สรุปภาวะตลาด

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ ตลอดช่วงการซื้อ-ขาย ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลง สาเหตุจากข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ทำให้เฟดต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นเวลานาน ประกอบกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ขายหุ้นไทยต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,659.48 จุด -9.15 จุด -0.55% มูลค่าการซื้อขาย 55,106 ลบ. ต่างชาติ -4,278.26 ลบ. TFEX -48,240 สัญญา ตราสารหนี้ -364.43 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ เกาหลีใต้จะไม่บังคับให้นักเดินทางจากจีนตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังจากที่เดินทางเข้าเกาหลีใต้อีกต่อไป โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมี.ค. แม้ว่านักเดินทางจากจีนจะยังจำเป็นต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 ที่เป็นลบ ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทางก็ตาม

+ ฮ่องกงจะแจกจ่ายเงินให้กับประชาชน เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังเผชิญภาวะขาลงจากผลพวงของการบังคับใช้มาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

+ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่หดตัวลงในไตรมาส 4/2565 โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะได้แรงหนุนจากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย และจากการที่ไทยสามารถรับมือกับการส่งออกที่ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเชา

ปัจจัยลบ –

– ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 84.50 จุด หรือ -0.26% หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งบ่งชี้ว่า กรรมการ เฟดส่วนใหญ่สนับสนุนให้คณะกรรมการเฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.41 ดอลลาร์ -3.2% ปิดที่ 73.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. 2566 โดยปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

– เจ้าหน้าที่กู้ภัยของจีนจำนวนมากกว่า 300 คนได้เร่งเข้าช่วยเหลือแรงงานที่ยังคงติดอยู่ภายในเหมืองถ่านหิน แห่งหนึ่งในเขตปกครองตนเองมองโกเลียตอนใน

– หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบจีน สั่งห้ามบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนให้บริการแชตจีพีที (ChatGPT) ต่อสาธารณชนท่ามกลางกระแสความวิตกกังวลในจีน เกี่ยวกับกรณีที่ ChatGPT ตอบคำถามผู้ใช้งานแบบไม่มีการเซ็นเซอร์คำตอบ

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวน โดยนักลงทุนยังคงกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงต่อเนื่องยังกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันน้ีที่ 1,655-1,665 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • จีนเปิดประเทศ+เราเท่ียวด้วยกันเฟส 5 : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
  • หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
  • หุ้นเช่ือมโยงการเมือง : TKS SIRI PR9 SC STEC
  • หุ้นเข้าคำนวณ MSCI Global Standard : เข้า BANPU ออก – , MSCI Global Small Cap : เข้า AURA BTG ONEE SNNP และ THCOM ออก BANPU COM7 TIDLOR และ TISCO มีผล 28 ก.พ.นี้
  • BOI ส่งเสริมการลงทุนชิ้นส่วน EV : EA GPSC BCP DELTA PIMO FPI

หุ้นรายงานพิเศษ

ITC – ซื้อ (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 40 บาท) “ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงคึกคักหนุนรายได้เติบโตดี”

  • ปี 65 มีรายได้จากการขาย 22,528 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 217%yoy จากยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น 284%yoy ชดเชยยอดขายอาหารทะเลแปรรูปที่ลดลง 42%yoy อัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นสู่ระดับ 25% จาก 23.1% ในปี 64 ส่งผลให้มีกำไรสุทธิสำหรับงวดการดำเนินงานต่อเนื่อง 4,430 ล้านบาท เติบโต 538%yoy อัตรากำไรสุทธิ 20.5% ดีกว่าระดับ 18.7% ในปี 64 กำไรที่ดีกว่าคาด 10% เนื่องจากรายได้จากการขายดีกว่าคาด 13% และสมมุติฐานภาษีเงินได้ต่ำกว่าคาด 61% (อัตราภาษีเงินได้ 1.6% สมมติฐาน 4.3%)
  • ปี 66 เป้ารายได้จากการขายเติบโต 15-17%YoY โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีแนวโน้มเติบโตดี (CAGR 7% ต่อปี) อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวที่ระดับ 25% การสร้างโรงงานใหม่ทำให้ยังได้ BOI ต่อเนื่องถึงปี 2570
  • ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของรายได้และผลการดำเนินงาน จากการขยายฐาน ลูกค้ากลุ่มใหม่ไปในจีนและโซนยุโรป ทั้งนี้ Bloomberg consensus คาดกำไรปี 66 เฉลี่ย 4,724 ล้านบาท +6%yoy

หุ้นมีข่าว

(+) SMPC (Bloomberg consensus 11.35 บาท) ตั้งเป้ายอดขายปี 2566 โต 20% ลุยขายถังแก๊ส 7.5 ล้านใบ เชื่อมั่นความต้องใช้เพิ่มขึ้น ขณะที่ตลาดต่างประเทศเริ่มมีคำสั่งซื้อมากขึ้น พร้อมวางงบลงทุน 135 ล้านบาท เสริมกำลังการผลิต ขยายคลังสินค้า ส่งซิกไตรมาส 1/2566 ใกล้เคียงไตรมาส 4/2565 และเริ่มฟื้นกลับมาเป็นปกติต้ังแต่ไตรมาส 2/2566 เป็นต้นไป (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ADVANC (Bloomberg consensus 239.00 บาท) ล้ำลึก “บิ๊กสมชัย” ฉายภาพมีสิทธิขยายลูกค้าถึง 100 ล้านเลขหมาย ชี้เทคโนโลยีปลุกผู้ใช้ต้องมีซิมเพิ่ม ประกาศวางเกมใหญ่ Cognitive Telco ดึงลูกค้าอยู่ในอีโคซิสเต็ม ปักธง Virtual Bank ร่วมพันธมิตร KTB-GULF จับตาลูกค้าย้ายค่าย หลัง TRUE-DTAC ควบช่วงแรก ยืนยันใช้คุณภาพไม่เล่นสงครามราคา (ที่มา ทันหุ้น)

(+)TKS (Bloomberg consensus 14.90 บาท) เจรจากกต.เรื่องติดตามงานบัตรเลือกตั้ง โอกาสได้งานสูง หลังสถิติที่ผ่านมารับงานต่อเนื่อง มองเป็นอัพไซด์ต่อผลประกอบการ ส่วนผลงานปี 2566 มั่นใจรักษาการเติบโตจากปีก่อน จ่อบุ๊กงบ AIT-MSC ครึ่งปีหลัง เดินหน้าเรื่อง “Tech Ecosystem Builder” ตามแผน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EPG (Bloomberg consensus 10.15 บาท) รับอานิสงส์ค่ายรถอีวีแห่ตั้งโรงงานในไทย ชี้หนุน ออเดอร์ชิ้นส่วนพุ่ง แถมเดินหน้าทุ่มงบ 952 ล้านบาท ลุยขยายฐานต่อเนื่องอีก 3 ปี ปูทางรับทรัพย์เพิ่ม บิ๊ก “รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์” แย้มโค้งท้ายแจ่ม รับดีมานด์ทะลักอื้อ (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ
  • 28 ก.พ. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย กําหนดวันสุดท้ายบริษัทจดทะเบียนส่งงบปี 65
  • 7 พ.ค. เลือกตั้ง
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
  • 23 ก.พ. อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค.
    • สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ GDP 4Q65 (ประมาณการครั้งที่ 2) สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนม.ค.
  • 24 ก.พ. สหรัฐ รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.
  • 27 ก.พ. อียูรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนธ.ค.
    • สหรัฐ รายงานยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนม.ค.
  • 28 ก.พ. ญี่ปุ่น รายงานยอดค้าปลีกเดือนม.ค. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.
    • สหรัฐ รายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน ม.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.
- Advertisement -