บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

B.Grimm Power (BGRIM.BK/BGRIM TB)*

ผลประกอบการ 4Q65: เป็นไปตามคาด

Event

ผลประกอบการ 4Q65 และแนวโน้ม

Impact

ผลประกอบการ 4Q65F เป็นไปตามประมาณการของเรา แต่ต่ำกว่าของนักวิเคราะห์ในตลาด

BGRIM ขาดทุนสุทธิ 545 ล้านบาทใน 4Q65 (จากขาดทุนสุทธิ 529 ล้านบาทใน 3Q65 และกำไรสุทธิ 195 ล้านบาทใน 4Q64) แต่หากไม่รวมผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ 1.1 พันล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 523 ล้านบาท กำไรจากธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 169 ล้านบาท (+576% QoQ, -21% YoY) ทั้งนี้ สำหรับงวดปี 2565 BGRIM ขาดทุนสุทธิ 1.24 พันล้านบาท แต่มีกำไรจากธุรกิจหลัก 375 ล้านบาท (-85% YoY) โดย ROE ในปี 2565 ลดลงมาอยู่ที่ -3.0% จาก 5.6% ในปี 2564

ประเด็นที่น่าสนใจ – ผลการดำเนินงานของ SPPs แข็งแกร่งขึ้น QoQ

กำไรขั้นต้นของ BGRIM ทรงๆ ทั้ง QoQ และ YoY อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท แต่ GPM เพิ่มขึ้นเป็น 11.5% (จาก 9% ใน 3Q65 และ 12.7% ใน 4Q64) เนื่องจากต้นทุนก๊าซของ SPP ลดลงมาอยู่ที่ 481 บาท/mmbtu (-14% QoQ, +44% YoY) ในขณะที่มีการขึ้นค่า Ft เป็น 0.93 บาท/kWh (+0.5) รายได้ลดลง 21% QoQ เพราะปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้กับ กฟผ. และผู้ใช้ไฟในภาคอุตสาหกรรม (IU) ลดลง โดยในส่วนของ กฟผ. มีการปิด BPWHA และมีการขายไฟฟ้าลดลงตามโครงการ replacement ของโรงไฟฟ้า ซึ่งจะมี PPAs กับ กฟผ. ลดลงเหลือ 30MW (จาก 90MW) สำหรับในส่วนของ IU อุปสงค์การใช้ไฟฟ้าก็ลดลง เนื่องจากลูกค้ามีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน และอุปสงค์จากกลุ่มผู้ผลิตยางลดลง ทั้งนี้ SG&A เพิ่มขึ้น QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลในขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือพลิกมาเป็นบวกได้เป็นครั้งแรกในปี 2565 อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับ 4Q64 ผลประกอบการที่แย่ลง YoY เป็นเพราะต้นทุนก๊าซพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่ค่า Ft ขึ้นตามไม่ทัน ทำให้ margin ต่ำ

ประมาณการ 1Q66F – ผลประกอบการจะดีขึ้น QoQ

เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มกำไรจากธุรกิจหลักใน 1Q66 ซึ่งคาดว่าจะดีขึ้น QoQ แต่จะยังคงแย่ลง YoY โดยผลประกอบการจะได้แรงหนุนจาก SG&A ที่กลับมาอยู่ระดับปกติ, ปริมาณยอดขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและการขึ้นค่า Ft เป็น 1.54 บาท/kWh (+0.61) ในขณะที่คาดว่าต้นทุนก๊าซ SPP จะขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น ~500-510 บาท/mmbtu (+4-6% QoQ) สำหรับรายการพิเศษ เราคาดว่าผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์จะลดลงอย่างมาก ในขณะที่กำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยนยังไม่ชัดเพราะอัตราแลกเปลี่ยน USS/THB ผันผวน ซึ่งน่าจะทำให้ผลประกอบการพลิกฟื้นเป็นกำไรสุทธิใน 1Q66 ทั้งนี้ เราคาดว่า BGPM2 (98MWe) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าแห่งสุดท้ายในโครงการ replacement project จะเริ่มเปิดดำเนินการใน 1Q66 และจากกลยุทธ์เชิงรุกของ BGRIM เราคาดว่าน่าจะมีการซื้อโครงการเพิ่มอีกในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังจะออกหุ้นกู้ perpetual bond วงเงิน 5-9 พันล้านบาท โดยจะจ่ายดอกเบี้ย 5.75- 5.95% ในช่วงห้าปีแรก

Valuation & Action

ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้มีการ re-rate หุ้น BGRIM จะมาจากกำไรที่พุ่งแรงในปี 2566-2567F และกลยุทธ์เชิงรุกของบริษัท เราคิดว่าราคาหุ้นที่ร่วงลงมาสวนทางกับค่าเงิน USS/THB และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรน่าจะเป็นโอกาสให้นักลงทุนได้เข้าซื้อหุ้นในตอนนี้ เราคาดว่าข้อมูลที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์ในวันนี้จะเป็นเชิงบวก ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ที่ 46 บาท นอกจากนี้ BGRIM ยังประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H65 ที่ 0.035 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 0.1% ต่อปี (กำหยดขึ้น XD วันที่ 14 มีนาคม)

Risks

ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, ปัญหา cost overruns, และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย

- Advertisement -