KS Daily View 09.03.2023 >>> ติดตามตัวเลขแรงงานวันศุกร์ รอเงินเฟ้อสหรัฐอาทิตย์หน้า/ ประชุม Fed 22 มี.ค. SET คาดแกว่งตัว 1,600 -1,620 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ KKP
สรุปตลาดหุ้นเมื่อวาน
ในประเทศ SET Index เมื่อวานเปิดต่ำและหลุด 1,600 จุด แต่มีแรงไล่ซื้อกลับและแกว่งตัวขึ้นช่วงบ่ายและปิด 1612.60 จุด (-0.37%) หุ้นที่ปรับขึ้นเด่นคือ CBG +3.6%, BJC +3.4%, BH +1.4% ฯลฯ ส่วนหุ้นที่ปรับลงแรงและกดดัชนีคือ OR -2.7%, PTTEP -1.9%, SCC -0.9% ฯลฯ
ต่างประเทศ : ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวออกข้าง ไมได้ตอบรับการแถลงประธาน Fed ที่แถลงต่ออีกวันต่อสภาล่าง แต่ตัวเลขแรงงานสหรัฐเมื่อวานที่แข็งแกร่งเป็นปัจจัยกดดัน คือ การจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ เดือน ก.พ. เพิ่ม 2.42 แสนราย มากกว่าที่ตลาดคาด 2.05 แสนราย และเพิ่มจากเดือน ม.ค. ที่ 1.9 แสนราย (การจ้างานหลักมาจากภาคบริการ ในสัดส่วนที่มากว่าภาคการผลิต) ตอกย้ำมุมมองให้ตลาดเชื่อว่าการประชุม Fed รอบ มี.ค. โอกาสขึ้นดอกเบี้ย 50 bps โดยรวมทำให้ดัชนี Dow Jones -0.18%, S&P500 0.14%, ดัชนี Nasdaq 0.4% โดย Sector ในดัชนี S&P500 กลุ่มที่ Outperform คือ Real Estate +1.32%, IT +0.84%, Utilities +0.78% ฯลฯ ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือ Energy -1.02%, Health Care -0.56%, Financials -0.41%
ทิศทางตลาดหุ้นในประเทศ
ประเมินตลาดหุ้นโลกและ SET Index จะยังให้น้ำหนักกับภาพใหญ่ คือประเด็นเรื่อง Fed และทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐจะมีผลต่อการเคลื่อนไหว เราประเมินความเห็นของประธาน Fed Powell ที่ออมาในโทน Hawkish และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐช่วงที่ผ่านมายังดูแข็งแกร่ง ทำให้มุมมองตลาดยังคงมุมมอง รอบ มี.ค. จะขึ้นดอกเบี้ย 50 bps และรอบ พ.ค. คาดขึ้นดอกเบี้ย 25 bps, รอบ มิ.ย.คาดขึ้นดอกเบี้ย 25 bps โดยดอกเบี้ยสหรัฐคาดจะทำจุดสูงสุดของปี 2023 ที่ 5.5-5.75% โดยเราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวลงในช่วงต้นเดือนมีนาคม และหลังจากนั้นประเมินตลาดจะเริ่ม price in การขึ้นดอกเบี้ย 50bps ในเดือนนี้ โดย Key สำคัญในเดือนนี้เราประเมินน้ำหนักจะอยู่ที่ Dotplot ของ Fed ทั้งประมาณการณ์ GDP ,เงินเฟ้อ, ดอกเบี้ย ที่จะประกาศในการประชุม Fed รอบ มีนาคมนี้ โดยเราประเมินจะทำให้เห็นโอกาสที่ตลาดหุ้นโลกจะเริ่มรีบาวน์หลังจากนั้น โดยรวม KS ยังคงกรอบแนวรับสำคัญของ SET Index บริเวณ 1,585จุด +/- มองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้น ส่วนแนวต้านสำคัญรอบนี้ประเมิน 1666 จุด
กลุยุทธ์การลงทุน ระยะสั้น แนะนำลงทุนในหุ้นที่อยู่โซนล่าง อาทิ BCP, KKP หุ้น Defensive อาทิ ADVANC หุ้นขนาดเล็กที่ทิศทางการเติบโตยังดี อาทิ KLINIQ
ประเด็นที่เป็นกระแสต่อการลงทุนในช่วงนี้
1.) ค่าไฟในประเทศมีโอกาสปรับลง โดย กกพ. แง้มค่าไฟ เดือน พ.ค.-ส.ค. 66 ต่ำสุด 4.80 บาท เร่งประชาพิจารณ์ 3 ตัวเลือก และกลับมาเสนอให้บอร์ด กกพ.พิจารณาอีกครั้งคาด 22 มี.ค. 2023 ปัจจัยดังกล่าวเริ่มมีการพูดคุยมาสักระยะนึงแล้ว และเป็นตัวกดดันให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟฟ้า SPP ปรับตัวลงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ BGRIM (-3.85%), GPSC (-4.1%), และ GULF (-3.7%) ซึ่งหากพิจารณาจากข้อเท็จจริงในอดีตเวลาที่ต้นทุนพลังงานลดลง (ล่าสุดราคา spot LNG นำเข้าลดลงเหลือ USD14/MMBtu หรือลดลง -25% MoM และ -60% YTD) การปรับลดค่า Ft จะลงช้ากว่า เพราะต้องเอาเงินไปช่วยชดเชยผลขาดทุนสะสมของ EGAT (มากกว่า 1 แสนล้านบาท) ทำให้ GPM ของกลุ่มโรงไฟฟ้าจะขยายตัว และกำไรใน 1Q23-2Q23 ภาพรวมจะเห็นการขยายตัวต่อเนื่อง ดังนี้ในเชิงกลยุทธ์ มองเป็นโอกาสสะสมเมื่ออ่อนตัว สำหรับหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ก่อนหน้านี้ปรับลงมาจากประเด็นต้นทุนค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น จะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ ซึ่งหากดูจาก YTD ราคาหุ้นปรับตัวลงมาพอควรคือ CPALL (-8.8% YTD) เพราะไม่สามารถติดตั้ง Solar roof top เหมือนหุ้นค้าปลีกตัวอื่นๆมองเป็นโอกาส ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมาย 73.50 บาท
2.) การเลือกตั้งในประเทศของไทย โดย Key สำคัญคือ ตลาดรอดูหน้าตาของรัฐบาล และ นโยบายเศรษฐกิจของแต่ละพรรค ซึ่งในอดีตและปัจจุบันยังเน้นไปที่การบริโภคในประเทศและเพิ่มกำลังซื้อ โดย วันเสาร์ที่ 25 มี.ค.2023 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) เชิญทีมเศรษฐกิจ 9 พรรคการเมือง อาทิ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคร่วมไทยสร้างชาติ ฯลฯ เรามองว่า Sector ที่จะได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง คือกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเม็ดเงินกระตุ้นเศณษฐกิจ 3 Sector ที่ผลตอบแทนสูงที่สุดในอดีตช่วงเลือกตั้ง คือ กลุ่มการเงิน, ICT, สื่อ และพาณิชย์
3.) ติดตามการประชุม Analyst meeting วันศุกร์ (THG) ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 44.8 บาท
ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งในกรอบ 1605 -1625 จุด หุ้นแนะนำ ADVANC
Top pick :
KKP (ราคาพื้นฐาน 89.0 บาท) หลังจากเงินเฟ้อไทย ล่าสุดปรับลงมาอยู่ในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของ ธปท. ทำให้แรงกดดันเรื่องดอกเบี้ยไทยไม่ต้องขึ้นแรงตามสหรัฐ จ เรามองบวกต่อกลุ่มธนาคารที่เน้นลูกค้ากลุ่มเช่าซื้อ เพราะคิดดอกเบี้ยแบบ fixed rate มองเป็นบวกต่อ KKP ด้วย ราคาหุ้นปรับฐานลงมาจาก 76 บาทลงมาที่ 66.25 บาท หรือลงราว 12.5% จน Valuation ถูก โดยล่าสุดมีปัจจัยบวกจากราคารถยนต์นั่งมือสองฟื้นตัว 18.8% MoM ในเดือน ม.ค. สูงสุดนับแต่เดือน มิ.ย. 2022
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อจีน เดือน ก.พ. คาด +0.6% MoM และ +2.3% YoY ดัชนีราคาผู้ผลิตของจีน (PPI) เดือน ก.พ. คาด -0.5% YoY ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด 200K และถ้อยแถลง Fed Barr
- วันศุกร์ ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งตลาดคาดว่า BOJ จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% ขณะที่ต้องจับตานโยบาย Yield Curve control ที่รอบก่อน BOJ ยังไม่ขยายกรอบการเคลื่อนไหวสำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่ +/- 0.5% โดยล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีญี่ปุ่นอยู่ที่ 0.53% ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยเดือน ก.พ. คาด 52 จุด (+0.6% MoM) ตัวเลข Non-farm payroll สหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +200K ตัวเลขอัตราการว่างงานสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด 3.4% ตัวเลข Average Hourly Earnings สหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +0.3% MoM และ +4.7% YoY