รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนี รีบาวด์

Market wrap & Outlook

  • วานนี้ SET ยังย่อต่อ กดดันโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี PTT IVL SCC สื่อสาร ADVANC INTUCH ไฟแนนซ์ TIDLOR รพ. BDMS ส่วนหุ้นบวกสวน เช่น SCB KBANK CPALL AURA BEC TEAMG BVG PSG YGG
  • วันนี้คาดดัชนี รีบาวด์ กลยุทธ์คงคาดดัชนีใกล้จบรอบการปรับฐาน หลังสิ้นสุดฤดูกาลประกาศงบปี ขณะที่ราคาหุ้นรายตัว หลายบริษัทลงแรง สะท้อนงบที่ผิดหวังไปค่อนข้างมาก ส่วนปัจจัยลบต่างประเทศเรื่องดอกเบี้ยเฟดที่ผลสำรวจส่วนใหญ่คาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงกว่าคาดการณ์เดิมนั้น เราเห็นว่าได้สะท้อนไปในตลาดหุ้นแล้วระดับหนึ่ง (ซึ่งการจะขึ้นดอกเบี้ยแรงๆต่อเนื่องนั้นต้องดูบริบทของเศรษฐกิจด้วย โดย ISM สหรัฐฯยังคงต่ำกว่าระดับที่มีการขยายตัวทำให้การเร่งดอกเบี้ยอาจมีข้อจำกัด)
  • ดังนั้นกลยุทธ์ คงคำแนะนำ ให้เริ่มเก็บหุ้น จังหวะขาลงรอบนี้ใกล้จบ และไม่ใช่จังหวะของการ Cut loss หุ้นแล้ว ณ.ระดับดัชนีแถวนี้ แต่ควรมองเป็นโอกาสสะสมเพื่อเล่นรับ Outlook สำหรับงบไตรมาส 1/66

What to watch

  • บจ. ประกาศงบฯ วันสุดท้าย เช่น BCH SIRI HUMAN PLANB SABUY BTG AMATA BGRIM JWD CRC TQM AH
  • ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 32.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. หลังจากที่เมื่อเดือนที่แล้วให้น้ำหนักเพียง 2.8%ภายหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 5.4% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าระดับ 5.3% ในเดือนธ.ค. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนม.ค. และสูงกว่าระดับ 0.2% ในเดือนธ.ค.
  • ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.4% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
  • หุ้นขึ้น XD: วันอังคาร DELTA@4 ITC@0.20 OR@0.15 VGI@0.04 พุธ GULF@0.60 LPN@0.12 พฤหัสฯ CBG@0.75 JASIF@0.23 KSL@0.07 PTT@0.70 SPVI@0.175 TASCO@1 ศุกร์ BCP@1 BCPG@0.16 TU@0.44

หุ้นแนะนำวันนี้

BJC แนวรับ 37.5 ต้าน 39/40 stop loss 36

Global Investing Brief : Zoom พุ่ง 8% ช่วง after-hours หลังเผยงบดีกว่าคาด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีหลักฟื้นตัว โดยดัชนี DJIA +0.2%, S&P 500 +0.3%, Nasdaq +0.7% นำโดย Tesla (TSLA) +5.5%, Apple (AAPL) +0.8%, Microsoft (MSFT) +0.4% ด้าน Zoom (ZM) พุ่ง 8% ช่วง after-hours หลังเผยงบ F4Q66 (พ.ย. 65-ม.ค. 66) โดยรายได้โต 4%YoY แตะ $1.1bn ดีกว่าตลาดคาด ขณะที่ขาดทุน $104mn ซึ่งถือเป็นไตรมาสแรกนับตั้งแต่ปี 61 กระทบจากการจ่ายค่าตอบแทนให้พนักงานเป็นหุ้น และงบด้าน IT ของลูกค้าองค์กรธุรกิจที่ยังชะลอตัว อย่างไรก็ดี บริษัทให้คาดการณ์ EPS (adjusted) ปีบัญชี 67 (ก.พ. 66-ม.ค. 67) อยู่ที่ราว $4.11-4.18 หดตัว 5%YoY แต่ดีกว่าตลาดคาดที่ $3.66
  • Spotify (SPOT) เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ DJ โดยใช้เทคโนโลยี AI ในการคัดเลือกเพลงที่เหมาะกับผู้ใช้งานแต่ละราย และสร้างเป็นเสียงดีเจส่วนตัวในการจัดลำดับเนื้อเพลงที่เล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเรามองว่าการพัฒนาระบบดังกล่าวจะช่วยหนุนยอดผู้ใช้งานระดับพรีเมียมในระยาว ด้านคาดการณ์ Bloomberg Cons. เผยว่ารายได้ในปี 66 จะโต 15%YoY พร้อมให้ TP ที่ $131.86

ตลาดหุ้นฮ่องกง 

  • เมื่อวานนี้ ดัชนีฮั่งเส็งลบ 0.3% กดดันโดย Ping An (2318) -1.2%, Alibaba (9988) -0.7% ขณะที่ Meituan (3690) +1.4%, AIA (1299) +1.2% บวกสวนตลาด ด้านมูลค่าการส่งออกของฮ่องกงในเดือน ม.ค. ลดลง 36.7%YoY หดตัวมากที่สุดในรอบ 70 ปี เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกที่ยังชะลอตัว และเทศกาลวันหยุดตรุษจีนที่ส่งผลกระทบต่อการค้าในช่วงดังกล่าว อย่างไรก็ดี เรามองว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจฮ่องกงในปีนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • Xiaomi (1810) เผยว่าจะเริ่มวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนซีรีส์ Mi 13 ในตลาดนอกประเทศจีน ได้แก่ทวีปยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลางตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 66 ในราคาเริ่มต้นราว $1,000 ต่อเครื่อง โดยเรามองว่าการขยายตลาดของสมาร์ทโฟนซีรีส์ Mi 13 สู่นอกประเทศจีนจะเป็นปัจจัยบวกต่อรายได้ในปี 66 ด้านคาดการณ์ Bloomberg Cons. เผยว่ารายได้ในช่วงดังกล่าวจะโตราว 9%YoY พร้อมให้ TP ที่ HKD14.14

ตลาดหุ้นเวียดนาม 

  • เมื่อวานนี้ ดัชนี VN ลบ 1.8% เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นฮ่องกง กดดันโดย VCB -0.7%, VRE -2.8%, MSN -7% ด้านโบรกเวียดนามคาดว่ามูลค่าการส่งออกและนำเข้าเดือน ก.พ. 66 มีแนวโน้มโต 20%YoY และ 9%YoY ตามลำดับ หนุนจากการเปิดเศรษฐกิจจีนที่เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามที่มีสัดส่วนราว 28% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด
  • โบรกเวียดนามคาดว่ารายได้ทั้งปี 66 ของ HPG ที่มีสัดส่วน 6% ในดัชนี VN 30 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001 มีแนวโน้มโต 6%YoY สู่ VND150tn หนุนจากราคาขายเหล็กที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งแผนการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลเวียดนาม เช่น ทางรถไฟ และสะพาน อย่างไรก็ดี เรามองว่ามูลค่าหุ้นมี upside จำกัด หลัง Forward P/E ปี 66 อยู่ที่ 11 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 7 เท่า ถึง 2 S.D. ด้านโบรกเวียดนามให้ TP ที่ VND23,500

Highlight 

  • HKEX (388) เผยว่าจะมีการเริ่มปรับหลักเกณฑ์ของบริษัทในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงในเดือน มี.ค. 66 เพื่ออนุญาตให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ยังไม่มีรายได้หรือมีรายได้น้อย แต่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวสามารถจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงได้ โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่เกี่ยวกับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและดิจิทัลเป็นหลัก ซึ่งเรามองว่าการปรับเกณฑ์ดังกล่าวจะเป็นปัจจัยให้บริษัทเลือกตลาดหุ้นฮ่องกงเป็นตลาดในการระดมทุนได้มากขึ้น และจะหนุนการเติบโตของรายได้ HKEX ในระยะยาว
- Advertisement -