KS Daily View 10.03.2023 >>> ติดตามสหรัฐขึ้นภาษีคนรายได้สูง คงมุมมองแนวรับสำคัญรอบนี้บริเวณ 1,585 จุด SET คาดแกว่งตัว 1,605 – 1,625 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ KKP, CPALL

สรุปตลาดหุ้นเมื่อวาน

ในประเทศ SET Index เมื่อวาน แกว่งตัวขึ้นครึ่งเช้า แต่ช่วงบ่ายแกว่งลง ปิดทรงตัว  1614.22 จุด (0.1%) หุ้นที่ปรับขึ้นเด่นคือ INTUCH +3.55%, GULF +1.98%,  EA+1.64%, ADVANC +1.5% ฯลฯ   ส่วนหุ้นที่ปรับลงแรงและกดดัชนีคือ  MINT -2.2%, PTT -1.6%, TRUE -1.2% ฯลฯ

ต่างประเทศ : ตลาดหุ้นสหรัฐ กลับมาพักฐานอีกครั้ง ดัชนี Dow Jones -1.66%, S&P500 -1.85%, ดัชนี Nasdaq 2.05% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ปรับลงทุก Sector  โดยกลุ่มที่ Underperform หรือปรับลงมากสุด คือ  Financials -4.1%, Materials -2.5%, Consumer Discretionary -2.4% ฯลฯ ส่วนกลุ่มที่ปรับลงน้อยกว่าค่าเฉลี่ยคือ  Utilities -0.84%,  Consumer Staples -0.95% ฯลฯ

ทิศทางตลาดหุ้นในประเทศวันนี้

คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้จะแกว่งตัวออกข้าง Wait&see รอติดตาม Key Highlight สำคัญคือ ช่วงเช้า คือ การประชุมธนาคารกลางของญี่ปุ่น(BOJ) ตลาดคาดว่า BOJ จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% ขณะที่ต้องจับตานโยบาย Yield Curve control ที่รอบก่อน BOJ ยังไม่ขยายกรอบการเคลื่อนไหวสำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่ +/- 0.5% โดยล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของญี่ปุ่นอยู่ที่ 0.53%   และช่วงมืดรอตัวเลขฝั่งสหรัฐ  Non-farm payroll ของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +200K ตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด 3.4%  ตัวเลข Average Hourly Earnings สหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +0.3% MoM และ +4.7% YoY   และระยถัดไปตลาดจะกลับมาให้น้ำหนัก  14 มี.ค. อัตราเงินเฟ้อ CPI(%) ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลง 5.9%YoY จาก 6.4% ในเดือนก่อนหน้า , 0.4%MoM  23 มี.ค.ประชุม Fed

โดยรวม  KS ประเมินว่า 1.) หากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐและภาคการจ้างงานสูงกว่าที่ตลาดประเมินลักษณะคล้ายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา คือ แกว่งตัวลง  เราประเมินว่ามี Fed จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย 50bps โดยประเมิน Downside ของ SET Index ที่ 1,585 จุด และคาดการณ์เงินบาทจะอ่อนค่าขึ้นต่อ คาดกรอบ 36.0 – 36.5 บาท   2.)ในทางตรงข้ามหากเงินเฟ้อสหรัฐและภาคการจ้างงานชะลอตัว คาดว่า SET มีโอกาสสูงที่จะปรับขึ้นในกรอบ 1,666 +/- พร้อมประเมินค่าเงินบาท 33.5-34.0 บาท  โดยรวมสรุปนับตั้งแต่วันนี้ KS ประเมิน ค่าเงิน Dollar และ Bond Yields จะแกว่งตัวและตลาดหุ้นประเมิน Technical rebound สั้นๆ  โดยประเมินตลาดหุ้นคาดจะเกิดการ Rotation  switch มาอยู่ในหุ้นกลุ่มโซนล่าง

กลุยุทธการลงทุนในช่วงที่ตลาดผันผวนระยะสั้น  แนะนำลงทุนในหุ้นที่อยู่โซนล่าง อาทิ BCP, KKP หุ้น Defensive อาทิ ADVANC

ประเด็นที่เป็นกระแสต่อการลงทุนในช่วงนี้

  • ประธานาธิบดี โจ ไบเดน สหรัฐวางแผนที่จะเสนอการปรับขึ้นภาษีครั้งใหญ่ คือ เก็บภาษีขั้นต่ำ 25% สำหรับผู้รายได้สูง และจะเพิ่มอัตราภาษีกำไรจากการขายหุ้นราว 2 เท่าจาก 20% เป็น 39.6%  เราแนะนำให้ติดตามต่อ  ประเมินเบื้องต้นมีโอกาสไม่เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลสหรัฐ ไม่ครองเสียงของสภาหรือครองอำนาจเบ็ดเสร็จ  โดย Democrat พรรคของคุณ ไบเดนครองสภาสูง แต่สภาล่างเป็นของ พรรค Republican อย่างไรก็ตามระยะสั้นผลต่อตลาดหุ้นประเมินกระทบจำกัด
  • กลุ่มโรงไฟฟ้า Renewable คาดมีกระแสบวกต่อ หลังจากเมื่อวาน  กพช. มีมติเปิดรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 65-73 สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าประเภทไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงเพิ่มเติม อีก 3,668.5 เมกะวัตต์ หลังจาก กกพ. ได้เปิดรอบแรกไปแล้ว จำนวน 5,203 เมกะวัตต์  ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อหุ้น GULF ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 54.5 บาท GUNKUL ราคาพื้นฐานอยู่ที่  4.65 บาท  SSP ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 12.2 บาท
  • กลุ่ม Domestic อาทิ กลุ่มค้าปลีก , กลุ่มสื่อ ในเชิงพื้นฐานยังมีโมเมนตัมเชิงบวกจาก 2.1)  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค(CCI)  เดือน ก.พ.อยู่ที่ 52.6 จุด  (+1.7%MoM)  ทำจุดสุงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 2020   2.2) ค่าไฟในประเทศมีโอกาสลดต่ำกว่า 5 บาทในรอบ เดือน พ.ค.-ส.ค.   ปัจจุบันกำลังทำประชาพิจารณ์ และกลับมาเสนอให้บอร์ด กกพ.พิจารณาอีกครั้งคาด  22 มี.ค. 2023   เราประเมินหุ้นที่เรามองบวก ตือ CPALL, DOHOME ,SABINA, PLANB
  • ติดตามการประชุม Analyst meeting  วันนี้คือ THG  ราคาพื้นฐานอยู่ที่  44.8 บาท

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งในกรอบ 1605 -1625 จุด หุ้นแนะนำ  KKP, CPALL

Top pick

KKP (ราคาพื้นฐาน 89.0 บาท) หลังจากเงินเฟ้อไทย ล่าสุดปรับลงมาอยู่ในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของ ธปท. ทำให้แรงกดดันเรื่องดอกเบี้ยไทยไม่ต้องขึ้นแรงตามสหรัฐ จ  เรามองบวกต่อกลุ่มธนาคารที่เน้นลูกค้ากลุ่มเช่าซื้อ เพราะคิดดอกเบี้ยแบบ fixed rate มองเป็นบวกต่อ KKP ด้วย ราคาหุ้นปรับฐานลงมาจาก 76 บาทลงมาที่ 67.5 บาท หรือลงราว 11.1% จน Valuation ถูก  คือ ลงมาเหลือ 0.9 เท่าBook Value และมีปัจจัยบวกโดยล่าสุดจากราคารถยนต์นั่งมือสองฟื้นตัว 18.8% MoM ในเดือน ม.ค. สูงสุดนับแต่เดือน มิ.ย. 2022

CPALL (ราคาพื้นฐาน 73.5 บาท) 1.)ประเมินมีปัจจัยหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI)  เดือน ก.พ.อยู่ที่ 52.6 จุด  (+1.7%MoM)  ทำจุดสุงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 2020 ที่ออกมาแข็งแกร่ง  2.) ลุ้นค่าไฟลดต่ำกว่า 5 บาทในรอบ เดือน พ.ค.-ส.ค. บวกต่อบริษัท 3.) โมเมนตัมเชิงบวกจะมีต่อไปในงวด 1Q23 จากจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศ อัตราการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในเชิง QTD ยังคงเป็นบวกที่ 5-8% CPALL เริ่มเห็นยอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลร่างกายเพิ่มขึ้น

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์ ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งตลาดคาดว่า BOJ จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% ขณะที่ต้องจับตานโยบาย Yield Curve control ที่รอบก่อน BOJ ยังไม่ขยายกรอบการเคลื่อนไหวสำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่ +/- 0.5% โดยล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีญี่ปุ่นอยู่ที่ 0.53% ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยเดือน ก.พ. คาด 52 จุด (+0.6% MoM) ตัวเลข Non-farm payroll สหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +200K ตัวเลขอัตราการว่างงานสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด 3.4% ตัวเลข Average Hourly Earnings สหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +0.3% MoM และ +4.7% YoY
- Advertisement -