KS Daily View 07.03.2023 >>> รอตัวเลขอัตราเงินเฟ้อไทย ติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ SET แกว่งตัวในกรอบ 1,600-1,616 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ KLINIQ
สรุปตลาดหุ้นวันก่อนหน้า
ในประเทศ SET Index เมื่อวันศุกร์ปิด 1606.88 จุด (-0.36%) หุ้นที่ปรับลงแรงและกดดัชนีคือ HANA -4.39%, CPN -2.6%, DELTA -2.4%, AOT-1.74% ฯลฯ ส่วนหุ้นที่ปรับขึ้นเด่นคือ BDMS +1.8%, KTB +1.2%, TRUE +1.06% ฯลฯ
ต่างประเทศ : ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวานแกว่งตัวในกรอบแคบๆ อิง ดัชนี Dow Jones 0.12%, S&P500 0.07%, ดัชนี Nasdaq -0.11% โดย Sector ในดัชนี S&P500 กลุ่มที่ Outperform หลักๆคือ IT +0.53%, Communication Services +0.46%, Utilities +0.43% ฯลฯ ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือ Materials -1.65%, Consumer Discretionary -0.71%
ประเด็นที่ต้องติดตามและคาดเป็นกระแสต่อการลงทุน
จีนตั้งเป้า GDP ปี 2023 ที่ 5% และเป้าขาดดุลงบประมาณภาครัฐที่ 3% ของ GDP เป้า GDP ปีนี้ของจีนต่ำกว่าเป้าปี 2022 ที่ 5.5% ขณะที่ GDP จีนในปีที่ผ่านมาเติบโตพลาดเป้าโดยทำได้เพียง 3% จากผลกระทบของนโยบาย Zero-COVID ของจีน โดยเรามองว่าการที่จีนตั้งเป้าหมายการเติบโตแค่ 5% ในปีนี้ถือว่าค่อนข้าง Conservative เพราะจีนเริ่มคลาย lockdown และเปิดประเทศตั้งแต่ปลายปี 2022 นอกจากนี้เริ่มเห็นตัวเลข PMI ภาคการผลิต และภาคบริการฟื้นตัวแข็งแกร่งในเดือน ก.พ. ทำให้คาดว่ามีโอกาสที่จีนจะบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 5% ได้ไม่ยากนัก ทำให้จีนไม่จำเป็นต้องทำการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่เหมือนในปีที่ผ่านมา เรามีมุมมองเป็นกลางกับตัวเลขดังกล่าว และคาดว่าการที่เศรษฐกิจจีนกลับมาขยายตัวในระดับ 5% ขึ้นไปในปี 2023 จะหนุนหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนได้แก่ SCGP ราคาพื้นฐาน 52.0 บาท, PSL ราคาพื้นฐาน 18.5 บาท, PTTGC ราคาพื้นฐาน 57.25 บาท และกลุ่มโรงกลั่น อย่าง BCP ราคาพื้นฐาน 42.50 บาท
ราคาก๊าซในยุโรป Dutch TTF Gas ปรับลงต่อเนื่อง ทำจุดต่ำสุดตั้งแต่ มิ.ย.2021 เราประเมินเป็นบวกต่อหุ้นโรงแรมในยุโรป โดยเฉพาะ SHR ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 5.91 บาท คาดว่า SHR จะรายงานกำไรงวด 1Q23 ดีต่อจากงวด 4Q22 จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้ RevPar ของโรงแรมในประเทศสูงขึ้นตาม และในส่วนโรงแรมในต่างประเทศ มัลดีฟส์เป็นช่วงไฮซีซั่น รวมถึงยังเห็น Trend การ Upgrade ทั้ง EPS ขึ้น 9% และ Target Price ขึ้น 4.1% ในสัปดาห์ที่แล้ว
Property sector : ติดตามกรณีที่สำนักข่าว VOA ของสหรัฐฯ เผยว่ามีชาวรัสเซียหนีสงครามแห่ทะลักเข้าไทยกว่า 3 แสนคน โดยจำนวนมากลงทุนซื้ออสังหาฯ หรือเช่าที่อยู่อาศัยระยะยาว โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ตที่เกือบ 40% ของคอนโดฯทั้งหมดบนเกาะขายให้กับชาวต่างชาติ มองอาจเป็น sentiment เชิงบวกกับบริษัทเตรียมเปิดโครงการในต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย เช่น ORI, SPALI, SIRI เป็นต้น
4Q22 analyst meeting program: ติดตามการประชุม Analyst meeting ในวันอังคาร (TKN, SJWD, BRI, KLINIQ, ORI) วันพุธ (SAPPE, MOSHI), และวันศุกร์ (THG)
Electronic sector: ติดตามแผนการเพิ่มทุนแบบ PP ของ HANA ซึ่งรออนุมัติใน AGM หลังผู้บริหารให้ข้อมูลว่าต้องลงทุน 90-120 ล้านเหรียญในปี 2023 โดย 75% จะใช้สำหรับการขยายธุรกิจ Power Master Semiconductor (PMS) ซึ่งเน้นสินค้า SiC อย่างไรก็ตามหลังการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพบว่าแนวโน้มการ turnaround ของ PMS อาจช้ากว่าคาดจากยอดขายที่โตน้อยกว่าคาด และค่าใช้จ่าย SG&A ที่ยังสูงอยู่ ทำให้คาดว่ากำไรของ HANA จะโตเพียง 4.8% ต่อปีในช่วงปี 2023-24 นอกจากนี้ยังต้องติดตามผลกระทบหลัง TESLA ตัดสินใจลดการใช้ SiC transistors ในรถโมเดลรุ่นต่อๆไปด้วย หลังพบเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยคงประสิทธิภาพของรถจากการใช้ SiC น้อยลง 75% อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ของ KS มองว่าผลกระทบต่อ HANA จะจำกัด เนื่องจาก TESLA ไม่ใช่ลูกค้าของ HANA และความต้องการใช้ SiC ของค่ายรถเจ้าอื่นๆ ยังแข็งแกร่ง
ทิศทางตลาดหุ้นในประเทศ : มุมมองตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ คาดจะ Rebound ขึ้นได้ คาดแกว่งตัวในกรอบ 1600-1666 จุด ประเมินว่านอกเหนือจากปัจจัยในต่างประเทศดังกล่าวที่มีผลต่อ SET Index แล้วในช่วงนี้ปัจจัยในประเทศ เชื่อว่าตลาดจะกลับมาโฟกัสหุ้นรายตัว โดยเฉพาะบริษัทที่จะมีงาน Analyst meeting รวมถึงประเด็นเรื่องการเลือกตั้งจะเริ่มมีน้ำหนัก ซึ่งโดยปกติก่อนการเลือกตั้งในอดีต ตลาดหุ้นจะแกว่งตัวไร้ทิศทาง ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องจับตาในอาทิตย์นี้ คือ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อไทย เดือน ก.พ. ตลาดคาดจะลดลงเหลือ 4.2%YoY ชะลอลงแรงจาก 5.02%YoY ในเดือน ม.ค. หากลดลงแรงเราประเมินจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มการเงิน กลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ได้ประโยชน์จากความคาดหวังว่า ธนาคาแห่งประเทศไทยจะเริ่มชะลอ Cycle ดอกเบี้ยขาขึ้น
Theme หุ้นแนะนำ
1.) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว คือ กลุ่มพลังงาน กลุ่มโรงกลั่น กลุ่มปิโตรเคมี โดยมีปัจจัยสนับสุนจาก Prob Recession ในประเทศสหรัฐ และยุโรปลดลง , จีน PMI ที่ออกมาดีกว่าคาด , Sector พลังงานในสหรัฐ Outperform ในช่วงที่ผ่านมา โดยหุ้นแนะนำ BCP ราคาพื้นฐาน 42.5 บาท PTTGC ราคาพื้นฐาน 57.25 บาท
2.) หุ้นที่แนวโน้มธุรกิจเติบโต แนะนำ MOSHI ราคาเป้าทางเทคนิค 55.0 บาท KLINIQ ราคาพื้นฐาน 44.5 บาท
ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งในกรอบ 1600 -1616 จุด หุ้นแนะนำ KLINIQ
Top pick : KLINIQ (ราคาพื้นฐาน 44.5 บาท)
1.) คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้น KLINIQ ดูจะยังไม่แพง ซื้อขายด้วย PER ปี 2566 ที่ 34.8x และจะลดลงเหลือ 26.2 เท่าในปี 2567
2.) คาดการณ์กำไรยังเติบโตเด่นในปี 2023-2024 เราคาดที่ 240 ล้านบาท + 17%YoY และคาด 319 ล้านบาท + 33%YoY
3.) KLINIQ จะจัดประชุมนักวิเคราะห์ในวันนี้ 7 มี.ค. เวลา 13.30 น.
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันอังคาร ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือน ก.พ. คาด 4.2% YoY ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานของไทยเดือน ก.พ. คาด 2.05% YoY ตัวเลขส่งออก และนำเข้าของจีน เดือน ม.ค.-ก.พ. คาด -10.0% YoY และ -5.3% YoY ตามลำดับ การประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย คาด ปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bps. เป็น 3.6% ตัวเลข Factory order ของเยอรมันเดือน ม.ค. คาด -1% MoM และ Fed Chair Powell Testimony
- วันพุธ ติดตาม ตัวเลข JOLTs Job Opening ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. คาด 10.6 ล้านตำแหน่ง (vs. 11.012 ล้านตำแหน่งเดือนก่อน) ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯรายสัปดาห์ และ Fed Chair Powell Testimony วันที่สอง
- วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อของจีน เดือน ก.พ. คาด +0.6% MoM และ +2.3% YoY ดัชนีราคาผู้ผลิตของจีน (PPI) เดือน ก.พ. คาด -0.5% YoY ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด 200K และถ้อยแถลงของ Fed Barr
- วันศุกร์ ติดตามการประชุมธนาคารกลางของญี่ปุ่น ซึ่งตลาดคาดว่า BOJ จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% ขณะที่ต้องจับตานโยบาย Yield Curve control ที่รอบก่อน BOJ ยังไม่ขยายกรอบการเคลื่อนไหวสำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่ +/- 0.5% โดยล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของญี่ปุ่นอยู่ที่ 0.53% ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน ก.พ. คาด 52 จุด (+0.6% MoM) ตัวเลข Non-farm payroll ของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +200K ตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด 3.4% ตัวเลข Average Hourly Earnings ของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +0.3% MoM และ +4.7% YoY