ตลาดหุ้นเคลื่อนไหวกรอบแคบ รอ Fed แถลงคืนนี้
กรอบ SET INDEX 1590-1630
Market Outlook
บรรยากาศการลงทุนเริ่มดูผ่อนคลายมากขึ้นจากการปรับขึ้น ของ Dow Jones ในวันศุกร์ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ปรับตัวขึ้นได้เป็นส่วนใหญ่ มองการปรับฐานลงมาของ SET INDEX จากจุดสูงสุดถึงล่าสุดราว 4.6% Price In ประเด็นลบด้านผลประกอบการและตอบรับกับเงินเฟ้อสหรัฐฯ ไปพอสมควร ขณะเดียวกัน US Bond Yield ก็เริ่มชะลอตัวลง จึงเชื่อว่า SETจะเริ่มฟื้นตัวได้บ้างแต่ยังให้น้ำหนักเป็นเพียงการฟื้นตัวช่วงสั้น เนื่องจากระยะถัดไปยังเต็มไปด้วยหลายความเสี่ยง สัปดาห์นี้ปัจจัยสำคัญติดตาม (1) วันอังคารประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินครึ่งปีต่อคณะกรรมการใน Washington DC เชื่อว่าตลาดจะไปให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อและดอกเบี้ย หากส่งสัญญาณผ่อนคลายตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวต่อ (2) วันพุธสหรัฐฯ มีกำหนดรายงานการจ้างงานภาคเอกชน โดย ADP Bloomberg คาดไว้ที่ 1.95 แสนราย หากต่ำกว่าคาดจะเป็นบวกกับตลาดหุ้น (3) การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสําคัญเพราะมีผลสูงกับตลาด Bloomberg คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 2.06 แสนราย อัตราการว่างงานที่ 3.4% หากต่ำกว่าคาดจะยิ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น ในประเทศติดตามเงินเฟ้อไทยประจำเดือน ม.ค. ในช่วงเช้า วันอังคาร Bloomberg คาดไว้ที่ 4.1% YoY หากต่ำกว่าคาด จะเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินบาท และทิศทาง Foreign Fund Flow ในส่วนของ Sector ที่น่าสนใจสำหรับการ Trading ในการฟื้นตัวมองไปที่ Domestic Play เนื่องจากทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศค่อนข้างชัดเจน
เชิงกลยุทธ์ เลือกกลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB, TTB, TISCO) กลุ่มค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL, HMPRO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, MINT, SHR, VRANDA) ศูนย์การค้า (CPN) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ขนส่ง (BEM) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF, RATCH) เครื่องดื่ม (ICHI) ร้านอาหาร (M) สินค้า IT (COM7) ประเมินกรอบ SET INDEX สัปดาห์นี้ที่ 1590-1630
หุ้นแนะนําซื้อวันนี้
AOT ราคาพื้นฐาน 78.00 บาท
ราคาหุ้นปรับฐานลงมาจนเริ่มน่าสนใจสำหรับ Trading ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่ง ชึ่งผลประกอบการกําลังฟื้นตัวตามการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยคาดว่าผลประกอบการจะเห็นการฟื้นตัวได้ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะตั้งแต่ FY2Q23 เป็นต้นไปที่จะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาอย่างมาก ขณะที่ในช่วง FY3Q23 จะสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการแล้วทำให้จะเก็บการก้าวกระโดดของผลประกอบการอย่างมาก
CPN ราคาพื้นฐาน 83.00 บาท
ในแง่การดำเนินงาน CPN ได้รับผลดีจากมาตรการเปิดประเทศของจีนที่ทำให้จํานวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวได้อย่างมาก โดยปี 23 เราประเมินรายได้อยู่ที่ 40,917 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 12,855 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าปี 19 แล้ว ส่วนกำไรงวด 4Q22 ออกมาใกล้เคียงคาดที่ระดับ 2,800 ล้านบาท