- กลุ่มสินค้าคอมเมอร์เชียลพีคแรง บอร์ดเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น จ่ายปันผลประจำปี 2565 หุ้นละ 0.70 บาท รับเงิน 2 พ.ค. 66
SYNEX เปิดงบการเงินปี 2565 รายได้ทำ All time high ที่ 39,061.05 ล้านบาท หลังยอดขายกลุ่มสินค้าคอมเมอร์เชียลเติบโตสูงถึง 22.1% บอร์ดเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 20 เมษายน 2566 เพื่อจ่ายเงินปันผลประจำปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 ไปแล้วเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.18 บาท โดยจะจ่ายปันผลส่วนที่เหลือของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.52 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 10 มีนาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 2 พฤษภาคม 2566
นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ดิสทริบิวเตอร์ผู้นำด้านไอทีอีโคซิสเต็ม เปิดเผยงบการเงินปี 2565 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2565 ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 39,061.05 ล้านบาททำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561 ที่มีรายได้ 38,196 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายสินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียลเติบโตสูงถึง 22.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า System and Storage และกลุ่มสินค้า Network and Security ที่จับมือร่วมกับ Cybertron สร้างความปลอดภัยด้าน Cyber security บวกกับหลายอุตสาหกรรมเริ่มเดินหน้าเป็นปกติ ทำให้ภาครัฐและเอกชนกลับมาลงทุนโครงการต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการขนาดใหญ่ในส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งการขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากสินค้ากลุ่มเกมมิ่ง แบรนด์ Nintendo ที่เป็นสินค้าใหม่ที่บริษัทฯ เป็นผู้จัดจำหน่ายในปี 2565 และช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ได้มากขึ้น สอดคล้องกับกลยุทธ์ความเป็นผู้นำในตลาดสินค้าเกมมิ่งของบริษัทฯ ขณะที่สินค้ากลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือสื่อสารยังเติบโตได้จากการเติบโตของยอดขายแบรนด์ Apple แม้จะเกิดปัญหาขาดแคลนสินค้าจากโรงงานผลิตสินค้าในจีนในช่วงไตรมาส 4/2565 ก็ตาม
บริษัทฯ ยังคงเน้นเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารค่าใช้จ่าย ทำให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงจากปี 2564 อย่างไรก็ดีจากปัจจัยลบภายนอก ทำให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 816.07 ล้านบาท ลดลง 5.13% จากต้นทุนอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง
นางสาวสุธิดา กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) โดยสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่ “มุ่งมั่นเป็นที่หนึ่งด้านอุตสาหกรรมไอที เพื่อส่งมอบเทคโนโลยีที่ทำให้คุณภาพชีวิตของทุกคนดีขึ้น” ภายใต้กรอบการดำเนินงาน “Synnex For a Better Life” ทั้ง 3 มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อาทิ
1. ด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) มุ่งเน้นให้การใช้ทรัพยากรอย่างรู้ คุ้มค่าสร้างเป็นวัฒนธรรมองค์กร ส่งเสริมให้ช่วยกันดูแลรักษา ปกป้อง ฟื้นฟู สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ และอนุรักษ์ธรรมชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน เช่น การลดปัญหาก๊าซเรือนกระจก โดยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 10% ต่อปี ซึ่งในปี 2565 บริษัทฯ สามารถลดได้ถึง 12.26% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากการจัดการใช้ไฟฟ้าในบริษัทได้ดีขึ้น อีกทั้ง บริษัทฯ มีโครงการ “Trusted by Synnex E-Waste” เพื่อลดและกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกต้องตามาตรฐานสากล และยังร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อกระจายจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
2. ด้านสังคม บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยความเป็นธรรม เคารพในสิทธิมนุษยชน ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม คำนึงถึงความรับผิดชอบที่มีต่อผู้บริโภค รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร เช่น การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับเยาวชนไทยใน “โครงการปั้นช่างสร้างอาชีพ” ที่ให้เยาวชนได้เพิ่มความรู้ความสามารถ ความชำนาญ ได้เรียนรู้จากอุปกรณ์ไอทีที่บริษัทฯ ให้การสนับสนุน และนำไปพัฒนาต่อยอดใช้ได้จริง และโครงการสนับสนุนคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ไอที เพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอนให้นักศึกษาได้มีอุปกรณ์สำหรับใช้ ประกอบการเรียนรู้และฝึกทักษะจริง มูลค่ารวมประมาณ 18,000,000 บาท มอบให้แก่ วิทยาลัยอาชีวะ โรงเรียน โรงพยาบาล วัดและชุมชน เป็นต้น
3. ด้านธรรมาภิบาล บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล โดยคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหาร มีความมุ่งมั่นให้การบริหารงานมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานสากล และเป็นที่ยอมรับ การเคารพสิทธิในการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน และมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย โดยบริษัทได้รับเครื่องหมายแสดงถึงความมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรอย่างเติบโต อย่างมั่นคงต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการมีผลการดำเนินงานทางการเงิน และให้ความสำคัญกับ ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน มุ่งสู่ผู้นำไอทีอีโคซิสเต็มอย่างเต็มรูปแบบ ควบคู่กับการสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ดังนี้
– บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้อยู่ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG 100 ประจำปี 2565 ของสถาบันไทยพัฒน์ ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่ครอบคลุมทั้ง 851 หลักทรัพย์ ต่อเนื่องเป็นเวลา 8 ปีซ้อน ตั้งแต่โครงการริเริ่มเมื่อปี 2558 จากการประเมิน ESG Rating
– บริษัทฯ ได้รับประกาศรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI (Thailand Sustainability Investment) ประจำปี 2565 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศ เป็นหุ้นยั่งยืน THSI เป็นปีที่ 5