บล.ฟิลลิป:

AMATA : กำไรมากกว่าคาด

ซื้อ TP’66: 30.50

ทางฝ่ายมีมุมมองเชิงบวกต่อ AMATA ทั้งปัจจัยมหภาคที่คอยช่วยหนุนให้มีโอกาสขายที่ดินในปี 66 ได้ต่อเนื่อง โดยปัจจัยอำนวยด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐ-จีนหนุนการย้ายฐานสู่ไทย โดยเฉพาะ นิคมไทย-ไชนีส, ศก.ที่พื้นหนุนการใช้สาธารณูปโภคในนิคมเป็นรายได้ที่ยั่งยืน รวมทั้งแผนขยายนิคมไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านที่มากขึ้น ทางฝ่ายขยับราคาเป้าหมายสู่ 30.50 บาท (P/E เหมาะสมที่ 14.22 เท่า) Upside 51%

  • สรุปทั้งปี 65 กำไรมากกว่าทางฝ่ายคาด: โดยปี 65 การขายที่ดินนิคมเติบโตโดดเด่นทั้งในไทย 2.8 พันลบ. (+31%y-y) และเวียดนาม 1.36 พันลบ.(+203%y-y) กอปรกับรายได้ค่าสาธารณูปโภคยังเพิ่มกว่า 42% หนุนรายได้รวมสู่ 8.05 พันลบ. (+38%y-y) ด้านต้นทุนเพิ่มในอัตราที่น้อยกว่าสู่ 3.39 พันลบ. (+22%y-y) หนุน GPM ขยับจากปี 64 ที่ 53% สู่ปี 65 ที่ 58% ด้านกำไรสุทธิ 4Q65 มากกว่าคาดสู่ 785 ลบ. (+122%q-q,+6%y-y) ส่งให้กำไรสุทธิปี 65 สู่ 2,341 ลบ. (+67%y-y)
  • คาด 1Q66E เติบโตต่อ จากหลายปัจจัย: ทั้งจาก 1) ภาคการผลิตในนิคมที่ฟื้นตัวตาม ศก. 2) การย้ายฐานหนีปัญหาภูมิรัฐศาสตร์สหรัฐ-จีน 3) สัมปทานนิคมที่ลาว (นาเตย 2.5 พันไร่, นาหม้อ 1.9 หมื่นไร่) ถือเป็นประเทศใหม่ที่เข้าลงทุน ทำให้มีนิคมอยู่ 4 ประเทศ ต่อจาก ไทย เวียดนาม และ พม่า พื้นที่รวม 8.87 หมื่นไร่ 4) การเติบโตของการขอรับ BOI ที่ยังเติบโต โดยปี 65 เพิ่ม 41% และ 5) มองปีนี้บริษัทมีโอกาสขายที่ดินในไทยราว 50% ของ Backlog ที่เหลือราว 6,685 ลบ. (ไทยราว 4,820 ลบ., เวียดนามราว 1,865 ลบ.) มองรายได้รวมปี 66 ที่ 8,291 พันลบ.(+3%y-y) และกำไรสุทธิมีโอกาสเพิ่มสู่ 2,466 ลบ. (+4.7%y-y)., EPS 2.14 บาทต่อหุ้น
- Advertisement -