บล.ฟิลลิป:

ศุภาลัย – SPALI ปี 66 โตต่อ แถมลดทุนผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์

Key Point

ปี 66 เปิดตัว 37 โครงการ รวมมูลค่า 41,000 ลบ. แนวราบ 80% เน้นสัดส่วนต่างจังหวัด สร้างจุดเด่นเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งกว่าผู้พัฒนาท้องถิ่น ,ส่วนคอนโดปีนี้มีครบกำหนดโอน 2 โครงการ ทำให้สัดส่วนรายได้คอนโด น้อยลงกว่าปีก่อน, คาด GPM ลดลงอยู่ที่ 38%, กำไรสุทธิ 8,911 ลบ. +9.0% y-y, 4Q65 มีลดทุนจากหุ้นที่ซื้อคืน เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลประโยชน์ ทำให้ EPS สูงขึ้น ราคาพื้นฐานปี 66 อยู่ที่ 31.0 บาท/หุ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ปี 65 กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ปี 65 SPALI มี Reject rate ที่ลดลง แสดงถึงความต้องการปล่อยกู้ของธนาคารที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะยังเป็นแบบนี้ต่อในปี 66 ทำให้ตลาดอสังหาฯ ยังไปต่อได้ ส่วนเงินเฟ้อและค่าแรงที่เพิ่มขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อความต้องการมีที่อยู่อาศัย เนื่องจากเป็นสิ่งที่ผู้บริโภครับรู้ล่วงหน้าถึงข่าวสาร ทำให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์มาอยู่ก่อนแล้ว เป็นผลให้บริษัทเติบโตได้ท่ามกลางสภาวะที่ผันผวน โดยทำกำไรสุทธิ ปี 65 ไว้ที่ 8,173 ลบ. โตขึ้น 15.6%y-y สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ปี 66 มั่นใจยังโตได้ต่อ

ปี 66 บริษัทมีแผนเปิดตัว 37 โครงการ มูลค่า 41,000 ลบ. +10%y-y, สัดส่วนแนวราบ 80% พอร์ตหลักยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิม mid-high แต่มีการลดสัดส่วนทาวน์โฮมลง และเพิ่มสัดส่วนบ้านระดับ high-end มากขึ้นในหัวเมืองต่างๆ ทำให้ SPALI จะเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งกว่าผู้พัฒนาฯท้องถิ่น, ปีที่ผ่านมาขายบ้านที่ภูเก็ตได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว มั่นใจยังครองตลาดภูเก็ตได้อย่างน้อยไปอีก 2 ปี

คอนโดปีนี้มีครบกำหนดโอน 2 โครงการ ใน 2Q65 มูลค่า 1,465 ลบ. และ 3Q65 มูลค่า 2,300 ลบ. ขายแล้วเกือบ 100% ทั้ง 2 โครงการ, มีโครงการครบกำหนดโอนน้อยกว่าปีก่อนทำให้คาดว่าปีนี้ สัดส่วนยอดโอนคอนโดจะลดลง และทำให้ GPM ลดลงตาม, ยังคงมองตลาดคอนโดฟื้นตัวต่อทั้งปัจจัยในประเทศที่การจราจรกลับมาติดขัด, โรงเรียนกลับมาเปิดตามปกติ, และประเทศจีนที่มีปัญหาเรื่องโรงเรียนนานาชาติ ล้วนเป็นปัจจัยเสริมต่อความต้องการซื้อคอนโด

สิ้นปีที่ผ่านมามี Backlog รวมอยู่ที่ 19,173 ลบ. เป็นส่วนที่รอรับรู้ในปี 66 มูลค่า 14,771 ลบ., 1Q66 จะเปิดตัว 4 โครงการมูลค่ากว่า 8 พันลบ. คาดรายได้โอนกว่า 9.2 พันลบ. เพิ่มขึ้น q-q แต่ลดลง y-y เล็กน้อย

ปี 66 ตั้งเป้า Presale 36,000 ลบ. +11%y-y ทางฝ่ายฯ คาดรายได้ 37,000 ลบ. +7.3%y-y, GPM 38% ลดลง y-y, SG&A 11.2% ใกล้เคียงกับปีก่อน, คาดกำไรสุทธิไว้ที่ 8,911 ลบ. +9.0%y-y, ประกาศปันผลครึ่งปีหลังของปี 65 ไว้ที่ 0.75 บาท

ราคาพื้นฐานปี 2566 ที่ 31.00 บาท/หุ้น อิง P/E 6.8 เท่า

ทางฝ่ายประเมินราคาหุ้น โดยใช้ P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี เนื่องจากสะท้อนภาพของธุรกิจปัจจุบันได้เป็นอย่างดีอยู่ที่ 6.8 เท่า โดยคาดการกำไรสุทธิปี 66 อยู่ที่ 8,911 ลบ. EPS 4.56 ราคาพื้นฐานปี 2566 อยู่ที่ 31.00 บาท/หุ้น และคาดปันผล 1.58 บาทต่อหุ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ / อัตราการจ้างงาน / อัตราดอกเบี้ย
  2. ทำเลที่ตั้ง, ลักษณะโครงการ ความสมดุลของอุปสงค์และอุปทานในตลาดที่อยู่อาศัย
  3. นโยบายลงทุนภาครัฐ
- Advertisement -