Our View? “Panic Station”
คาดตลาดวันนี้ “ผันผวน” มองแนวรับที่บริเวณ 1,565 / 1,555 และแนวต้านที่บริเวณ 1,585 /1,600 คาดตลาดจะยังคงเผชิญความกังวลระยะสั้นเกี่ยวกับเสถียรภาพระบบการเงินสหรัฐ ที่ยังมีความเปราะบางในระดับสูง หลังจากการล้มละลายของ Silicon Valley Bank (SVB) โดยตลาดยังมีความกังวลในการที่จะเกิดการลุกลามไปยังธนาคารพาณิชย์อื่นๆ อาทิ First Republic Bank (FRB) แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะประกาศจัดตั้งโครงการ Bank Term Funding Program เพื่อเปิดทางให้ภาครัฐส่งเงินสนับสนุนด้านการฝากเงินได้มากขึ้น โดยเสนอเงินกู้อายุ 1 ปีให้กับสถาบันทางการเงินประเภทต่างๆ โดยต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน อาทิ พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ หรือตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) รวมทั้งสั่งคุ้มครองเงินฝากทั้งหมดของผู้ฝากเงินใน SVB และ Signature Bank ซึ่งปกติแล้วจะคุ้มครองไม่เกิน 2.5 แสนดอลลาร์/บัญชี โดยเรามองว่า FED และกระทรวงการคลังสหรัฐออกมาตรการได้ค่อนข้างไวมาก ซึ่งเรามองว่าเพียงพอที่จะช่วยไม่ให้ปัญหาดังกล่าวลุกลามไปสู่ทั้งระบบธนาคารของสหรัฐ อีกทั้งปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเชิงสภาพคล่องจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่เร็วเกินไปส่งผลให้บางธนาคารมีผลขาดทุนจากการขายพันธบัตร จากการที่ราคาพันธบัตรปรับลดลง เพราะดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นเร็ว ขณะที่หากปล่อยให้หมดอายุมูลค่าจะกลับมาตามเดิม ซึ่ง FED ก็โครงการ Bank Term Funding Program ที่ค่อนข้างตรงจุดเข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งปัญหาดังกล่าวไม่ได้เป็นที่คุณภาพสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเช่นเดียวกับในช่วงวิกฤตการณ์เงินปี 2008 ของสหรัฐ ทำให้เรามองว่าการผันผวนของราคาสินทรัพย์เสี่ยงในระยะนี้ส่วนใหญ่มาจากการ Panic ระยะสั้นของตลาดมากกว่า ขณะที่เรามองว่าปัญหาดังกล่าวกลับจะส่งผลให้ FED อาจเริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ยหรือปรับอัตราดอกเบี้ยลงเร็วกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ในระยะถัดไป โดยล่าสุดดัชนี VIX Index ยังคงปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อยู่ที่ระดับ 30.8+/- สะท้อนตลาดยังคงมีความผันผวนในระดับสูง ขณะที่ดัชนี Fear & Greed Index ทำจุดต่ำสุดใหม่อยู่ที่ระดับ 20 ซึ่งเป็นระดับ Extreme Fear สะท้อนว่าตลาดมีความกังวลมากไปในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี คืนนี้เราคาดตลาดจะให้น้ำหนักต่อการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพื่อประเมินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED อีกครั้ง คาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ 6.00% YoY และ 0.40% MoM ถือว่าชะลอตัวลงต่อเนื่อง เป็นเครื่องสะท้อนเงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดต่ำสุดไปในระยะเวลาหนึ่งแล้ว หนุน FED ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย โดยล่าสุด CME FED Watch Tools บ่งชี้ตลาดคาดการณ์ FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเพียง 0.25% ในเดือน มี.ค. ที่โอกาส 70.0%+/- จากก่อนหน้าคาดที่ 0.50% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ระดับเพียง 5.00- 5.25% ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค. จากก่อนหน้าที่ระดับ 5.50-5.75% และจะเริ่มกดอัตราดอกเบี้ยลงตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย. คาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงในระยะกลาง
สําหรับปัจจัยในประเทศ เรายังคงต้องติดตามแรงขายของนักลงทุนต่างชาติอย่างใกล้ชิด คาดยังส่งผลให้ตลาดได้รับแรงกดดันได้อยู่ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรามองปัญหาดังกล่าวคาดจะไม่ลุกลามมาสู่ระบบธนาคารของไทยจากการชี้แจงของ ธปท. ว่าไทยไม่มีธนาคารที่ทำธุรกรรมโดยตรงกับ SVB และปริมาณธุรกรรมของธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีธุรกรรมใน Fintech และ Startup ค่อนข้างน้อย ทั้งนี้เรามองว่าโครงสร้างทางการเงินของธนาคารฯไทย ค่อนข้างแตกต่างจาก SVB และ Signature Bank ค่อนข้างมาก มองจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธนาคารฯ ในประเทศไทย ขณะที่หุ้นในกลุ่มธนาคารฯ (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB) ที่โดนขายออกมามากในช่วงวันก่อน คาดมาจากแรง Panic ของตลาดมองเป็นโอกาสในการเข้าสะสมเมื่อปรับตัวลงสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ สําหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อนหรือสะสมหุ้นในกลุ่ม Defensive อาทิ หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC, BGRIM และ GULF)
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “GPSC”
กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 64.50 / 64.00 Target 68.50 / 70.00 Stop <64.00