บล.บัวหลวง:

Bangkok Dusit Medical Services (BDMS TB/BDMS.BK)

BDMS – เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด แต่เงินปันผลต่อหน่วยสำหรับครึ่งหลังของปี 2565 สูงขึ้น

กําไรเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด

BDMS รายงานกำไรหลักไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY แต่ลดลง 8% QoQ จากไตรมาสที่ดีที่สุดอันดับสองของสถิติสูงสุด ซึ่งเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด BDMS ประกาศจ่ายเงินปันผลสําหรับครึ่งหลังของปี 2565 ที่ 0.30 บาทต่อหุ้น (ซึ่งมากกว่าที่เราคาดที่ 0.15 บาทต่อหุ้น และมากกว่าตลาดคาดที่ 0.20 บาทต่อหุ้น) ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลที่ 1.0% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 8 มี.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 24 เม.ย.)

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

กําไรหลักเติบโต YoY เนื่องจากรายได้ผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติ กำไรหลักลดลง QoQ เนื่องจากรายได้จากโรคที่ไม่ใช่ COVID ปรับตัวลดลง รายได้ธุรกิจการแพทย์อยู่ที่ 22.6 พันล้านบาท (เป็นผู้ป่วยชาวไทย 73%, ผู้ป่วยต่างชาติ 27%) เพิ่มขึ้น 8% YoY และ ทรงตัว QoQ เนื่องจากปริมาณผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น รายได้จากผู้ป่วยชาวไทยอยู่ที่ 16 พันล้านบาท ลดลง 4% YoY และ 2% QoQ เนื่องจากผู้ป่วยจากโรค COVID-19 ที่ลดลง รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติอยู่ที่ 6.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% YoY และ 3% QoQ (ซึ่งเท่ากับระดับก่อนช่วงโควิดในไตรมาส 4/62)

ปริมาณผู้ป่วยต่างชาติ โดยหลักมาจากผู้ป่วยฝั่งตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และ CLMV (ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) โดยเฉพาะที่ศูนย์ ความเป็นเลิศ (CoE) รับผู้ป่วยชาวต่างชาติเป็นจํานวนมาก

หากไม่รวมรายได้จากโรค COVID (คิดเป็น 2% ของรายได้) รายได้หลักธุรกิจการแพทย์อยู่ที่ 22.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% และ 6% QoQ รายได้อยู่ที่ 907 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY และ ทรงตัว QoQ อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 37.2% (อัตรากําไรขั้นตัวขยายตัวเร็วที่สุดในปี 2565) ลดลง 20bps YoY แต่เพิ่มขึ้น 20bps QoQ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 21.0% ลดลง 70bps YoY แต่เพิ่มขึ้น 200bps QoQ BDMS รายงานอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิอยู่ที่ 0.01 เท่า ณ สิ้นปี 2565

แนวโน้ม

กําไรหลักไตรมาส 1/66 มีแนวโน้มทรงตัว YoY (กำไรหลักทำสถิติสูงสุดที่ 3.4 พันล้านบาท) แต่เพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากช่วงโลว์ซีซั่นของกลุ่มโรงพยาบาลในไตรมาส 4/65 เราคาดรายได้ธุรกิจการแพทย์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY และทรงตัว QoQ เนื่องจากผู้ป่วยที่ไม่ใช่โรคโควิด เราคาดว่าอัตรากําไรขั้นต้นจะอยู่ในกรอบช่วง 35-37% ทรงตัว YoY และ QoQ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายคาดจะทรงตัว YoY แต่ลดลง QoQ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราคาด BDMS จะรายงานกำไรหลักทำสถิติใหม่สูงุสุดในปี 2566 ที่ 13 พันล้านบาท (สูงกว่าระดับก่อนช่วงโควิดปี 2565 29%) ปัจจัยหนุนจะมาจากการเติบโตของรายได้ธุรกิจการแพทย์ 4% และการรักษาอัตรากำไรหลักในระดับสูงที่ 13.7% เราคาดว่าธุรกิจผู้ป่วยต่างชาติจะฟื้นต่อเนื่องในปีน้ี โดยเฉพาะผู้ป่วยชาวจีน และการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางและข้อกำหนดในการกักตัว

คำแนะนำ

การจ่ายเงินปันผลสำหรับครึ่งหลังของปี 2565 ที่ 0.30 บาทต่อหุ้น และแนวโน้มปี 2566 ท่ีแข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะกลาง-ยาว แนะนำให้นักลงทุนซื้อสะสม BDMS เนื่องจากคาดการณ์การฟื้นตัวของอุปสงค์ผู้ป่วยชาวจีนในปีน้ี (ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้หลัก) เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ณ สิ้นปี 2566 ที่ 32 บาท (จากสมมติฐาน WACC ที่ 6.9% และ Terminal Growth ที่ 2%)

 

- Advertisement -