บล.ทรีนีตี้:
ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล – MINT
ซื้อ ราคาปิด 33.75 บาท, ราคาเป้าหมาย 40.50 บาท
คาด 4Q65 ยังคงรายงานผลการดำเนินงานเป็นกำไร
Key Takeaway
- ตั้งเป้าการเติบโตเฉลี่ย CAGR ของรายได้ปี 2565-2568 ที่ 12-15% โดยปี 2566 คาดว่าจะกลับมาลงทุนเพิ่มจำนวนโรงแรมอีก 6 แห่ง หลังจากช่วง COVID-19 ที่ผ่านมามีการขายสินทรัพย์ไปบางส่วนเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ในขณะที่กลุ่มร้านอาหารจะมีการเพิ่มสาขาร้านอาหารทั้งในประเทศไทยและจีน
- ระดับ D/E อยู่ที่ 1.13X ต่ำกว่าระดับ Internal Covenant ที่ 1.3X
- เราคาดกำไรปี 2566-2567 ที่ 5.5 พันล้านบาท และ 6.2 พันล้านบาท คาด 1Q66 อ่อนตัวลง QoQ จากผลของฤดูกาล แต่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง YoY
กลุ่มโรงแรม
- คาดผลประกอบการโรงแรมในยุโรปยังมีผลประกอบการดีต่อเนื่อง แม้ว่าในไตรมาส 1 จะเริ่มเข้าช่วง Low Season แต่คาดว่าจะเป็นไตรมาส 1 ที่ดีกว่าปีอื่นๆ จากการกลับมาจัดกิจกรรม Trade Fair และ Business Travel ที่เป็นกลุ่มที่มีความ Sensitive ต่อราคาต่ำกว่ากลุ่ม Leisure
- ADR โรงแรมในยุโรปอยู่ที่ 1220/คืน สูงขึ้นจาก 1030/คืน ในช่วงปี 2562
- โรงแรมในประเทศไทยคาดพื้นตัวได้ต่อเนื่องจาก 4Q65 โดยจะมี :Upside จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน และการท่องเที่ยวในประเทศที่จะหนุนทั้งอัตราเข้าพักและ ADR ให้สูงขึ้น
กลุ่มงานอาหาร
- ตั้งเป้าขยายจำนวน Outlet จาก 2,530 สาขา เป็น 3,400 สาขาภายในปี 2568 และสัดส่วนรายได้จาก 22% ของรายได้รวม ในปี 2565 สู่ระดับ 25% ของรายได้รวมในปี 2568
- คาดการเติบโตของการบริโภคดีขึ้นทั้งจากการบริโภคในประเทศและจากการฟื้นตัวของกลุ่มท่องเที่ยว โดยเฉพาะที่ประเทศจีน หลังจากมีการยกเลิกมาตรการ Lockdown คาดว่าการฟื้นตัวของประเทศจีนจะอยู่ในลักษณะ V- Shaped หลังจากที่ปี 2565 จีนเป็นประเทศที่ยังมี TSS และ SSS ติดลบ
Comment
เรามีมุมมองเชิงบวกจากการประชุม และคาดว่า 1Q66 จะมีผลประกอบการที่โดดเด่นกว่าไตรมาส 1 ของปีอื่นๆ กลุ่มร้านอาหารคาดเห็นการฟื้นตัวที่โดดเด่นจากประเทศจีน หลังจากยกเลิกนโยบาย Zero-COVID เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 40.50 บาท จากการอิงผลประกอบการปี 2566 เนื่องจาก MINT มีการกระจายรายได้ในต่างประเทศทั่วโลกสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่ากลุ่ม