งเช้า ก่อนที่ช่วงบ่ายจะฟื้นตัวได้แรง หลังมีข่าวนายกฯ มีแผนประกาศยุบสภาต้นเดือน มี.ค. ทำให้มีแรงซื้อหุ้น Domestic Play หนาแน่น หนุนดัชนีปิดบวกได้ 10.94 จุด ณ สิ้นวัน สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 2.8 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเร่งขึ้นและสูงถึง 4.2 พันลบ. (แต่ Long Index Futures 4.6 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways to Sideways Down ผ่อนลงระยะสั้นในกรอบ 1,660-1,675 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ถูกกดดันจากฝั่งสหรัฐฯ ที่ตลาดหุ้นปรับลงแรงกว่า 2% เมื่อคืนที่ผ่านมา ปัจจัยกดดันยังคงเป็นความกังวลต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่สูงกว่าคาดการเดิมถึง 0.5% จากเดิมที่คาด Peak ที่ 4.75-5% เดือน มี.ค. เป็น 5.25-5.50% ในเดือน มิ.ย. เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้น พันธบัตร และส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย คืนนี้รอติดตามรายงานการประชุม FED ส่วนปัจจัยในประเทศโฟกัสยังอยู่ที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 4Q22 ซึ่งสัปดาห์นี้เริ่มเห็นกำไรที่ออกมาฟื้นตัวได้ตามคาดมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Consumption และ Reopening Play ซึ่งคาดว่าจะช่วยคลายความกังวลต่อทิศทางการฟื้นตัวในปี 2023 ได้บ้าง ส่วนอีกปัจจัยหนุนด้าน Sentiment คือการเลือกตั้งทั่วไปที่มีความชัดเจนมากขึ้นทั้งการยุบสภาต้นเดือน มี.ค. และเลือกตั้งต้นเดือน พ.ค. เรายังมองจังหวะพักตัวของดัชนีเป็นโอกาสในการสะสมระยะกลาง-ยาว จากเศรษฐกิจไทยที่ทยอยเร่งตัวขึ้น แนวรับหลักที่ทำให้ SET Index ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นใน ภาพระยะกลางอยู่ที่ 1,630+- จุด ส่วนระยะยาวหากมีจังหวะทดสอบแนวจิตวิทยาที่ 1,600 จุด หรือต่ำกว่าจะเป็นจุดในการเข้าลงทุนที่น่าสนใจ

กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว//ระยะกลาง-ยาวสะสม Domestic และ Reopening Play ช่วงตลาดพักตัว

หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : BA, BDMS, BEM, CENTEL, NOBLE

หุ้นเด่นวันนี้ : SFLEX

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.70 บาท
  • คาด 4Q22 turnaround เป็นกำไรสูงสุดของปี เราคาดกำไร 20 ลบ. +137% q-q, -29% Y-y จากต้นทุนวัตถุดิบราคาแพงที่ใช้หมดไป และการใช้กำลังการผลิตที่ดีขึ้น ทำให้ Margin พลิกดีขึ้นมาก จบปี 2022 คาดกำไรที่ 46 ลบ. -69% y-y
  • คาดโมเมนตัมดีต่อในปี 2023 จาก Gross Margin ที่จะกลับมาสู่ระดับปกติ ส่วนรายได้คาดเติบโตตามการบริโภคในประเทศ คาดกำไรปี 2023 ฟื้นกลับมาที่ 145 ลบ. +215% y-y
  • แนวรับ 3.60//3.44 บาท แนวต้าน 3.70-3.74//3.90-3.94 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคบางๆ US$117 ล้าน แต่นำโดยไทย US$123 ล้าน ขณะที่อาเซียนอื่นไหลออกบางๆ ส่วนฝั่งไต้หวันและเกาหลีใต้เม็ดเงินไหลเข้าบางเพียงประเทศละ US$8-19 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลออก โดยตลาดยังคงกังวลดอกเบี้ยของ FED ที่จะปรับตัวขึ้นมากกว่าคาดและยืนสูงยาวนานขึ้น กดดันเม็ดเงินให้ยังคงไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) Timeline เลือกตั้งชัดเจนมากขึ้น ล่าสุดนายกฯเผยมีแผนยุบสภาช่วงต้นเดือน มี.ค. 23 และการเลือกตั้งคาดว่าจะเกิดขึ้นใกล้เคียงกำหนดการเดิมวันที่ 7 พ.ค. 23 ปัจจัยดังกล่าวสร้างความเชื่อมั่นกับตลาด และหนุนให้ SET Index ฟื้นตัวพอสมควรวานนี้ กลุ่มที่คาดว่าจะได้อานิสงส์เชิงบวกจากการเลือกตั้ง คือ Domestic Play ได้แก่ ค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม สื่อสาร บันเทิง เช่น CPALL MAKRO BJC OSP CBG NSL M CENTEL ADVANC PLANB VGI TKS รวมถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองจะมีแรงเก็งกำไรคึกคัก เช่น SC SIRI PR9 STEC STPI เป็นต้น

(+) BH ผู้บริหารให้เป้ารายได้ปี 2023 เติบโต +8% y-y จากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่ารักษาพยาบาลปรับขึ้น 4.6% บริษัทยังเห็น Demand ที่แข็งแกร่งจากฝั่งลูกค้าต่างชาติ รวมถึงตลาดใหม่อย่างซาอุดิอาระเบีย ด้าน Capacity ที่ค่อนข้างแน่นจะผ่อนคลายขึ้นหลัง Renovate Ward เสร็จใน 1Q23 ทำให้จำนวนเตียงเพิ่มจาก 452 เตียงใน 4Q22 เป็น 480 เตียงใน 1Q23 ด้าน EBITDA Margin อาจมี Upside ต่อกำไร เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2023-2024 ขึ้น เป็นโตเฉลี่ยปีละ +9% y-y สะท้อนกำไร 4Q22 ที่ดีกว่าคาด และแนวโน้มที่ยังสดใส ประเมินราคาเป้าหมายที่ 260 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) DOHOME ขาดทุนสุทธิ 4Q22 ที่ 51 ลบ.ดีกว่าที่เราคาดเล็กน้อย หากไม่รวมผลกระทบจากสำรองน้ำท่วมจะมีกำไรปกติบางๆ 11 ลบ. จบปี 2022 กำไรสุทธิอยู่ที่ 774 ลบ. -57% y-y จาก Margin เหล็กที่กดดัน เราคาดกำไรผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และจะฟื้นตัวใน 1Q23 และเร่งขึ้นใน 2023 เราคาดกำไรปี 2023 เติบโต 1 เท่าตัวเป็น 1.5 พันลบ. บริษัทจ่ายหุ้นปันผล 16 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้น ปันผล ยังคงราคาเป้าหมาย 15 บาท (หลัง XD เหลือ 14 บาท) แนะนำ “ซื้อ”

(+) ERW ประกาศกำไรปกติ 4Q22 ที่ 200 ลบ. พลิก Turnaround และดีกว่าเราและตลาดคาดมากกว่า 40% หนุนจากรายได้ Luxury Hotel และ Hop Inn และ EBITDA Margin ที่สูงกว่าคาด รวมถึงกำไรสูงกว่าช่วง 4Q19 จากผลประโยชน์ทางภาษี กำไร 4Q22 ที่ออกมาดีกว่าคาดสะท้อนแนวโน้มปี 2023 ที่สดใส และความเชื่อมั่นค่อนข้างสูง ปัจจุบันยังคงราคาเป้าหมาย 5 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) SPALI ประกาศกำไรปกติ 4Q22 ที่ 2.17 พันลบ. -21% q-q, -25% y-y อ่อนตัวลงตามตลาดคาดจากยอดโอนที่ลดลงจากฐานสูงในไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน จบปี 2022 กำไรสุทธิอยู่ที่ 8.17 พันลบ. +16% y-y แนวโน้มกำไรปี 2023 เราคาดชะลอลงเป็น 7.2 พันลบ. -12% y-y จากแนวโน้มยอดโอนที่ยังชะลอและ Margin ที่หดตัว ยังคงราคาเป้าหมายที่ 27 บาท แนะนำ “ซื้อ”

 

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 697.10 จุด หรือ -2.06% ปิดที่ 33,129.59 จุด จากข้อมูล PMI สหรัฐที่ออกมาสูงสุดในรอบ 8 เดือน ทำให้นักลงทุนกังวลว่า FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นเวลานานขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ รวมถึงผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทค้าปลีก และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ โดยตลาดการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งได้กระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นต่อไป

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 34.62 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 18 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 76.36 ดอลลาร์/บาร์เรล จากนักลงทุนกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ในขณะที่เช้านี้เช้านี้ปรับลงต่อที่ระดับ 75.97 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.51%

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 7.70 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 1,842.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ในขณะที่เช้านี้รีบาวน์ที่ระดับ 1,845.5 ดอลลาร์/ออนซ์ +0.16

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 919.92 / –

- Advertisement -