Daily Focus: Selective Play // Accumulate on Dip

2023SET Target : 1750

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ฟื้นตัวได้ดีในช่วงเปิดตลาด ก่อนที่จะมีแรงขายออกมากดดันต่อเนื่อง และทำให้ดัชนีย้อนลงมาปิดลบอีกเล็กน้อย 5 จุด ณ สิ้นวัน มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็นกว่า 8 หมื่นลบ.จากผลของ MSCI Rebalance กลุ่มที่ถ่วงตลาด คือ พลังงาน การแพทย์ ส่วนกลุ่มที่ยังแข็งแรง คือ ท่องเที่ยว ขนส่ง ธนาคาร สถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นบางๆ 183 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอีก 3.4 พันลบ. (และ Short Index Futures 6.7 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังแกว่ง Sideways to Sideways Down โดยมีแนวรับหลักที่บริเวณ 1,600-1,610 จุด ตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่และยังคงให้น้ำหนักกับประเด็นเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ลงช้า และดอกเบี้ยของ FED ที่ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและทรงตัวในระดับสูงนานกว่าคาด ส่งผลให้เม็ดเงินยังไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม จาก Bond Yield ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวราว 70 bps ในเดือน ก.พ. เรามองว่าเริ่มสะท้อนปัจจัยดังกล่าวไปมากพอสมควร รวมถึง SET Index ที่ปรับฐานลงกว่า 4% เริ่มสะท้อนภาพกำไร 4Q22 ของบจ.ที่ต่ำกว่าคาดไปบางส่วนแล้ว ระยะสั้นกระแสเงินทุนยังมีแนวโน้มไหลออกแต่คาดปริมาณจะเริ่มบางลง เรามองจังหวะปรับฐานของดัชนีในช่วงปลาย 1Q23 ถึง 2Q23 ซึ่งมีโอกาสเป็น Bottom ของรอบเป็นโอกาสในการสะสมระยะกลาง-ยาวจากดอกเบี้ยของ FED ที่จะ Peak และหยุดปรับขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดยังทยอยเร่งตัวและมี Catalyst จากการหาเสียงเลือกตั้งที่จะมีเม็ดเงินสะพัดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการบริโภค

กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว//ระยะกลาง-ยาวทยอยสะสมหุ้นช่วงตลาด ปรับฐานบริเวณ 1,600 จุดหรือต่ำกว่า

หุ้นเด่นเดือน มี.ค. : AAV, ASW, BEYOND, M, NSL

หุ้นเด่นวันนี้ : SAPPE

  • แนะนำ “ซื้อ” อยู่ระหว่างปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 52 บาทเป็น 60 บาท
  • กำไร 4Q22 ออกมา -14% q-q ตามฤดูกาล แต่ +178% y-y จากฐานต่ำเพียงใน 4Q21 ซึ่งดีกว่าตลาดคาด 20% โดยมี FX Gain ช่วยหนุนรายได้โตแกร่งขณะที่ Margin ทำได้น่าประทับใจ จบปี 2022 กำไร +59% y-y ทำจุดสูงสุดใหม่
  • คำสั่งซื้อ 1Q23 ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง คาดโตได้ตามเป้า +20-25% y-y แม้บาทแข็ง แต่แนวโน้ม Volume ดีมาก ขณะที่ต้นทุนเม็ดพลาสติกเริ่มปรับลง คาด Margin ยังทรงตัวสูง อยู่ระหว่างปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2023 ราว 10% จากปัจจุบันที่คาด +9% y-y
  • แนวรับ 50.50-50 บาท แนวต้าน 53-53.50 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$402 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$171 ล้าน ไต้หวันยังปิดทำการ ส่วนอาเซียนไหลออกหนาแน่น นำโดยไทย US$97 ล้าน ขณะที่อินโดนีและฟิลิปปินส์ไหลออกเร่งขึ้นเป็นประเทศละ US$65-69 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลออก โดยเม็ดเงินยังไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง สะท้อนภาพดอกเบี้ยสหรัฐฯที่ยังปรับตัวขึ้นและมีแนวโน้มสูงยาวนาน

ประเด็นสําคัญวันนี้

(0) กลยุทธ์การลงทุนเดือน มี.ค. สินทรัพย์เสี่ยงยังได้รับแรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ และจุดสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ FED ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้กระแสเงินต่างชาติไหลออกต่อเนื่องในระยะสั้น กำไร 4Q22 ที่ต่ำกว่าคาด ทำให้ประมาณการ 2023EPS มี Downside และ SET Target ปัจจุบันที่ 1,750 อย่างไรก็ตาม เรามองจังหวะปรับฐานของตลาดเป็นโอกาสเข้าซื้อสะสมระยะกลาง-ยาว หุ้นเด่นในเดือน มี.ค. 23 ได้แก่ AAV ASW BEYOND M และ NSL

(+) ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ม.ค. ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า หนุนโดยการบริโภคภาคเอกชนสอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้ เช่นเดียวกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่แม้จะอ่อนตัวลงบ้าง แต่ระยะยาวยังมีแนวโน้มเติบโต ด้านการส่งออกหดตัวลง ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นทำให้ขาดดุลการค้า ขณะที่ดุลบริการดีขึ้นแต่ชดเชยได้ไม่หมด ทำให้พลิกมาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด US$2 พันล้าน กดดันบาทอ่อนค่า ปัจจัยที่ต้องติดตามคือแนวโน้มเศรษฐกิจโลกว่าจะชะลอตัวแรงหรือไม่ ผลบวกจากจีนเปิดประเทศ และการส่งผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการที่อาจเพิ่มขึ้น

(+) AH กำไรปกติ 4Q22 +39% q-q, +295% y-y ดีกว่าเราและตลาดคาด 38% y-y และ 64% ตามลำดับ หนุนจากรายได้ที่โตแกร่งจากธุรกิจชิ้นส่วนและ Dealer รถยนต์ ส่วน Gross Margin ทำ New High ทำให้ทั้งปี 2022 กำไรปกติ +122% y-y ซึ่งสูงกว่าประมาณการปี 2023 ปัจจุบันของเราแล้ว ปัจจุบันราคาเป้าหมายอยู่ที่ 42 บาท แนะนํา “ซื้อ”

(0) BGRIM ประกาศขาดทุนสุทธิ 529 ลบ. แต่หากตัดรายการ Impairment Loss และ FX Gain ออก กำไรปกติอยู่ที่ 169 ลบ. +576% q-q, -20% y-y ฟื้นตัวขึ้น q-q จาก Margin ที่ดีขึ้นจากค่า Ft ที่เพิ่ม แนวโน้มกำไร 1Q23 คาดดีขึ้นต่อเนื่องตาม Ft ที่ปรับขึ้น คงราคาเป้าหมาย 46 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) CRC กำไรสุทธิ 4Q22 +171% g-q, +39% y-y หากตัดรายการ FX และ Asset Disposal ออก กำไรปกติจะ +108% q-q, +22% y-y แข็งแกร่งกว่าตลาดคาด หนุนจากทั้งรายได้และ Margin ที่ฟื้นตัวดี โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มแฟชั่น จบปี 2022 กำไรปกติ +36x y-y จากฐานต่ำปีก่อน แนวโน้ม 1Q23 ยังดูดีจาก SSSG ที่คาดว่ายังโต Double Digit ราคาเป้าหมายจาก IAA Consensus 49.61 บาท

(+) ORI กำไรสุทธิ 4Q22 +22% q-q, +28% y-y ส่วนกำไรปกติ +42% q-q, +58% y-y แกร่งตามที่เราและตลาดคาด จากส่วนแบ่งกำไร JV ที่สูงขึ้นตามการโอน ชดเชยยอดโอน บริษัทที่ชะลอได้ จบปี 2022 กำไปกติ +4% y-y แนวโน้ม 1Q23 คาดชะลอ q-q ตามฐานสูงใน 4Q22 แต่ยังโตได้ y-y คงราคาเป้าหมาย 13.60 บาท แนะนำ “ซื้อ”

 

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 232.39 จุด หรือ -0.71% ปิดที่ 32,656.70 จุด จากความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของ FED

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ จากเงินเฟ้อของฝรั่งเศสและสเปนสูงกว่าคาด

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 35.19 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์ หรือ 1.81% ปิดที่ 77.05 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะฟื้นตัว ในขณะที่เช้านี้เช้านี้ย่อตัวลงที่ระดับ 76.74 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.40%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 11.80 ดอลลาร์ หรือ 0.65% ปิดที่ 1,836.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงหนุนที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หลังตัวเลขเงินเฟ้อในยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่เช้านี้ย่อตัวลงที่ระดับ 1,830.9 ดอลลาร์/ออนซ์ -0.32%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 915.30 / -2.31

- Advertisement -