สรุปภาวะตลาด

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน แกว่งตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ จากความกังวลว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยแรงขายมาจากหุ้นกลุ่มพลังงาน การแพทย์ และกลุ่มการเงิน ส่วนนาง ส่วนแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ปรับตัวลงมาก่อนหน้า และมีการประกาศจ่ายเงินปันผล ส่งผลให้ ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,627.35 จุด -6.67 จุด -0.41% มูลค่าการซื้อขาย 54,202 ลบ.ต่างชาติ 2,380.59 ลบ. TFEX +4,905 สัญญา ตราสารหนี้ -1,297.78 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 72.17 จุด +0.22% นักลงทุนซ้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักใน สัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

+ เฟด สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจําลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.8% ในไตรมาส 1/2566

+ ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ม.ค.66 ว่าเศรษฐกิจไทยในเดือน ม.ค.66 พบว่าดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และสูงสุดในรอบ 26 เดือน โดยอยู่ที่ 51.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 49.7

ปัจจัยลบ-

– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 64 เซนต์ หรือ 0.84% ปิดที่ 75.68 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจาก ความกังวลที่ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ อาจจะผลักดันให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง

– ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น หดตัวลงในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 8 เดือนในเดือนม.ค. ขณะที่อุปสงค์ จากต่างประเทศที่ลดลงส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมหลักต่างๆ อาทิ ธุรกิจผลิตรถยนต์ และอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์

– ทำเนียบขาวให้เวลาหน่วยงานรัฐบาล 30 วัน ในการรับประกันว่าจะไม่มีแอปพลิเคชั่นติ๊กต๊อก TikTok ของจีนอยู่ในอุปกรณ์และระบบต่างๆ ของรัฐบาลอีกต่อไป

– ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า ไวรัสโอมิครอบสายพันธุ์ XBB.1.5 ได้เพิ่มการแพร่ระบาด ในสหรัฐ

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีวันนี้มีโอกาส Rebound ระยะสั้น โดยนักลงทุนยังกังวลเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงิน เฟ้อ ขณะที่ปัจจัยในประเทศวันนี้มีแรงหนุนจากการปรับน้ำหนัก MSCI มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,620-1,635 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • จีนเปิดประเทศ+เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
  • หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
  • หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : TKS SIRI PR9 SC STEC STPI
  • หุ้นเข้าคำนวณ MSCI Global Standard : เข้า BANPU ออก – , MSCI Global Small Cap : เข้า AURA BTG ONEE SNNP และ THCOM ออก BANPU COM7 TIDLOR และ TISCO มีผล 28 ก.พ.น้ี
  • BOI ส่งเสริมการลงทุนช้ินส่วน EV : EA GPSC BCP DELTA PIMO FPI

หุ้นรายงานพิเศษ

PRINC “เก็งกำไร – คาดแนวโน้มรายได้ปี 66 โตต่อเนื่อง 2-3% แม้ฐานสูง”

  • งวด 4Q65 ขาดทุน 212 ลบ. (4Q64 กำไร 120 ลบ. และ 3Q65 ขาดทุน 104 ลบ.) จากค่าใช้จ่าย One-time item คือ ค่าเสื่อมสภาพ และการบริจาควัคซีนโควิด-19 ซึ่งทั้งปี 65 มีรายการดังกล่าว 219 ลบ. แบ่งบันทึกในงวด 3Q65 ราว 150 ลบ. และ 4Q65 ราว 70 ลบ. ตามลำดับ โดยงวด 4Q65 มีรายได้จากการให้บริการทางการแพทย์ 1,211 ลบ. -26%YoY -11%QoQ จากสัดส่วนรายได้กลุ่ม Covid-19 ที่ปรับลดลงสู่ระดับ 13% (4Q64 46%, 3Q65 = 22%) หากพิจารณา เฉพาะรายได้กลุ่ม Non Covid-19 ยังคงเติบโต 22%YoY และทรงตัว QoQ โดยทั้งปี 65 มีรายได้และกำไร 6,805 ลบ. +32%YoY และ 240 ลบ. +202%YoY ตามลำดับ
  • ความเห็น เรามีมุมมองเป็นกลางต่อผลประกอบการ 4Q65 อย่างไรก็ตาม คาดแนวโน้มรายได้ปี 66 โตต่อเนื่อง 2-3% แม้ฐานสูง โดยปัจจัยเติบโตหลักมาจากผู้ป่วยกลุ่ม Non Covid-19 ที่คาดจะมีโมเมนตัมดีต่อเนื่อง จาก การกลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติและการเปิดประเทศ สอดคล้องกับแผนก่อนหน้านี้ที่มุ่งเน้นขยายศักยภาพการให้บริการไปยังโรคที่มีความซับซ้อน และการให้บริการอื่นๆ อาทิ Wellness Centre ตลอดจนแผนรองรับผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดจะช่วยหนุนรายได้และอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PE 39.31 สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 24.5x จึงแนะนำเก็งกำไร

หุ้นมีข่าว

(+) DMT (Bloomberg consensus – บาท) ทางโล่ง! ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยขึ้นค่าผ่านทางโดยชอบ ปลดล็อกความกังวล หันกลับมาโฟกัสธุรกิจ ทึ่ง! อัตรากำไรสุทธิปี 2565 สูงถึง 42% ทั้งๆ ที่ผู้ใช้ทางเฉลี่ย 8.5 หมื่นคันต่อวัน ชูบริหารต้นทุนดี คนแห่ใช้อีซีพาสเยอะ 40% ต้นทุนพนักงานลดปีนี้ จราจรไม่ต่ำกว่า 1.1 แสนคันต่อวัน ดอนเมืองแน่นเป้ารายได้โต 30% เดินหน้าประมูลเส้นทางกะทู้-ป่าตอง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NEX (Bloomberg consensus 24.00 บาท) เดินหน้าขายไอพีโอ “เทอร์ราไบท์พลัส” จำนวน 20 ล้านหุ้น ระดมทุนเข้าตลาด mai ไตรมาส 4/2566 ใช้สิทธิผู้ถือหุ้น NEX 51% โบรกยกนิ้วโป้งกำไร ,ไตรมาส 4/2565 เติบโตโดดเด่นกว่าคาด สั่งปรับกำไรปี 2566 ขึ้น คาดปีนี้ส่งมอบรถ 4,000 คัน ยังมีคำสั่งซื้อรถเมล์ไฟฟ้า ขสมก. อีกราว 2 พันคัน ราคาเป้าหมายที่ 24.00 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BC (Bloomberg consensus – บาท) ปักธงรายได้ปี 2566 แตะระดับ 700 ล้านบาท อานิสงส์ธุรกิจโรงแรมและรีเทลฟื้น แย้มแผนขายโครงการเพิ่ม 2-3 แห่ง มูลค่ารวม 600 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าธุรกิจกัญชาเต็มสูบ รุกขยายอาณาจักรร้านขายกัญชาแบรนด์ KANA เพิ่มเป็น 20 สาขา ภายในปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) IRPC (Bloomberg consensus 3.15 บาท) รับอานิสงส์ดีมานด์ใช้น้ำมัน ปิโตรเคมีทั่วโลกฟื้นตัว หนุนค่าการกลั่นปรับตัวดีขึ้นคาดเฉลี่ยทั้งปี 2566 ที่ราว 13-14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สวนทางต้นทุนน้ำมันที่ลดลงหนุนกำไร พร้อมกำงบ 1 หมื่นล้านบาท ลุยลงทุน UCF ที่มีแผน COD ปี 2567 แถมศึกษาแผน M&A ตามโครงการ Strategic Projects อีกกว่า 3.1 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 28 ก.พ. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย กําหนดวันสุดท้ายบริษัทจดทะเบียนส่งงบปี 65 สํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
  • 7 พ.ค. เลือกตั้ง

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 28 ก.พ. ญี่ปุ่น รายงานยอดค้าปลีกเดือนม.ค. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.
    • สหรัฐ รายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน ม.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.
  • 1 มี.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ เดือนก.พ.จากสํานักงานสถิติแห่งชาติ (NBS)
    • อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากเอสแอนด์พี โกลบอล
    • สหรัฐ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากเอสแอนด์พี โกลบอล สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสํานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • 2 มี.ค. อียู รายงานอัตราว่างงานเดือนม.ค.
    • สหรัฐ รายงานจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รายสัปดาห์
- Advertisement -