บล.บัวหลวง:
System Integrators – ผ่านจุดสูงสุดในไตรมาส 4/65 และชะลอตัวในไตรมาส 1/66 (OVERWEIGHT)
ไตรมาส 4/65 เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2565 เราชอบ MFEC มากที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากบริษัทจะรายงานกำไรเติบโต YoY ในไตรมาส 1/66 และจะไม่เผชิญกับ dilution สําหรับปี 2566 เรายังคงชอบ MFEC มากที่สุดในกลุ่มเนื่องจากบริษัทจะเปลี่ยนจากโครงการตามสั่งเป็น managed services ซึ่งเป็นรายได้ประจํา
ไตรมาส 4/65 รายงานผลประกอบการสูงสุดของปี
หุ้นสามบริษัทที่เราให้คําแนะนําในกลุ่ม System Integrator รายงานกำไรสุทธิรวมที่ 280 ล้านบาท ในไตรมาส 4/65 ลดลง 19% YoY แต่เพิ่มขึ้น 14% QoQ กําไรหลักอยู่ที่ 395 ล้านบาท ลดลง 7% YoY แต่เพิ่มขึ้น 50% QoQ AIT เป็นผู้นำในไตรมาสนี้ โดยรายงานกําไรหลัก 244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% YoY และ 56% QoQ (การยกเลิกข้อจํากัดที่เกี่ยวข้องกับ COVID ส่งผลให้เข้าถึงไซต์โครงการได้ง่ายขึ้น) ITEL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 77 ล้านบาท ลดลง 18% YoY แต่เพิ่มขึ้น 43% QoQ รายได้บริการข้อมูลลดลง 9% YoY และ 9% QoQ แม้จะมีรายได้ประจํา เนื่องจาก ITEL เจรจากับ กสทช. เพื่อยุติสัญญา USO-1 ก่อนกําหนด และเก็บเงินทันที 1.6 พันล้านบาท คาดว่าจะมีการต่อสัญญาในเดือนพ.ค. 2566 รายได้จากธุรกิจบริการติดตั้งเพิ่มขึ้น 36% YoY (จากโครงการใหญ่ของ กฟผ.) และ 120% QoQ (ตามปัจจัยฤดูกาล)
กําไรหลักของ MFEC อยู่ที่ 74 ล้านบาท ลดลง 24% YoY แต่เพิ่มขึ้น 41% QoQ รายได้จากคลาวด์เพิ่มขึ้น 75% YoY และ 10% QoQ อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 16.2% ลดลงจาก 17.9% ในไตรมาส 4/64 และ 16.7% ในไตรมาส 3/65 เนื่องจากธุรกิจคลาวด์ที่ให้อัตรากําไรตาขยายตัว และการขาดแคลนชิป ส่งผลให้ธุรกิจ SI ชะลอตัวลง รายได้ธุรกิจ SIลดลง 42% YoY แต่เพิ่มขึ้น 56% QoQ
ไตรมาส 1/66 จะชะลอตัวตามปัจจัยฤดูกาล
เราคาด AIT จะรายงานกำไรหลักในไตรมาส 1/66 ที่ 138 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% YoY (อ่อนแอผิดปกติในไตรมาส 1/65) แต่ลดลง 43% (ตามปัจจัยฤดูกาล) สําหรับ MFEC เราคาดกำไรหลักที่ 62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY (จากธุรกิจคลาวด์และการขาดแคลนชิปที่ลดลง) แต่ลดลง 16% QoQ (ตามปัจจัยฤดูกาล) เราคาด ITEL จะรายงานกําไรหลักที่ 60 ล้านบาทในไตรมาส 1/66 เพิ่มขึ้น 11% YoY (การรวมงบการเงินเต็มไตรมาสของ Blue Solutions) แต่ลดลง 21% QoQ (ตามปัจจัยฤดูกาล)
MFEC จะเป็นผู้นำาการเติบโตในปี 2566
เราคาดกําไรหลักของ MFEC ในปี 2566 อยู่ที่ 318 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% YoY หนุนโดยสถานการณ์ชิปที่ทยอยคลี่คลาย หาก MFEC ไม่สามารถแทนที่รายได้จาก Vulcan Digital Delivery (VDD) ซึ่งจะขายให้กับ Bluebik Group Plc (BBIK) ในไตรมาส 1/66 อาจมีดาวน์ไชด์ต่อกําไรหลักในปี 2566 ที่ 7% โดยบริษัทจะได้รับเงินสด 641 ล้านบาทจากการขาย VDD ซึ่งลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเพียง 5% ก็ชดเชยผลตอบแทนจาก VDD ได้แล้ว การขาย VDD เป็นการเปลี่ยนไปสู่ผลิตภัณฑ์ low-code หรือ no-code ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลอย่างไร ดังนั้นประมาณการกำไรหลักในปี 2566 ของเราจึงไม่เปลี่ยนแปลง
เราคาดกำไรหลักของ ITEL ในปี 2566 ที่ 314 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% YoY หนุนโดยโครงการใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 3.6-3.8 พันล้านบาท (รายได้ประจำที่ 1.7 พันล้านบาท และธุรกิจบริการติดตั้งที่ 1.9 พันล้านบาท) และการเติบโตของกำไรสุทธิเป็นตัวเลขสองหลัก งานในมือ (ITEL รวมกับ Blue Solutions) คิดเป็น 57% ของประมาณการรายได้ของเรา สำหรับ AIT เราคาดกำไรหลักที่ 654 ล้านบาทในปี 2566 เพิ่มขึ้น 5% YoY ควบคู่ไปกับการฟื้นตัวหลังโควิด ผู้บริหาร AIT ยังคงตั้งเป้ารายได้ปี 2566 ที่ 7 พันล้านบาท งานในมือ (และโครงการที่รอคำสั่งซื้อ) คิดเป็น 44-47% ของประมาณการรายได้ของเรา