สรุปภาวะตลาด
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่อ เคลื่อนไหว sideway ในแดนลบ มาจากแรงขายหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ขนส่ง และค้าปลีก ส่วนแรงซื้อมาจากหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่มีปัจจัยบวก คือ การรอขึ้น XD และจ่ายเงินปันผล ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,606.88 จุด -5.76 จุด -0.36% มูลค่าการซื้อขาย 57,813 ลบ.ต่างชาติ -968.66 ลบ. TFEX -29,354 สัญญา ตราสารหนี้ +675.70 ลบ.
ปัจจัยบวก +
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 40.47 จุด +0.12% นลท. ระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะแถลงต่อสภาคองเกรสสหรัฐ และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอก ภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในสัปดาห์นี้
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ +1% ปิดที่ 80.46 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากผู้บริหารของบริษัท พลังงานรายใหญ่ระบุว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในภาวะตึงตัว และคาดว่าอุปสงค์น้ำมันในประเทศจีนจะฟื้นตัวขึ้น
+ สหรัฐเปิดเผยว่า คำส่ังซื้อภาคโรงงานลดลง 1.6% ในเดือนม.ค. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.8% หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนธ.ค.
+ เปิดจองสิทธิ์เราเท่ียวด้วยกัน เฟส 5 วันแรก ททท. คาดคึกคักหลังคนไทยไม่ได้เล่นสงกรานต์นาน 3 ปี ชี้อาจ หมดเร็วลุ้นทุบสถิติ
ปัจจัยลบ –
– ผลการวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารสุขภาพ Lancet Planetary Health บ่งชี้ว่าประมาณ 99.82% ของพื้นที่ทั่วโลกเผชิญกับฝุ่น PM2.5 ในระดับที่สูงกว่าขีดจำกัดที่ปลอดภัย ตามคำแนะนำของ WHO และมีประชากรโลกเพียง 0.001% เท่านั้นที่หายใจในอากาศที่ได้รับการยอมรับว่าปลอดภัย
– ผู้นำสหรัฐ ประกาศข้อจำกัดการส่งออกสินค้าให้กับบริษัทจีนอีกหลายสิบแห่งที่ดำเนินกิจกรรมที่ขัดต่อความมั่นคงของชาติ และผลประโยชน์ด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ
– เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนกล่าวเป็นนัยว่า สหรัฐเป็นต้นเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เผชิญกับผันผวนอย่างหนัก ซึ่งถือเป็นการกดดันให้สหรัฐเป็นผู้รับผิดชอบต่อกรณีที่ประเทศยากจนที่สุดบางประเทศต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านหน้ีสิน
– รัฐบาลจีนกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ในปีน้ีอยู่ที่ประมาณ 5% ลดลงจากเป้า 5.5% ในปีที่แล้วเล็กน้อย ทั้งน้ี GDP จีนเติบโต 3% ใน ปี 2565 ซึ่งน้อยกว่าเป้าหมายที่ต้ังไว้อย่างมาก และเป็นอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันน้ีมีโอกาส Rebound ระยะสั้น หลังปรับตัวลงต่อเนื่องในสัปดาห์ก่อน โดยนักลงทุนยังจับตาประธาน เฟด จะแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสสหรัฐ ในสัปดาห์น้ี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่กลับมายืนเหนือ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล ช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันน้ีที่ 1,600-1,620 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- จีนเปิดประเทศ+เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
- หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
- หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : TKS SIRI PR9 SC STEC STPI
- BOI ส่งเสริมการลงทุนช้ินส่วน EV : EA GPSC BCP DELTA PIMO FPI
- หุ้นปันผลดี : ADVANC TISCO SCB PT SMIT
หุ้นรายงานพิเศษ
JSP – กำไรฟื้นตัว
- รายงานกำไร 4Q65 ที่ 10.6 ลบ. พลิกจากขาดทุนในไตรมาส 3/65 และเติบโต 41%YoY โดยได้แรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น 35%QoQ และ 27%YoY สู่ 141.3 ลบ. เนื่องจากรายได้จาก OEM ในการผลิตยาแผนปัจจุบัน เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 29.9% ในไตรมาสก่อนสู่ 33.9% เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตทั้ง OEM และ OWN BRAND เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ปี 65 มีผลขาดทุน 17.5 ลบ. พลิกจากกำไรในปี 64 ที่ 33.3 ลบ.
- ผบห.คาดรายได้ปี 66 เติบโต 30% สู่ 550-570 ลบ. เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ทำให้มีคำส่ังซื้อ OEM เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังปี 65 มีการขยายกำลังการผลิตยาน้ำจาก 5 แสนขวดต่อเดือนสู่ 1 ล้านขวดต่อเดือน ณ ปลายปี 65 และ ปี 66 มีแผนขยายกาลังการผลิตเพิ่มสู่ 2 ขวด เป็นตัวหนุนการเติบโตของรายได้เพิ่มเติม ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวที่ระดับ 30%
- ความเห็น เรามุมมองบวกต่อผลประกอบการปี 66 เนื่องจากคำส่ังซื้อ OEM ในอาหารเสริมฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ นอกจากน้ียังรับรู้กำลังการผลิตยาน้ำที่เพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านขวดต่อเดือนสู่ 2 ล้านขวดต่อเดือนช่วย หนุนให้รายได้เติบโตตามเป้าที่ 30% ด้านราคาหุ้นรับรู้ข่าวร้ายไปแล้วในปี 65 ปรับตัวลง 43% เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) PTG (Bloomberg consensus 16.00 บาท) “พิทักษ์ รัชกิจประการ” บิ๊ก ตั้งเป้าปี 2566 อีบิทดาทะยาน 8-12% จากปีก่อน พร้อมเล็งทุ่มงบ 6 พันล้านบาท ขยายสถานีบริการ-Non-Oil-ธุรกิจ ใหม่ อัพฐานโกยเงินเพิ่ม ลุยหนักกาแฟพันธุ์ไทย 1,000 สาขา เล็งนำเข้าตลาดหุ้น คาดชัดเจนปี 2568 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BJC (Bloomberg consensus 42.00 บาท) ปีนี้ฟื้นทุกธุรกิจ ยอดขายต่อสาขาโตแรง 8-10% ใส่เกียร์ขยายใหญ่อาเซียนตั้งงบ 1.5 หมื่นล้านบาท รุกเปิดสาขาบิ๊กซีทุกขนาดทั้งไทย กัมพูชา และ สปป.ลาว เพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียนต่อเนื่อง ปรับปรุงไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่มแพ็กเกจจิ้งสอดคล้อง ESG (ที่มา ทันหุ้น)
(+) RS (Bloomberg consensus 16.50 บาท) จ่อปิดดีลอยู่ระหว่างเจรจา 2-3 ดีล เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปใน Q2/2566 มูลค่าลงทุนเฉลี่ย 300-600 ล้านบาทต่อดีล พร้อมดึงพาร์ตเนอร์ระดับอินเตอร์มาเสริมแกร่งธุรกิจมิวสิกในไตรมาส 2/2566 อีกด้วย วางเป้ารายได้ปี 2566 โตแตะ 5.5 พันล้านบาท ย้ำคงอัตรากำไรขั้นต้น 48-50% และอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ระดับไม่น้อยกว่า 11-13% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BC (Bloomberg consensus – บาท) ปักเป้าพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ BOS เป็นธีมชูโรง หวังรับเงินสดจากการขายไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ด้านผู้บริหารมั่นใจภาพรวมธุรกิจอยู่ในเทรนด์ขาขึ้นรับการเปิดประเทศและท่องเที่ยวคึกคัก ต้ังเป้ารายได้ BOS ที่ 700 ล้านบาท ธุรกิจโรงแรม 500 ล้านบาท แถมยังได้ธุรกิจกัญชาเป็นแรงหนุน (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 7 มี.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) แถลงสถานการณ์การส่งออก
- สัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
- สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
- สัปดาห์ท่ี 5 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
- 29 มี.ค.ประชุม กนง.ครั้งที่ 2/2566
- 31 มี.ค.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
- 7 พ.ค. เลือกตั้ง
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 7 มี.ค. จีน รายงานยอดนำเข้า, ส่งออก และดุลกาค้าในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.
- สหรัฐ รายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน ม.ค.
- 8 มี.ค. สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน เดือนก.พ.จาก ADP ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน และอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนม.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
- 9 มี.ค. จีน รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ.
- สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- 21-22 มี.ค. กำหนดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
- 3 เม.ย. กำหนดการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส เกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน