Daily Focus: Domestic and Defensive Play
2023SET Target: 1750
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ปิดลบ 14.57 จุด ณ สิ้นวัน และหลุดต่ำกว่าระดับ 1,600 จุด จากความกังวล SVB Financial Group ในสหรัฐฯ ที่มีปัญหาสภาพคล่อง สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 399 ลบ.และ 3.8 พันลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติกลับมา Short Index Futures อีกเกือบ 1.4 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังมีแนวโน้มแกว่งตัวลงต่อเนื่อง หลังหลุดระดับ 1,600 จุด โดยมีฐานแนวรับถัดไปที่ 1,580 จุด ปัจจัยกดดันหลัก คือ ปัญหาภาคธนาคารของสหรัฐฯ หลังมี 3 ธนาคาร ได้แก่ SVB รวมถึง Silvergate และ Signature Bank ที่ต้องปิดกิจการ จากปัญหาด้านสภาพคล่อง เม็ดเงินไหลเข้าถือพันธบัตรหนาแน่น และทำให้ Bond Yield 2 ปี ของสหรฐฯ ปรับตัวลงแรงถึง 50 bps เหลือราว 4.5% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา แม้ FED และกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ จะคุ้มครองเงินฝากใน SVB และออกโครงการ Bank Term Funding Program ให้กู้ 1 ปี โดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันจะช่วยลดความกังวลเรื่องความเสี่ยงสภาพคล่องได้ แต่เรามองเป็นปัจจัยระยะสั้น ขณะที่โฟกัสของตลาดยังคงอยู่ที่แนวโน้มเงินเฟ้อและเศรษฐกิจ โดยจับตา CPI เดือน ก.พ. สหรัฐฯ คืนพรุ่งนี้ว่าจะชะลอตัวลงได้ตามคาดหรือไม่ ซึ่งจะส่งผลต่อการประชุม FED ในสัปดาห์หน้าว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.5% เราแนะนำนักลงทุนชะลอการลงทุน หลังให้สะสมหุ้นระดับแรกที่ 1,600 จุดแล้ว โดยต้องติดตามสถานการณ์ภาคการเงินสหรัฐฯ ว่าจะมีแนวโน้มรุนแรงและลุกลามหรือไม่ โดยจะประเมินระดับในการเข้าสะสมถัดไปอีกครั้ง เบื้องต้นมองต่ำลงมาในกรอบ 1,500-1,550 จุด ส่วนระยะสั้นเน้นพักเงินในหุ้น Domestic และ Defensive Play อย่างกลุ่มการแพทย์ สื่อสารฯ โรงไฟฟ้า
กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้น Domestic และ Defensive Play ที่กระทบจำกัดจากปัจจัยต่างประเทศ
หุ้นเด่นเดือน มี.ค. : ASW, BEYOND, CPN, M, NSL
หุ้นเด่นวันนี้ : CHG
- แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.40 บาท
- ผู้บริหารคาดรายได้ปี 2023 ที่ 8 พันลบ. สูงกว่าที่เราคาดที่ 7.3 พันลบ. หนุนจากรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ Fly-in โดยเฉพาะกลุ่มพม่า กัมพูชา และตะวันออกกลาง รวมถึงแรงหนุนจากโรงพยาบาลใหม่ทั้งที่แม่สอดและ Chularat Medical Center ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนจากศูนย์มะเร็งเดิม
- ธุรกิจโรงพยาบาลที่ Defensive คาดว่ายังแข็งแรงและถูกกระทบจากความผันผวนของตลาด และความเสี่ยงด้านเศรฐกิจโลกชะลอตัวที่ต่ำ นอกจากนี้ยังมี Catalyst บวกจากโอกาสที่ สปส.จะปรับเพิ่มการจ่ายเงินประกันสังคมในเร็วๆนี้
- แนวรับ 3.70-3.68 บาท แนวต้าน 3.90-4 บาท
Fund Flow : เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่นต่อเนื่องอีก US$1,289 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$826 ล้าน และ US$370 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกสูงสุดที่ไทย US$110 ล้าน แต่ไหลเข้าเวียดนามและอินโดนีเซียบางๆ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลออกจากความกังวลปัญหาภาคการเงินในสหรัฐฯ เม็ดเงินคาดยังไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอย่างพันธบัตรและสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคํา
ประเด็นสําคัญวันนี้
(0) การจ้างงานสหรัฐฯ สูงกว่าคาด แต่ค่าจ้างเริ่มเพิ่มชะลอ สําหรับเดือน ก.พ. การจ้าง งานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 3.11 แสนตำแหน่ง สูงกว่าคาดที่ 2.1 แสนตำแหน่ง แต่ชะลอจาก เดือน ม.ค. ที่ 5.17 แสนตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ค่าจ้างแรงงาน +0.2% m-m, +4.6% y-y ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวขึ้นเป็น 3.6% โดยรวมเริ่มเห็นสัญญาณอ่อนๆ ว่าเงินเฟ้อในอนาคตมีโอกาสที่จะชะลอตัวลงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นตอบรับเชิงลบจากประเด็น Silicon Valley Bank ปิดกิจกา รและสร้างความกังวลและความเชื่อมั่นต่อธนาคารขนาดกลางอื่นๆ ของสหรัฐฯ รวมถึงธุรกิจของ SVB ในต่างประเทศ และเป็นความเสี่ยงหากเกิดการลุกลาม
(0) กลุ่มธนาคาร ประเด็นปัญหาภาคธนาคารของสหรัฐฯ ทั้ง SVB Silvergate และ Signature Bank ที่ต้องปิดกิจการจากปัญหาสภาพคล่อง กดดัน Sentiment สำหรับกลุ่มการเงินทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เราประเมินผลประทบหรือความเสี่ยงสำหรับธนาคารไทยยังจำกัด ฐานเงินกองทุนของธนาคารโดยรวมแข็งแกร่งและเกินเกณฑ์ขั้นต่ำมาก เงินฝากส่วนใหญ่มาจากลูกค้าในประเทศ พอร์ตสินเชื่อกระจายตัว พอร์ตลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในตราสารหนี้คุณภาพในประเทศ และความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยของไทยที่จะพุ่งแรงมีน้อย เราแนะนำ Selective เลือกธนาคารที่มีระดับเงินทุนแข็งแกร่ง และมีสำรองหนี้สูงอย่าง BBL KTB TISCO
(+) KSL ประกาศกำไรปกติ 1QFY23 (พ.ย. 22 – ม.ค. 23) 554 ลบ. พลิกจากขาดทุนใน 4QFY22 และ +60% Y-Y การเติบโต q-q หนุนจากปริมาณขายน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศ และส่งออก ส่วน y-y ได้แรงหนุนจากราคาขายที่ปรับขึ้น ส่งผลให้ Gross Margin ปรับตัวขึ้นแรง แนวโน้มกำไร 2QFY23-3QFY23 คาดว่ายังเติบโตได้ต่อเนื่องจาก High Season เราคาดกำไรปกติปี FY2023 ที่ 1.57 พันลบ. +31% y-y ให้ราคาเป้าหมาย 4.90 บาท แนะนำ “เก็ง กำไร”
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 345.22 จุด หรือ -1.07% ปิดที่ 31,909.64 จุด จากความกังวัลเกี่ยวกับสภาวะของภาคธนาคารสหรัฐ หลังจากมีการสั่งปิดกิจกา ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัทเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป หลังจากประสบปัญหาด้านการเงิน
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ ถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มการเงิน ตาม Sentiment ของกลุ่มการเงิน หลังธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ของสหรัฐประสบปัญหาด้านการเงิน
(-) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ ตามทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐ
(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 34.65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.27% ปิดที่ 76.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 77.02 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.44%
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 32.60 ดอลลาร์ หรือ 1.78% ปิดที่ 1,867.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในภาคธนาคารของสหรัฐ ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 1,882.4 ดอลลาร์/ออนซ์ +0.81%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 901.42 / -1.73