แมลงสาบไม่ได้มีตัวเดียว / 1,560-1,580

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • คาด SET แกว่งตัวทางลง: ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันทางลบจากฝั่งสหรัฐฯ บนความกังวลว่าการล้มละลายของ Silicon Valley Bank (SVB) จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบธนาคารสหรัฐฯ แม้ก.การคลังสหรัฐฯและเฟดจะพร้อมใจกันออกมาตรการกู้วิกฤตเมื่อวานนี้ รวมถึงใบเดนได้กล่าวย้ำว่าชาวอเมริกันสามารถมีความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคาร หลังจากที่ทางการสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้วก็ตาม ส่งผลให้นลท.ยังคงวิ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยสะท้อนจากราคาทองพุ่งทะลุ $1900 และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 2 ปีลงไปทำ low ต่ำกว่า 4% ขณะเดียวกันได้กดลุ้นราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 2.45% สู่ระดับ $74.80 ต่อบาร์เรล คาดเป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในวันนี้ นอกจากนี้ ตลาดเริ่มมีมุมมองที่แตกต่างกันสำหรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนมี.ค. โดยโกลด์แมนแซคส์คาดเฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ด้านอดีตขุนคลังสหรัฐฯ มองเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพื่อคุมเงินเฟ้อ ทั้งนี้ CME FedWatch Tool ให้น้ำหนัก 35% และ 65% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยและปรับขึ้น 0.25% ตามลำดับ อย่างไรก็ดี รอติดตามรายงาน CPI เดือนก.พ.ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ (ตลาดคาดขยายตัว 6.0% y-y และ 0.4% m-m ชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.ที่ขยายตัว 6.4% y-y และ 0.5% m-m) เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้ง หลังเฟดได้เริ่มเข้าสู่ช่วง Blackout Period
  • กลยุทธ์ลงทุน: 1) Defensive+Dividend: AP, BDMS, BGRIM, BRI, GPSC, VIBHA 2) ย้ายฐานการผลิต: AMÀTA, WHA และ 3) Spending+ท่องเที่ยว: BJC, CENTEL, CPALL, ERW, GLOBAL, HMPRO, ICHI, MAJOR

ปัจจัยบวก

  • โกลด์แมนแซคส์คาดเฟดอาจไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. โดยพิจารณาถึงความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังจากการประชุมดังกล่าว ซึ่งรวมถึงแรงกดดันที่เกิดขึ้นในระบบธนาคารของสหรัฐฯ จากการล้มละลายของ SVB
  • สถานทูตจีนในสหรัฐฯ เผยว่ากำลังเตรียมจะกลับมาออกวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติอื่นๆ อีกครั้ง
  • ก.พลังงานเผยแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ภายใต้ PDP2018 โดยมีปริมาณรับชื้อไฟฟ้าจาก พลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม รวม 3,668.5 มกะวัตต์
  • ธปท.เผยผลกระทบ SVB ต่อระบบการเงินไทยมีจํากัด เนื่องจาก ไม่มีร.พาณิชย์ไทยที่มีธุรกรรมโดยตรงกับ SVB และปริมาณธุรกรรมโดยรวมของกลุ่มธ.พาณิชย์ไทยใน Fintech และ Startup ทั่วโลกมีน้อยกว่า 1% ของเงินกองทุนของกลุ่มร.พาณิชย์

ปัจจัยลบ

  • หุ้นธนาคาร First Republic Bank ทรุดตัวลง 61.83% เนื่องจากความกังวลว่าการล่มสลายของ SVB จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบธนาคาร โดยลุกลามไปยังธนาคารประจําภูมิภาคของสหรัฐฯ
  • ลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีต รมต.คลังสหรัฐฯ ยังคงให้ความสําคัญกับการเอาชนะอัตราเงินเฟ้อ และมองว่าการขึ้น ดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเฟดที่จะถึงนี้สมเหตุสมผล
  • จีนกล่าวตอบโต้สหรัฐฯ ที่ได้ขยายการเข้าถึงทางการทหารในฟิลิปปินส์ โดยระบุว่าทางสหรัฐฯ กำลังพยายามปิดล้อมและควบคุมงิน และสร้างความแตกแยกให้กับจีนและฟิลิปปินส
  • กองทัพไต้หวันเผยว่าการใช้จ่ายด้านกลาโหมของไต้หวันในปีนี้ จะมุ่งเน้นที่การเตรียมพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อเตรียมรับมือการปิดล้อมเต็มรูปแบบจากจีน

PICKS OF THE DAY

AMATA BUY

  • เป้าหมาย 22.00/22.50 แนวรับ 20.80/21.20
  • ย้ายฐาน และศก.ฟื้น หนุนอุปสงค์สาธารณูปโภคในนิคม: แรงหนุนจากความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์หนุนย้ายฐาน นอกจากนี้ ยอดขายที่ดินในนิคมที่มากขึ้น บวกกับเศรษฐกิจที่ฟื้น หลายบริษัทในนิคมทั้งไทยและเวียดนาม ต้องเร่งกำลังการผลิต ยิ่งสนับสนุนอุปสงค์สาธารณูปโภคในนิคม จึงทำให้บริษัทพยายามหาทางสนับสนุนเพิ่ม เช่น บริษัทร่วม Amata B.Grim Vietnam เข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Lotuscom เป็นต้น
  • ผู้บริหารตั้งเป้าโอนที่ดิน 60% ของ Backlog: จากปี 65 จะขายได้ราว 35-36% ของ Backlog ซึ่งปัจจุบันบริษัทมี Backlog ราว 6.6 พันล้านบาท หากทำได้ 60% ตามเป้า จะทำให้บริษัทสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่

BGRIM BUY

  • เป้าหมาย 39.00/40.50 แนวรับ 37.00/37.75
  • คาด 1Q66 พลิกกลับมากำไร: ทางฝ่าย 1Q66 BGRIM จะสามารถพลิกกลับมากำไรได้ เนื่องจากการปรับขึ้นค่า Ft สำหรับงวด ม.ค.-เม.ย. 2566 มาอยู่ที่ 154.92 สตางค์ ประกอบกับแนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติที่มีความผ่อนคลายมากขึ้น และไม่มีรายการพิเศษ
  • รับรู้กำลังการเพิ่มอีก 280 MW ในปี 2566: BGRIM มีแผนในการ COD โครงการ BGPAT2 และ BGPAT3 ในปี 2566 กำลังการผลิตรวม 280 MW นอกจากนี้การที่ กพช. รับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมอีก 3,668 MW ทำให้คาดว่าจะเป็น upside ต่อกำลังการผลิตเนื่องจากสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตของ BGRIM
- Advertisement -