Daily Focus: Selective Play // Accumulate on Dip
2023SET Target: 1750
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index อ่อนตัวลงต่อเนื่อง โดยปิดลบอีกเล็กน้อย 5.76 จุด ณ สิ้นวัน ตลาดยังขาดปัจจัยบวกเข้ามาหนุน ขณะที่หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่อย่าง CPN CRC ยังเผชิญแรงขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่อง และเร่งตัวขึ้นเป็น 2.9 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอีก 969 ลบ. (และ Short Index Futures อีกกว่า 2.9 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังแกว่ง Sideways โดยรวมยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ตลาดตอบรับเชิงลบต่อทั้งปัจจัยภายนอก คือ แนวโน้มดอกเบี้ยของ FED ที่ปรับขึ้นมากกว่าคาด รวมถึงในประเทศ คือ กำไรบจ. 4Q22 ที่ต่ำกว่าคาดไปมากพอสมควร ทำให้เรายังคาดหวังการเกิด Technical Rebound ระยะสั้นจากแนวรับหลัก 1,600+- จุด โดย RSI เข้าเขต Oversold ส่วนวันนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน ก.พ. และการแถลงของประธาน FED ต่อหน้าสภาคองเกรสว่าจะมีการเน้นย้ำนโยบายการเงินที่ยังจําเป็นต้องดึงตัวขึ้น รวมถึงทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด เรายังประเมินดัชนีมีโอกาส Bottom ในช่วง มี.ค. 23-2Q23 และเป็นจังหวะสะสมหุ้นระยะกลาง-ยาว จากแรงกดดันนโยบายการเงินทั่วโลก ที่จะเริ่มทรงตัวใน 2H23 ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดยังทยอยเร่งตัว ส่วนระยะสั้นมี Catalyst จากการหาเสียงเลือกตั้งใน 1-2 เดือนข้างหน้าที่จะมีเม็ดเงินสะพัดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการบริโภค อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยที่จะทรงตัวในระดับสูงยาวนาน หุ้นที่คาดว่าจะยังปรับตัวได้แข็งแรงคือคือ Value Play ที่เทรด PER ไม่สูง โดยยังชอบ Domestic มากกว่า Global Play และส่งออก
กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว//ระยะกลาง-ยาวทยอยสะสมหุ้นช่วงตลาด ปรับฐานบริเวณ 1,600 จุดหรือต่ำกว่า
หุ้นเด่นเดือน มี.ค. : ASW, BEYOND, CPN, M, NSL
หุ้นเด่นวันนี้ : NSL
  • แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท
  • แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2023 คาดว่ายังแข็งแกร่งต่อเนื่องจาก 4Q22 ซึ่งในฝั่งรายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งตามการบริโภคที่ฟื้นและนักท่องเที่ยวที่กลับมา ขณะที่ Margin คาดยังอยู่ในระดับที่ดีจากการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
  • ประมาณการเรายังคาดก่าไรปี 2023 +15% y-y มี Upside จากการ MoU กับ Bake a Wish ซึ่ง NSL จะเข้าไปเป็น Supplier หลักให้ รวมถึงข้าวแท่งหากประสบความสําเร็จมากขึ้นใ อนาคต ซึ่งเรายังไม่ได้รวมทั้ง 2 ปัจจัยไว้ในประมาณการ
  • แนวรับ 22.50 บาท แนวต้าน 24//24.50 บาท

Fund Flow : ช่วง 2 วันทำการล่าสุดกระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคต่อเนื่องอีก US$500 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้และไต้หวัน US$335 ล้าน และ US$268 ล้าน ส่วนอาเซียนไหลออกทุกประเทศนำโดยอินโดนีเซีย US$56 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะชะลอการไหลเข้า โดยจับตาการแถลงของประธาน FED ต่อสภาคองเกรสคืนนี้ต่อมุมมองเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) จับตาเงินเฟ้อไทยเดือน ก.พ. วันนี้ ตลาดคาดเงินเฟ้อทั่วไป +4.18% y-y ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน +2.1% y-y ซึ่งเป็นการปรับขึ้นที่ชะลอจากเดือน ม.ค. ที่ +5.02% y-y และ 3.04% y-y ตามลำดับ สำหรับเงินเฟ้อทั่วไปและพื้นฐาน หากออกมาไม่สูงกว่าคาด เรามองตลาดจะตอบรับเป็นกลางค่อนไปในทางบวกจากแรงกดดันเงินเฟ้อต่อกำลังซื้อที่ลดลง เป็นบวกต่อการบริโภคในประเทศ และเรายังคงมุมมองธปท.ปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 2% ในกลางปีนี้

(+) BA การประชุมโทนเป็นบวก ผู้บริหารคาดปริมาณผู้โดยสารจะกลับสู่ระดับ 4.4 ล้านคนหรือ ราว 70-80% เทียบกับก่อน COVID-19 โดย Load Factor คาดที่ 73-74% ใกล้เคียงกับที่เราประเมิน ขณะที่ค่าตั๋วเฉลี่ยคาดปรับขึ้นราว 7% เป็น 3,400 บาท ลูกว่าก่อน COVID-19 แล้ว หนุนให้ Passenger Yield ยังแข็งแกร่งต่อเนื่องใน 1H23 ส่วนโครงการอู่ตะเภาจะเริ่มก่อสร้างปีนี้ เรายังมุมมองเชิงบวกต่อการ Turnaround ของกำไรในปีนี้ คงราคาเป้าหมาย 18 บาท แนะนํา “ซื้อ” (กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการตรวจสอบ/ ประธานคณะกรรมการสรรหา ค่าตอบแทนและบรรษัทภิบาล ของ FINANSIA SYRUS เป็น กรรมการ ของ BA)

(+) CHG โทนการประชุมค่อนไปในทางบวก ผู้บริหารคาดรายได้ปี 2023 ที่ 8 พันลบ. สูงกว่าที่เราคาดที่ 7.3 พันลบ. หนุนจากรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ Fly-in โดยเฉพาะกลุ่มพม่า กัมพูชา และตะวันออกกลาง รวมถึงแรงหนุนจากโรงพยาบาลใหม่ทั้งที่แม่สอดและ Chularat Medical Center ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนจากศูนย์มะเร็งเดิม โดยคาดจะช่วยศักยภาพรักษาโรคซับซ้อนอื่น นอกเหนือจากมะเร็งหนุนการเติบโตของรายได้ ยังคงราคาเป้าหมาย 4.40 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(-) HANA โทนการประชุมเป็นลบ ผู้บริหารให้ข้อมูลว่ารายได้ IC ใน 1H23 จะหดตัวราว 15- 18 y-y จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอซึ่งกระทบกลุ่มสินค้าคอมพิวเตอร์และมือถือ ขณะที่ Gross Margin เราคาดหดตัวจาก 4Q22 เบื้องต้นประเมินกำไร 1Q23 -9% q-q, 26% y-y ส่วนประเด็น Tesla จะลดการใช้ SiC ลง แต่ผู้บริหารมั่นใจว่ายังคงเป็นชิ้นส่วนสำคัญสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภาพสูง และสามารถใช้กับสินค้ากลุ่มอื่นนอกจากยานยนต์ได้ แต่มีการปรับลดเป้าการเติบโตของ SiC ลงจากเดิม 10-20% เรายังคาดกำไรปกติปี 2023 +1% y-y ประเมินราคาเป้าหมาย 60 บาท แนะนำ “ถือ”

(0) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 40.47 จุด หรือ +0.12% ปิดที่ 33,431.44 จุด โดยการซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง ก่อนที่ประธาน FED จะแถลงต่อสภาคองเกรสสหรัฐ และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาค -0.40 เกษตรเดือนก.พ.ในสัปดาห์นี้
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ ถูกกดดันหลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) สนับสนุนความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
(-) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ ขณะที่นักลงทุนรอติดตามผลการประชุมของธนาคาร -0.53 กลางออสเตเลียในเช้านี้ และการแถลงของประธาน FED ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในสัปดาห์นี้
(0) ค่าเงินบาท แกว่งตัวแคบ อยู่ที่บริเวณ 34.56 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 80.46 ดอลลาร์/ บาร์เรล หลังจากผู้บริหารของเชฟรอนระบุว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกอยู่ใน =ภาวะตึงตัว และคาดว่าอุปสงค์น้ำมันในประเทศจีนจะฟื้นตัวขึ้น ในขณะที่เช้านี้ทรงตัวที่ระดับ 80.48 ดอลลาร์/บาร์เรล 0.02%
(0) ราคาทองคำ COMEX ปิดที่ 1,854.60 ดอลลาร์/ออนซ์ (ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดของวันศุกร์ที่ 3 มี.ค.) ในขณะที่เช้านี้ปรับลงที่ระดับ 1,851.0 ดอลลาร์/ออนซ์ -0.19%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 912.11 / -0.58
- Advertisement -