แม้จะเพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯได้ปีเศษ แต่ผลงานของบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ก็เรียกได้ว่า “ท็อปฟอร์ม” สุดๆ เพราะผลงานล่าสุดปี 2565 ทำรายได้แบบ All Time High กว่า 6,296 ล้านบาท เติบโต 65% พร้อมทั้งกวาดกำไรสุทธิสูงถึง 1,471 ล้านบาท เติบโต 144% โครงการทั้งแบรนด์บริทาเนีย และแกรนด์บริทาเนีย ขนไปเปิดทำเลไหน ก็กระแสตอบรับเยี่ยม
โตแกร่งน่าจับตาขนาดนี้ บิ๊กบอส “สุรินทร์ สหชาติโภคานันท์” ซีอีโอใหม่แต่มือเก๋า จึงออกมาประกาศข่าวดี ว่าที่ประชุมบอร์ดมีมติ เห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทประจำปี 2565 ในอัตรา 0.721 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 6.06% จากราคาปิดเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 66 ที่ราคา 11.90 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้นกว่า 614.87 ล้าน ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 3 พ.ค. 2566 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 8พ.ค. 2566 และกำหนดจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 22 พ.ค. 2566
แว่วว่า ปีนี้ยังเตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 22,500 ล้านบาท ผลงานแกร่ง ปันผลงาม อนาคตดีขนาดนี้ ไม่จับตาให้ดีๆ ได้ยังไง!!!
สำหรับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เป็นผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้คอนเซปต์ CRAFT a life you love ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก พัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ครอบคลุมผู้บริโภคทุกเซ็กเมนท์ ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ 1.เบลกราเวีย (Belgravia) บ้านเดี่ยวลักชัวรี ระดับราคา 20-50 ล้านบาท 2.แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับ High-End ราคา 8-20 ล้านบาท 3.บริทาเนีย (Britania) บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับ Mid-end ราคา 4-8 ล้านบาท และ 4.ไบรตัน (Brighton) บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับเริ่มต้น (Entry) ราคา 2.5-4 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2565 พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้น 30 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการสะสม 36,449 ล้านบาท