บล.ทรีนีตี้:
พริ้นซิเพิล พรินซิเพิล แคปิตอล – PRINC
ราคาปิด 5.80 บาท, ราคา Median Consensus – บาท
ขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัด เพิ่มโรงพยาบาลในเครือ
ผลประกอบการปี 2565 เติบโตได้ดี แม้ COVID-19 ลดลง
- PRINC รายงานกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 240 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 195.5% YoY โดยที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 6.68 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 32% YoY
- สัดส่วนรายได้จากกลุ่มโรงแรมและค่าเช่าอยู่ที่ 473 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 50% YoY ซึ่งเป็นผลจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในช่วง 2H65 ส่งผลให้โรงแรมทั้ง 2 แห่งของบริษัทมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 74% และ 77%
- สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลอยู่ที่ 6.21 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 31% YoY จากการโรงพยาลในเครือ 13 แห่งทั่วประเทศ
- สัดส่วนรายได้จากการรักษา COVID-19 ในปี 2565 อยู่ที่ 13% ปรับตัวลดลงจาก 33% ในปี 2564 และมีรายได้จากการให้บริการฉีดวัคซีนที่ 24% ในขณะที่รายได้ กลุ่ม Non – COVID อยู่ที่ 63% และมีการเติบโตที่ 36% YoY จากการเพิ่มศูนย์แพทย์ ตามโรงพยาบาลและการรับคนไข้สูงต่อจากทั้งโรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลในบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งโรงพยาบาลในประเทศลาวและกัมพูชา ที่มีการส่งต่อคนไข้ไปยังโรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี, โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ รวมทั้งโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เริ่มมีการรับคนไข้ Fly in เพิ่มขึ้น
- EBITDA Margin ของกลุ่มโรงพยาบาลยูที่ 18.2% ปรับตัวลดลงจากระดับ 18.9% ในช่วงปี 2564 เนื่องจากสัดส่วนรายได้และอัตราเบิกจ่ายที่เกี่ยวข้องกับ COVID 19 ปรับลดลง
การเติบโตของรายได้ในปี 2566
- คาดรายได้จากกลุ่มโรงพยาบาลปรับตัวสูงขึ้น Mid Single Digit จากฐานที่สูง และคาดว่าสัดส่วนรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 จะลดลงต่อเนื่อง ซึ่ง PRINC ได้มีการเพิ่มศูนย์แพทย์ตามโรงพยาบาล และการร่วมมือกับ Partner ในการเพิ่มศักยภาพในการบริการ ส่งผลให้มีรายได้/บิลที่สูงขึ้น จากการให้บริการรักษาโรคซับซ้อน และรับส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลใกล้เคียง
- ยังคงเป้าในการเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลเป็น 20 แห่ง โดย 1Q66 ได้เริ่มให้บริการโรงพยาบาลพริ้นซ์ สกลนคร และ PRINC จะขยายฐานโรงพยาบาลเพิ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อรองรับคนไข้จากประเทศเพื่อนบ้านต่อเนื่อง
Comment
รายได้ของกลุ่มโรงพยาบาลยังคาดเติบโตได้ แต่เป็นการเติบในอัตราที่ช้าลงจากรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ที่มีการปรับตัวลดลง แต่ PRINC มีฐานคนไข้ที่สูงขึ้นอย่างเด่นชัด ส่งผลให้การเติบโตของกลุ่ม Non-COVID มีเสถียรภาพ ด้าน EBITDA Margin คาดว่าจะสามารถรักษาได้ที่ระดับ 18% ในขณะที่ความน่าสนใจของ PRINC อยู่ที่การเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลที่จะส่งเสริมเรื่องของ Economy of Scale และปัจจุบันเทรดที่ EV/EBITDA 20X ใกล้คียงค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 19.5X และ P/E ที่ 39X สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 32X
ความเสี่ยง
การระบาดของ COVID-19 ที่ไม่อาจคาดเดาได้ และการเดินทางของคนไข้ต่างชาติที่อาจปรับเปลี่ยนไปตามการระบาดของ COVID-19 อัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลให้ต้นทุนการบริการสูงขึ้น และกระทบ Purchasing Power ของลูกค้า