ASL ANALYSIS GUIDE
ประเมิน SET Index ยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,620 ได้มั่นคง มองว่าระยะสั้นอาจเห็นการพักตัวตามตลาดภูมิภาค แนะนำ Trading ในกรอบ 1,600/1,620
- ประเด็นการลงทุน
1. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก.พ. สูงสุดรอบ 3 ปี มาตรการรัฐ-ท่องเที่ยวหนุน
2. Update สถานการณ์กลุ่มโรงไฟฟ้า
3. ตลาดให้น้ำหนักกับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในคืนนี้
- วันนี้เคาะ HANA ราคาปัจจุบันสะท้อนปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว
MARKET STRATEGY
สรุปตลาดวานนี้
SETI ปิดที่ 1,614.22 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด (+0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 59,540.43 ล้านบาท รีบาวด์กลับขึ้นมาได้เล็กน้อย จากแรงซื้อหุ้นใหญ่ที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
Research Highlight: SETI Trading ในกรอบ 1600/1620 คาดปรับตัวลงตาภูมิภาค กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง
1. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.พ. สูงสุดรอบ 3 ปี มาตรการรัฐ-ท่องเทียวหนุน
- ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ.66 อยู่ที่ระดับ 52.6 เพิ่มขึ้นจากเดือนม.ค. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.7 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
- ได้ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 66 (ช็อปดีมีคืน, มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง), จํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเริ่มปรับตัวลดลง รวมถึงกำลังซื้อต่างจังหวัดสูงขึ้น
- แนวโน้มเศรษฐกิจมีสัญญาณฟื้นต่อเนื่อง จากยอดการขายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ยอดการใช้ไฟฟ้าและยอดการใช้สอยของครัวเรือน แต่ต้องติดตามภาพรวมการฟื้นตัวของกลุ่ม ท่องเที่ยวจะชดเชยการส่งออกที่ชะลอตัวได้หรือไม่
- ในเชิงกลยุทธ์เป็น sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มบัตรเครดิต, ค้าปลีก, อาหาร/เครื่องดื่ม เรา ชอบ KTC HMPRO BLOBAL CPALL M CBG
2. Update สถานการณ์กลุ่มโรงไฟฟ้า
- รมว.พลังงาน เปิดเผยแนวโน้มค่าไฟฟ้ารอบ พ.ศ.-ส.ค. 66 จะเหลืออัตราเดียวทั้งภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม จากเดิมที่ใช้ค่าไฟฟ้า 2 อัตรา คือค่าไฟสําหรับครัวเรือนอยู่ ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย และค่าไฟของภาคอุตสาหกรรม 5.33 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะปรับลดของภาคอุตสาหกรรมลงมา เนื่องจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าอย่างก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มลดลง มองเป็นบวกต่อภาพกำลังซื้อในประเทศที่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องปรับราคาสินค้า แนะนําทยอยสะสมกลุ่ม Domestic consumption
- ทั้งนี้ในเชิง sentiment ควรเป็นลบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า แต่ราคาหุ้นในกลุ่มกลับดีดตัวขึ้น เนื่องจากรับปัจจัยบวกจากบอร์ด กพช. มีมติเปิดรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ FiT ปี 65-73 อีก 3,668.5 MW (ไดัเปิดรอบแรกไปแล้ว 5,203 MW) โดยเป็น Solar farm เป็นหลักราว 2,632 MW ส่วนที่เหลือจะเป็น Wind farm และขยะอุตสาหกกรม ซึ่งทำให้หุ้นโรงไฟฟ้าที่มีพอร์ท Solar farm ในสัดส่วนที่สูงปรับตัวขึ้นเช่น GULF GPSC EA GUNKUL BGRIM
3. ตลาดให้นํ้าหนักกับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในคืนนี้
- ตลาดคาดการณ์ตัวเลข US Nonfarm Payrolls (ก.พ.) ลดลงเหลือ 205K ตำแหน่ง จากเดือนก่อนที่ 517K ตําแหน่ง (10 มี.ค.) รวมถึงตัวเลขค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง (ก.พ.) ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.7% จากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น 4.4% สะท้อนภาพเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังสูงอยู่
- ทั้งนี้เมื่อคืนมีรายงานตัวเลขจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ และสูงกว่าตลาดคาดเป็นปัจจัยหนุนความหวังที่ว่าเฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ช้อมูลจาก FedWatch Tool รายงานตลาดให้น้ำหนักที่ลดลงเหลือเพียง 60.94 ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบีย 0.5% สู่ระดับ 5.00-5.25% อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวลงแรง มองว่าได้รับปัจจัยลบจากกลุ่มธนาคารที่มีปัญหาด้านสภาพคล่อง
Investment Strategy
- SETI ยังไม่สามารถยืนเหนือ 1620 ได้มั่นคง มองว่าระยะสั้นอาจเห็นการพักตัวตามตลาดภูมิภาค แนะนํา Trading ในกรอบ 1600/1620
- แนะนํา Selective buy กลุ่มธนาคารที่ยัง Laggard ตลาด เช่น KBANK SCB KKP กลุ่ม Defensive SISB DMT BDMS BH ADVANC THCOM MASTER JMT กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า HANA KCE TU GFPT TKN ASIAN SAPPE กลุ่ม Anti-commodity SCGP SCC TASCO CBG EA
Fund Flow Rotation
- Overweight: BANK (KBANK SCB)
Upcoming Events
- US CPI Feb (14 Mar), US PPI Feb (15 Mar) US Retail sales Feb (15 Mar), ECB meeting (16 Mar), EU CPI Feb (17 Mar)
Global Markets
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงกว่า 500 จุดโดยตลาด ถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ดิ่งลงอย่างหนัก รวมทั้ง ความกังวลว่าข้อมูลแรงงานของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ อาจจะผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบนำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกมากขึ้น เกี่ยวกับแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยจะยังคงปรับตัวขึ้นเป็นเวลาอีกนาน
(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดวงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ กังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของเฟดจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
(+) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดบวก ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี
หุ้นเคาะไป คุยไป…HANA
- HANA รายงานงบปี 65 มีกำไรสุทธิ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 36%YoY จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเฉลี่ยลงกว่า 10% ด้านรายได้ขยายตัว 14%YoY มาอยู่ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท ตามการฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยหน่วยผลิต PCBA ทั้งในกัมพูชา จีน และไทยขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่หน่วยผลิต IC ปรับตัวขึ้นตามการรับรู้จากเกาหลีใต้เต็มปี อย่างไรก็ดี ด้าน GPM ลดลงเล็กน้อยราว 1% มาที่ระดับ 13% ตามต้นทุนค่า ขนส่งที่สูงขึ้น แต่ทั้งนี้ EBITDA margin ยังทรงตัวที่ระดับ 15%
- ในเชิงกลยุทธ์ HANA ปรับตัวลงต่ำสุด 15%MTD รับปัจจัยลบ จากแนวโน้มรายได้กลุ่ม IC ในงวด 1H66 จะหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึงกระแสข่าวที่ Testa จะลดการใช้ SiC ลง ทําให้มีการปรับเป้าการเติบโตที่ลดลงจากเดิมราว 10- 20% ขณะที่ภาพอุตสาหกรรม Semiconductor มียอดขายที่ลดลงตามอุปสงส์ที่อ่อนแอ นอกจากนี้ยังมีประเด็นการเพิ่มทุน แบบ GM ราว 80 ล้านหุ้น ที่คิดเป็น 10% ของทุนจดทะเบียน แต่ ทั้งนี้เรามองว่าตลาดรับรู้ข้อมูลปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว อีกทั้งในช่วงต้นเดือน ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วมาที่ระดับ 35 บาท/ดอลลลาร์ สรอ. และ US bond yield ที่คาดว่าไม่ปรับตัวขึ้นแรงกว่าแล้ว