PIMO-ไพโม่ ทำผลงานปี 65 ตามเป้ารายได้แตะ 1,195.50 ลบ. มีกำไรสุทธิ 105.27 ลบ. พร้อมปันผลงวดครึ่งปีหลังหุ้นละ 0.042 บ.
PIMO-ไพโม่ ประกาศงบปี 65 มีรายได้อยู่ที่ 1,195.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.65% จากปี 64 ทำได้ 990.91 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 105.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.11% จากปี 64 ทำได้ 102.09 ล้านบาท ขณะที่บอร์ดไฟเขียวอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังหุ้นละ 0.042 บาท กำหนดขึ้น XD วันที่ 2 พ.ค.66 ด้านหัวเรือใหญ่ “วสันต์ อิทธิโรจนกุล” ปักเป้าปี 66 กวาดรายได้ 1,300 ล้านบาท พร้อมดันผู้บริหารคนรุ่นใหม่วิสัยทัศน์ไกล ขึ้นสานต่อธุรกิจ
นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO-ไพโม่ ผู้ประกอบธุรกิจหลักผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioning Motor) มอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป (Induction Motor) เครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำ มอเตอร์สำหรับปั๊มบ้าน (Submersible Pump,Pool Spa Pump and Home Pump) เปิดเผยว่าผลประกอบการในปี 2565 ของบริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 1,195.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204.59 ล้านบาท หรือ 20.65% จากปี 2564 ที่ทำได้ 990.91 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 105.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.18 ล้านบาท หรือ 3.11% จากปี 2564 ที่ทำได้ 102.09 ล้านบาท
หลังได้รับปัจจัยบวกจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายทุกผลิตภัณฑ์ ประกอบกับบริษัทฯ ยังคงมีกำไรจากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการเกี่ยวกับปัจจัยต้นทุนวัตถุดิบและค่าเงินบาทได้เป็นอย่างดี
นายวสันต์ กล่าวต่อไปว่าคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลังกรกฎาคม-ธันวาคม 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.042 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิ ส่วนที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน 0.01 บาท และจ่ายจากกำไรสุทธิ ส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน 0.032 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2566
ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-10% หรือแตะ 1,300 ล้านบาท จากปี 2565 เนื่องจากเน้นการบริหารจัดการสำหรับการรับออเดอร์ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องให้ดีที่สุด เพื่อรักษาต้นทุนในการผลิต หลังจากบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้รับปัจจัยบวกจากกรณีที่ออสเตรเลียอยู่ระหว่างการออกกฎหมายควบคุมปั๊มสระว่ายน้ำให้ใช้ VSM เช่นเดียวกับสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ในปี 2567 ประกอบกับบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการขอมาตรฐาน SASO ซึ่งเป็นมาตราฐานสินค้าของประเทศซาอุดิอาระเบีย หากได้รับการรับรองดังกล่าวคาดว่าจะช่วยเพิ่มลูกค้าให้บริษัทฯ ได้อีก 3 ราย
“สำหรับปี 2566 เราตั้งเป้าบนพื้นฐานที่ว่าสงครามรัฐเซียไม่ยืดเยื้อไปกว่านี้หรือไม่ขยายวงมากกว่านี้และสภาวะอากาศไม่แปรปรวนอะไรมากมาย สิ่งที่เกิดขึ้นภาพของการผลิตมอเตอร์ AC ลูกค้ารายเดิมอาจจะลดจำนวนลง เพราะต้องการบริหารจัดการออเดอร์ แต่เราได้ลูกค้ารายใหม่มาเมื่อไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ซึ่งคำสั่งซื้อเข้ามาเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นมองในภาพรวมของมอเตอร์ AC โตขึ้น 5-7% จากปีที่ผ่านมา BLDC ปี 66 การเติบโตก้าวกระโดดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 120 ลูกต่อวัน เป็น 200 ลูกต่อวัน โดยประมาณและจากกระแสความต้องการสินค้าประหยัดพลังงาน จึงทำให้มอเตอร์ BLDC ซึ่งมีอัตราการประหยัดไฟสูงกว่ามอเตอร์ AC ได้รับความนิยมอีกด้วย ” นายวสันต์ กล่าว
อย่างไรก็ตามในปีนี้คงเป็นอีก 1 ปีที่บริษัทฯ จะสามารถสร้างผลการดำเนินงาน New High เพราะด้วยปัจจัยบวกและพื้นฐานของบริษัทฯ ที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้บุคลากรของบริษัทฯ ทุกฝ่ายซึ่งเป็นฟันเฟืองที่สำคัญ ยังมีความตั้งใจในการทำงาน โดยเฉพาะการวางแผนให้ผู้บริหารคนรุ่นใหม่ วิสัยทัศน์ไกล ขึ้นมาสานต่อการทำงานและบริหารองค์กร ให้มีความยั่งยืน นำพาธุรกิจเติบโตไปข้างหน้า สร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนในอนาคต