บล.ทรีนีตี้:
ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น – SAWAD
ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 62 บาท, Upside/Downside +14%, Median Consensus 50.50 บาท
กำไร Q4 ออกมาตามาคาด โต YoY และ QoQ คงคำแนะนำซื้อเก็งกำไร
- คงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” โดยให้ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 62 บาท (อิงวิธี PBV ที่ 2.7 เท่า ตาม Gordon Growth Model)
- SAWAD ประกาศกำไร 4Q65 ที่ 1,213 ล้านบาท +6.0% YoY, +2.3% QoQ จากการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ (+58.6% YoY, +14.3% QoQ) และอัตราส่วน cost to income ที่ลดลงเหลือ 48.9% จาก 53.5% ใน 3Q65 โดยคาดว่าลดลงจากค่าใช้จ่ายด้านพนักงานที่ลดลง
- กำไรปี 65 อยู่ที่ 4,476 ล้านบาท -4.2% YoY จากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดของ SCAP ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและค่าใช้จ่ายในการขยายสาขา รวมถึงปี 65 ไม่มีการกลับการตั้งสํารองเหมือนปี 64
- คาดปี 2566 พอร์ตสินเชื่อขยายตัวได้ 10% – 20% โดยเฉพาะพอร์ตเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 40% ในขณะที่บริษัทสามารถลด OPEX จากการลดค่าใช้จ่ายด้าน Commission และคาดว่า credit cost เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 100 bps จาก NPL ที่ขยายตัว
Earning Review
SAWAD ประกาศกำไร 4Q65 ที่ 1,213 ล้านบาท +6.0% YoY, +2.3% QoQ เติบโตจากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ
1) พอร์ตสินเชื่อ +58.6% YoY, +14.3% QoQ ซึ่งมาจากการเติบโตของพอร์ตเช่าซื้อของ SCAP โดย gross hire pruchase ของพอร์ตเช่าซื้อปี 65 อยู่ที่ 23,94 ล้านบาท +307% YoY, +26.9% QoQ
2) Cost to income ลดลงมาอยู่ที่ 48.9% (อยู่ที่ 39.2% ใน 4Q64 และ 53.5% ใน 3Q65) ลดลง QoQ เนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมามีค่าใช้จ่ายด้านพนักงานใหม่เยอะ
3) NPL อยู่ที่ 2.39% (อยู่ที่ 3.4% ใน 4Q64 และ 2.5% ใน 3Q65) ลดลง YoY และ QoQ เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อของบริษัทโตเร็วกวา NPL และบริษัทสามารถคุมคุณภาพ unsecured loan ได้ดี
2565 Review
กำไรปี 65 อยู่ที่ 4,476 ล้านบาท -4.2% YoY จากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดของ SCAP ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและค่าใช้จ่ายในการขยายสาขา รวมถึงปี 65 ไม่มีการกลับการตั้งสำรองเหมือนปี 64
2566 Outlook
คาดพอร์ตสินเชื่อโดยรวมสามารถขยายตัวได้ 10% – 15% และพอร์ต hire purchase ที่ขยายตัว 40% ในขณะที่ Operating Expenses ลดลงจากค่าใช้จ่ายพนักงานที่ลดลง (ค่า Comission ของพนักงานลดลงประมาณ 60% – 70% หลังจากมีการบังคับใช้มาตรการกำหนดเพดานดอกเบี้ยจาก สคบ. ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากคู่แข่งรายย่อยทยอยหายออกไปจากตลาด) คาดว่าสัดส่วน NPL จะสามารถรักษาได้อยู่ในระดับ 3% – 4% และ credit cost เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 100 bps (คาดว่า credit 1.73 ในปี 2566)
ความเสี่ยง ความเสี่ยงจากคู่แข่งที่เยอะในตลาด และการควบคุมสัญญาเช่าซื้อจากภาครัฐที่อาจจะเกิดขึ้น