MARKET STRATEGY

ประเมิน SET Index ปรับตัวลงตามโดยทดสอบแนวรับ 1,608-1,600

สรุปตลาดวานนี้

SETI Rebound ตามภูมิภาค หลังจากช่วงที่ผ่านมามีแรงเทขายออกมาและราคาลงลึกมากเกินไป รวมถึงอัตราเงินเฟ้อไทย ก.พ. ออกมาต่ำคาด

Research Highlight: ตลาดเสี่ยงปรับฐาน SET ระดับ 1608-1600 เป็นกรอบพิจารณาสะสม

1. ถ้อยแถลงของพาวเวลส่งผลให้ตลาดปรับฐาน

    • ปธ.เฟดส่งสัญญาณว่าเฟลอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงกว่าที่เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ก่อนหน้านี้  เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง ซึ่งแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อได้ชะลอตัว แต่ยังใช้เวลาอีกยาวนานกว่าจะถึงกรอบเป้าหมาย 29% กระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหมดที่ปรับฐานลงแรงในเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ Dollar index ดีดตัวขึ้นแรงทะลุระดับ 105 จุด และ US band yield ที่ปรับตัวขึ้นแรง โดยเฉพาะรุ่นอายุ 1-2 ปี ที่เหนือระดับ 5% ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าการประชุมเฟด 21-22 มี.ค. นี้ เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% สู่ระดับ 5.00-5.25% แต่ยังคง terminal rate ที่ 5.50-5.75%
    • อย่างไรก็ดี คืนนี้พาวเวลยังมีการแถลงในสภาคองเกรส
    • ตลาดจะให้น้ำหนักกับ 3 ปัจจัยที่จะกำหนดทิศทางตลาดในระยะสั้น-กลาง ดังต่อไปนี้

1. ตัวเลข US non-farm payrolls และ US unemployment rate (10 มี.ค.)

2. US CPI ก.พ. ที่หากไม่ชะลอตัวกว่าคาดจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟลปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นแรง (14 มี.ค.)

3. การประชุมเฟด 21-22 มี.ค.

    • ในเชิงกลยุทธ์ อาจเห็น fund flow ไหลออกอย่างต่อเนื่องหลังค่าเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าแรงแตะระดับ 35 บาท/ดอลลาร์

2. อัตราเงินเฟ้อ ก.พ. ไทย ขยายตัวเพียง 3.79% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาด

    • CPI ก.พ.ไทยออกมาขยายตัวเพียง 3.79%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 4.1-4.2%YoY ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 13 เดือนตามราคาพลังงาน อาหารสด ที่ปรับตัวลง
    • แนวโน้มอัตราเงินไทยจะปรับตัวลงจากฐานที่สูงของปีก่อน (CPI มี.ค-ธ.ค. 65 >5%) และอานึงสงส์บวกจาก 1. ราคาพลังงานที่ลดลง 2. ราคาเฉลี่ยอาหารสดปรับลดลงต่อเนื่อง และ 3. แนวโน้มการปรับลดค่า Ft งวด พ.ค. ส.ค. ที่ค่าเฉลี่ยมีโอกาสต่ำกว่า 5 บาทต่อหน่วย (โรงไฟฟ้า // + ค้าปลีก ห้าง อาหาร)
    • มุมมองต่อนโยบายการเงินของ กนง. มองว่าเข้าใกล้จุดพีคของวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นแล้ว โดยคาดการประชุม กนง. 29 มี.ค. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% สู่ระดับ 1.75% โดยเราประเมินอัตราดอกเบี้ยนโยบายสิ้นปีนี้จะเท่ากับ 2.00% ทำให้ภาพ TH bond Yield ชะลอการปรับตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนให้ EYG ให้ดีขึ้น
    • ในเชิงกลยุทธ์เป็นบวกต่อ Domestic consumption ทั้งกลุ่มค้าปลีกและอาหาร เราชอบ CPALL HMPRO BJC CBG TU

Investment Strategy

    • SETI Rebound ขึ้นแต่ยังไม่สามารถยืนเหนือกลุ่ม EMA ระยะสั้นได้ อาจเห็นแรงขายทำรอบต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดต่างประเทศปรับฐานกันแรง มีโอกาสที่ SETI จะปรับตัวลงตามโดยทดสอบแนวรับ 1608-1600 เป็นกรอบพิจารณาหลัก ยืนได้มั่นคงเป็นจังหวะสะสม ถือระยะกลาง-ยาว แนวต้าน 1622/1630
    • แนะนำ Selective buy กลุ่มธนาคารที่ยัง Laggard ตลาด เช่น KBANK SCB KKP TIDLOR กลุ่ม Defensive SISB DMT BDMS BH ADVANC THCOM MASTER JMT กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า HANA KCE TU GFPT TU ASIAN TKN SAPPE

Fund Flow Rotation

    • Underweight: FIN (NCAP SAWAD) จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ครม.เห็นชอบให้ ธปท. ควบคุมเช่าซื้อ ลีสซิ่ง
    • Overweight: BANK (KBANK SCB)

Upcoming Events

ไทย

    • บอร์ดกกพ.พิจารณาสรุปค่า Ft งวด พ.ค. ส.ค. คาดว่ามีแนวโน้มปรับลดลง (8 มี.ค.)
    • ความเชื่อมั่นผู้บริโภค (9-10 มี.ค.)

ต่างประเทศ

    • US Nonfarm มี.ค.) Payrolls (ก.พ.) คาดลดลงเหลือ 203K ตำแหน่ง จากเดือนก่อนที่ 517K ตำแหน่ง (10 มี.ค.)

Global Markets

( – ) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบกว่า 500 จุด หลังพาวเวลส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงกว่าคาด เพื่อฉุด เงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟด

( – ) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ จากความกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแสดงความเห็นสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

( – ) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบกว่า 3% จากเฟดส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งทําให้นักลงทุนกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้านํ้ามันรายใหญ่ของโลก

(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ หลังเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงกว่าคาด เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟด

หุ้นเคาะไป คุยไป…THCOM

  • THCOM ตั้งเป้ารายได้ปี 66-67F เติบโตปีละ 10% และจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 70 เนื่องจากจะมีดาวเทียมดวงใหม่ 3 ดวงที่มี Capacity มากกว่า 3 เท่าของดาวเทียมไทยคม 4 ซึ่งจะหมดอายุในเดือน ก.ย.67 ส่วนแนวโน้ม EBITDA Margin จะปรับตัวขึ้นกว่าปี 65 ที่ระดับ 41% เนื่องจากไม่มีต้นทุนของค่าเสื่อมดาวเทียมไทยคม 4 และไทยคม 6 ขณะ ทีบ. สเปซเทค อินโนเวชั่น จำกัด ได้ชนะการประมูลสิทธิการใช้วงโคจรโคจรดาวเทียม 2 ชุด ทำให้ความเชื่อมั่นของลูกค้ามากขึ้นที่บริษัทจะมีการให้บริการดาวเทียมต่อเนื่อง และเตรียมเข้ามาซื้อบริการมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันกำลังพูดคุยกับลูกค้าต่างประเทศ เช่นอินเดียที่มี demand อยู่มาก ซึ่งจะสรุปความชัดเจนได้ช่วง 2H66
  • ขณะที่มีแผนรุกตลาดบริการสื่อสารความเร็วสูงผ่านดาวเทียมทางทะเล (แพลตฟอร์มนาวา) โดยคาดว่าในปีนี้จะมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 20% ขณะที่ในอนาคตบริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจไปยังดาวเทียมถ่ายภาพ เพื่อใช้ตรวจสอบผลผลิตทางการเกษตร
  • ด้านผลประกอบการปี 65 THCOM รายงานกำไรสุทธิที่ 42 ล้านบาท หดตัว 70.7%YoY จากรายได้รวมลดลง 11.4% ตามการลดลงของธุรกิจการให้บริการบอร์ดคาสต์ เนื่องจากลูกค้าในประเทศที่เป็นกลุ่มราชการลดลง ตามสัมปทานดาวเทียมไทยคม 4 ใกล้สิ้นสุดลง แต่ด้านต้นทุนลดลงจากค่าเสื่อมของดาวเทียมไทยคม 4 และ 6 หมดลง
- Advertisement -