บล.ทรีนีตี้

ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA)

ถือ ราคาเป้าหมาย 22 บาท, Upside/Downside -13%, Median Consensus 25 บาท

ASP ยางธรรมชาติสูงกว่าราคาตลาด พร้อมขยายกำลังการผลิต

  • STA รายงานกำไรสุทธิ 4Q65 ที่ 988 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 14.5% QoQ และ 13.7% YoY จากรายได้รวมที่ 2.53 หมื่นล้านบาท ปรับตัวลดลง 13.7% QoQ และ 10.8% YoY
  • รายงานกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 4.79 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 69.7% YoY ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ที่ 4.98 พันล้านบาท โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1.1 แสนล้านบาท ปรับตัวลดลง 6.3% YoY
  • คาด 1Q66 มีผลประกอบการอ่อนตัวลง QoQ และ YoY โดยคาดปริมาณการขายยางธรรมชาติอยู่ที่ 4.0 แสนตัน และคาดว่า 1Q66 จะเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปี 2566
  • คาดปี 2566 จะมีปริมาณการขายยางธรรมชาติที่ 2.0 ล้านตัน ปรับตัวสูงขึ้นจาก 1.5 ล้านต้นในปี 2565 จากการเพิ่มกำลังการผลิต และการเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้อจากกลุ่ม Non- China
  • แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 22.00 บาท จากวิธี SOTP

4Q65 Earnings Review

  • STA รายงานกำไรสุทธิ 4Q65 ที่ 988 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 14.5% QoQ และ 13.7% YoY จากรายได้รวมที่ 2.53 หมื่นล้านบาท ปรับตัวลดลง 13.7% QoQ และ 10.8% YoY
  • STA รายงานกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 4.79 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 69.7% YoY ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ที่ 4.98 พันล้านบาท โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1.1 แสนล้านบาท ปรับตัวลดลง 6.3% YoY
  • สัดส่วนรายได้จากยางธรรมชาติอยู่ที่ 8.76 หมื่นล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 24% YoY โดยมี Gross Margin ที่ 12.9% และมีปริมาณการขายยางที่ 1.5 ล้านตัน ปรับตัวสูงขึ้น 26% YoY และมี ASP ที่ 173.5c/kg ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าคา ASP ตลาดที่ 154.6c/kg เนื่องจาก STA สามารถเพิ่ม Market Share ในตลาดโลกได้ และมียอดสั่งซื้อจากกลุ่ม Non-China เพิ่มมากขึ้น
  • สัดส่วนรายได้จากกลุ่มถุงมือยางอยู่ที่ 2.29 หมื่นล้านบาท ปรับตัวลดลง 51.8% YoY แม้ว่าปริมาณการขายมีการปรับตัวสูงขึ้น 5.5% YoY แต่ ASP มีการปรับตัวลดลงถึง 54% YoY เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ที่ลดลง ประกอบกับ Supply ในตลาดโลกสูงขึ้น
  • Gross Margin รวมในปี 2565 อยู่ที่ 14.3%

ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2566-2567 ลง

เราปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2565-2567 ลงจาก 5.58 พันล้านบาท และ 4.8 พันล้านบาท เป็น 3.6 พันล้านบาท และ 3.2 พันล้านบาท จากการปรับคาดการณ์รายได้ลงเป็น 1.01 แสนล้านบาท และ 1.08 แสนล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้จากกลุ่มถุงมือยางอ่อนตัวลงต่อเนื่อง หลังจาก Supply ในตลาดสูงขึ้น และมีการแข่งขันด้านราคา ส่งผลให้มี ASP อ่อนตัวลง อย่างไรก็ดี เราคาดว่า ASP ของกลุ่มถุงมือยางได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ในขณะที่รายได้จากยางธรรมชาติ คาดว่าจะยังมีปริมาณการขายที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ 2.0 ล้านตัน จาก Demand ที่ย้ายมาจากอินโดนีเซีย และคาดราคายางธรรมชาติจะมีการฟื้นตัวจาก Demand ที่สูงขึ้นจากจีน และกลุ่มผู้ผลิตยางล้อกลุ่ม Non-China โดยคาดว่า ASP ช่วงปี 2566 ของยางธรรมชาติจะอยู่ที่ 140-160c/kg

แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท

เราปรับคำแนะนำลงจาก “ซื้อเก็งกำไร” เป็น “ถือ” หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาเกินราคาเป้าหมายปี 2566 22.00 บาท แต่เรายังคงมีมุมมองบวกต่อกลุ่มยางธรรมชาติที่คาดว่าจะมี Demand สูงขึ้น และ STA สามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่าตลาด SICOM จาก Demand ที่แข็งแกร่งจากกลุ่มผู้ผลิตยางล้อ และการเปิดประเทศจีนที่อาจส่งผลให้มี Demand ยางธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น

ความเสี่ยง: เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอาจส่งผลกระทบต่อ Demand ยางธรรมชาติที่ใช้ในอุตสาหกรรม และการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลต่อความผันผวนของ Demand การใช้ถุงมือยาง

การประเมินมูลค่าหุ้น

เราใช้วิธีประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี SOTP จากการอิง P/E Ratio และคำนวณราคาเป้าหมายปี 2566 เท่ากับ 22.00 บาทต่อหุ้น โดยเราเลือกใช้ P/E Ratio ที่ 9X สำหรับกลุ่มยางธรรมชาติ และอิง P/E ที่ 12X สำหรับกลุ่มถุงมือยาง และจาก EPS ปี 2566 ทำให้หุ้น STA มีราคาเป้าหมายที่ 22.00 บาทต่อหุ้น

- Advertisement -