บล.บัวหลวง:

Berli Jucker (BJC TB /BJC.BK)

BJC – กำไรสุทธิมากกว่าคาด เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านภาษี

กําไรมากกว่าที่เราคาด

BJC รายงานกำไรหลักไตรมาส 4/65 ที่ 1,672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% YoY และ 88% QoQ ซึ่งมากกว่าที่เราคาด 12% (มากกว่าตลาดคาด 7%) โดยหลักมาจากค่าใช้จ่ายด้านภาษีที่ต่ำกว่าคาด เมื่อมองกําไรก่อนภาษี กําไรต่ำกว่าที่เราคาด 7% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของ supply chains ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (PSC) และธุรกิจผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค (CSC) ต่ำกว่าที่เราคาด

ในขณะที่การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของ BigC ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งที่ 2% (ไม่รวมยอดขายธุรกิจ B2B, การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมในไตรมาสนี้อยู่ที่ 6%) ซึ่งหนุนการเติบโตของกำไรในไตรมาส 4/65 ของ BJC (BigC คิดเป็น 64% ของยอดขายในไตรมาส 4/65 ของ BJC) สำหรับปี 2565 บริษัทรายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,010 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% YoY

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

ยอดขายไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 39,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และ 6% QoQ ในบรรดา supply chains ของ BJC กลุ่มบรรจุภัณฑ์ (หรือ PSC, คิดเป็น 17% ของยอดขาย) รายงานการเติบโตของรายได้มากที่สุด ซึ่งอยู่ที่ 6,681 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY และ 7% QoQ หนุนโดยยอดขายกระป๋องในประเทศไทย ในทางตรงกันข้าม ซัพพลายเชนของสินค้าบริโภค (หรือ CSC คิดเป็น 14% ของยอดขาย) รายงานรายได้ที่ 5,423 ล้านบาท ลดลง 10% YoY และ 2% QoQ การปรับตัวลดลงของรายได้ YoY มีสาเหตุหลักมาจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ โลจิสติกส์ให้กลับไปอยู่ใต้ BIGC (หากไม่มีการปรับโครงสร้าง ยอดขาย CSC จะเพิ่มขึ้น YoY) ในไตรมาส 4/65 อัตราการเช่าร้านค้าของ BIGC เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้ค่าเช่าอยู่ที่ 2,303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY และ 1% QoQ (บริษัทรายงานอัตราการเช่าร้านที่ 88.2% ในไตรมาส นี้ เพิ่มขึ้นจาก 87.3% ในไตรมาส 4/64)

อัตรากําไรขั้นต้นโดยรวมอยู่ที่ 18.8% ลดลงจาก 19.5% ในไตรมาส 4/64 แต่เพิ่มขึ้นจาก 18% ในไตรมาส 3/65 โดย BIGC รายงานอัตรากําไรขั้นต้นที่ 18.8% (เพิ่มขึ้นจาก 17.5% ในไตรมาส 4/64 และ 16.9% ในไตรมาส 3/65) ต้นทุนก๊าซธรรมชาติและโซดาแอชที่สูงขึ้น และผลกระทบจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าในไตรมาส 3/65 ส่งผลให้ PSC รายงานอัตรากำไรขั้นต้นที่ 14.8% ลดลงจาก 21.6% ในไตรมาส 4/64 และ 16.5% ในไตรมาส 3/65 (สินค้าคงคลัง ของ PSC อายุประมาณสามเดือน ดังนั้น เงินบาทที่อ่อนค่าในไตรมาส 3/65 กดดันอัตราหาไรขั้นต้นในไตรมาส 4/65)

แนวโน้ม

จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของ BigC ที่ 2-3% ในเดือนม.ค. (และเราคาดโมเมนตัมน่าจะอยู่ระดับนี้สำหรับไตรมาส 1/66) BJC น่าจะสามารถรายงานกำไรเติบโต YoY ในไตรมาส 1/66 แต่ปัจจัยฤดูกาลและค่าไฟฟ้าต่อหน่วยที่สูงขึ้นจะส่งผลให้กำไรลดลง QoQ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

ผลการดำเนินการในปี 2565 โดยรวมค่อนข้างใกล้เคียงกับที่เราคาด เมื่อมองไปข้างหน้า รายได้ค้าปลีกและรายได้ค่าเช่าของ BigC น่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเปิดประเทศ และ BJC จะจัดการผลขาดทุนสะสมได้มากขึ้น ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านภาษี (บริษัทระบุว่ามีเกราะป้องกันภาษีอีก 2-3 ปี) เรายังคงประมาณการกำไรปี 2566-67 ของเราและราคาเป้าหมายยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

คำแนะนำ

ปัจจุบัน BJC ซื้อขายที่ PER ปี 2566 ที่ 26 เท่า ใกล้เคียงกับ 2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยใน อดีตที่ 34.4 เท่า การฟื้นตัวของกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2566 จะป้องกันหุ้นจากความเสี่ยงด้านขาลงซื้อ!

 

- Advertisement -