EP ตั้งเป้ายื่นขอผลิตไฟฟ้าโครงการพลังงานหมุนเวียน 100 MW เผยผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคแล้ว 8 โครงการ 61.625 MW ลุ้นผลคัดเลือก 5 เม.ย นี้ มั่นใจฐานทุนแน่นปึ้ก พร้อมพัฒนาโครงการครบได้ตามกำหนด

 

บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป(EP) ตั้งเป้ายื่นขอผลิตไฟฟ้ารูปแบบพลังงานแสงอาทิตย์ในโครงการพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff  ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 รวม 100 เมกะวัตต์ ล่าสุดผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคขั้นต่ำครบ 8โครงการ ขนาดกำลังผลิต 61.625 เมกะวัตต์ รอลุ้นสรุปผลคัดเลือกในเดือนเมษายนนี้  ส่วนที่เหลือรอ กกพ.ประกาศรับซื้อเพิ่มเติม โดยพร้อมยื่นขอทันที ฟากบิ๊กบอส”ยุทธ ชินสุภัคกุล” ระบุมีความพร้อมทุกด้าน ทั้งประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการสร้างและบริหารโรงไฟฟ้า รวมทั้งแหล่งเงินทุน เตรียมรองรับไว้แล้ว มั่นใจดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน

นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายจะยื่นขอเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ในโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff  ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 ทั้งในส่วนที่ประกาศรับซื้ออยู่ และส่วนที่จะรับซื้อเพิ่มเติม ขนาดกำลังผลิตที่จะยื่นขอรวมทั้งสิ้น 100 เมกะวัตต์ โดยในรอบแรกสามารถผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติทางเทคนิคขั้นต่ำไปแล้วครบทั้ง 8 โครงการ มีขนาดกำลังผลิตรวม 61.625 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมีการประกาศผลคัดเลือกอย่างเป็นทางการภายในเดือนเมษายน 2566 ขณะที่ในส่วนการรับซื้อปริมาณเพิ่มเติม บริษัทฯ อยู่ระหว่างรอประกาศจากทางกกพ.เพื่อเปิดให้ยื่นขออีกครั้ง

ทั้งนี้ บริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่ได้รับการคัดเลือกและผ่านคุณสมบัติทางด้านเทคนิคขึ้นต่ำ ในการจำหน่ายพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ให้กับ กกพ. จำนวน 8 โครงการ กำลังการผลิตรวม 61.625 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น บริษัท เอ็ปโก้ กรีน พาวเวอร์ พลัส จำกัด 4 โครงการ และบริษัท อีเทอร์นิตี้ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) 4 โครงการ

“บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะสามารถผ่านการคัดเลือกในครั้งนี้ เนื่องจาก EP ถือเป็นบริษัทฯ  ที่มีความเชี่ยวชาญ และจากประสบการณ์ที่ผ่านมาก็สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายที่มีคุณภาพได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญกลุ่มบริษัทมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง โดยได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับการลงทุนดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะสามารถดำเนินงานตามแผนงานที่เสนอได้ทุกโครงการ” นายยุทธกล่าว

สำหรับแหล่งเงินทุนที่มีการเตรียมพร้อมรองรับการลงทุนดังกล่าว บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมเสนอขายหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 1,150 ล้านบาท อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.75% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้  โดยจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวันที่ 27-29 มีนาคม 2566  ผ่านผู้จัดการการจัดจาหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บล. เอเซีย พลัส และ บล.ดาโอ (ประเทศไทย)

- Advertisement -