MARKET STRATEGY
สรุปตลาดวานนี้
SETI ปิดที่ 1,554.65 จุด ลดลง 10.35 จุด (-0.66%) มูลค่าการซื้อขาย 69,665.73 ล้านบาท ผันผวนตามตลาดต่างประเทศที่รับผลกระทบจากปัญหาการเงินของธนาคารเครดิตสวิส
Research Highlight: ตลาดสะท้อนความเสี่ยงไปหมดแล้ว ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1560- 66
1. ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด 0.5 % สู่ระดับ 3.50%
- ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 3.50% เป็นไปตามที่ ECB ได้ระบุไว้ในการประชุมครั้งที่แล้ว และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 6 ติดต่อกัน
- ปธ. ECB ส่งสัญญาณ ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อกดดันให้เงินเฟ้อปรับตัวลงสู่เป้าหมาย 2% ของ ECB ขณะที่เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 8.5% ในเดือน ก.พ. ทั้งนี้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อเฉลี่ยปีนี้ลงจาก 5.3% สู่ระดับ 4.6% และปรับเพิ่ม GDP บึ้มจาก +1% เป็น +1.6%
2. สิ้นสุดนายกฯ ลงพื้นที่ต่างจังหวัด ลุ้นยุบสภาสัปดาห์หน้า
- ล่าสุด กกต. ประกาศแบ่งเขตการเลือกตั้ง 400 เขตเรียบร้อยแล้ว แต่มีบางพรรคการเมืองไม่เห็นด้วยเนื่องจากมีการซ้อนทับหลายพื้นที่ ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการยุบสภาช่วงวันที่ 20-21 มี.ค. ซึ่งทางปธ.สภาได้เตรียมร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภารอแล้ว ขณะที่การประชุม ครม. ยังคงมีอยู่อย่างปกติ
- ในเชิงกลยุทธ์ พบว่าสถิติย้อนหลัง 1 เดือนก่อนเลือกตั้งให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.1% มองเป็นจุด turning point ของตลาดหุ้นไทย หากมีการประกาศยุบสภา
Investment Strategy
- SETI ปรับตัวลงแรงกว่า 100 จุด MTD มองว่าสะท้อนปัจจัยลบด้านวิกฤตภาคธนาคารไปพอสมควรแล้ว และเราเชื่อว่าที่ระดับ 1518.66 จะเป็นจุดต่ำสุด หากไม่มีปัจจัยลบจากเสถียรภาพของภาคธนาคารมากระทบ รวมถึงแนวโน้มที่ธนาคารกลางหลายแห่งพยายามช่วยเหลือธนาคารที่มีปัญหา ทำให้ภาพกระทบต่อระบบเศรษฐกิจลดลง แต่เป็น sentiment เชิงลบระยะสั้นต่อตลาดหุ้น ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังแข็งแกร่ง เรามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมระยะกลาง-ยาว โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารไทย เราชอบ SCB KBANK
- คาดแกว่งตัว sideway เน้นยืนแนวรับ 1550/1538 ไม่ควรต่ำกว่า แนวต้านทดสอบ 1560/1566 ผ่านยืนจะเริ่มเห็นสัญญาณกลับตัวขึ้น
- Selective buy กลุ่ม Defensive SISB DMT BDMS BH ADVANC THCOM MASTER JMT
Core Portfolio
- EA CPN AOT AAV KFENS50-A KFACHINA-A และ AFMOAT-HA
Global Markets
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกกว่า 300 จุดด เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาค ธนาคาร หลังจากธนาคารรายใหญ่ในวอลล์สตรีท ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และโกลด์แมน แซคส์ ประกาศอัดฉีดเงินรวมกันมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (First Republic Bank) หรือ FRB ซึ่งเป็นธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐ
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกจากการที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ให้ความช่วยเหลือแก่เครดิต สวิสนั้น ได้ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตธนาคาร และได้บดบังความวิตกเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50%
(+) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดบวกจาก มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียได้พบปะกันเพื่อหารือแนวทางในการสร้างเสถียรภาพตลาดน้ำมัน
(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดลบ หลังจากวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารส่งสัญญาณคลื่คลายลง ซึ่งทําให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
หุ้นเคาะไป คุยไป..CPN
- CPN ตั้งเป้ารายได้ปี 66 ขยายตัว 20% จากการขยายตัวของทุกธุรกิจ โดยกลุ่มศูนย์การค้าจะเปิดตัว Central Westville งบลงทุนราว 6.2 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดในช่วง 4Q66 ย่านราชพฤกษ์ ซึ่งขณะนี้ Occupancy ร้านค้าเกือบเต็ม 100% ทั้งนี้ในปี 67 ตั้งเป้าจะเปิด Central Nakhon Sawan (งบลงทุน 5.8 พันล้านบาท คาดเปิด 1067), Central Nakhon Pathom (งบลงทุน 8.2 พันล้านบาท คาดเปิด 2067) ซึ่งเป็นโครงการ mixed used ขนาดใหญ่ และ Central Krabi (งบลงทุน 4.5 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิด 4067) ทั้งนี้ทิศทางของการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวขึ้น และส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง จะช่วยหนุนผลประกอบการในปีนี้
- สําหรับการพัฒนาโครงการ Mega project Mixed-Used ของ CPN ใน 5-10 ปีนี้ มี ทั้งสิ้น 5 โครงการ เริ่มจากโครงการแรก Dusit Central Park จะทยอยเปิดตัวในปี 67-68 ส่วนอีก 4 โครงการจะอยู่บนพื้นที่สถานทูตอังกฤษ เป็นการร่วมทุนกับฮ่องกง แลนด์, ที่ดินพระราม 9 ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดจ๊อดแฟร์ 23 ไร่, ที่ดินพหลโยธิน 24 ใกล้กับเซ็นทรัล ลาดพร้าว และอีกทำเลยังอยู่ระหว่างการพิจารณา มูลค่าการลงทุนรวม 2 หมื่นล้านบาท พื้นที่รวม 3.5 แสน ตร.ม. ปัจจุบัน CPN มีพื้นที่เช่าศูนย์การค้ารวมกว่า 2.3 ล้านตารางเมตร และมีอัตราการ เช่ามากกว่า 90% ส่วนการเติบโตของรายได้ในช่วง 5 ปีนี้ (ปี 66-70) วางเป้ารายได้ เติบโตเฉลี่ย 12-13% ต่อปี
- ด้านธุรกิจที่อยู่อาศัย ยังคงใช้กลยุทธ์โลเคชั่นใกล้ศูนย์การค้า โดยแผนปี 66 เตรียม เปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 9 พันล้านบาท ได้แก่ คอนโดมิเนียม 3 โครงการ คือ ESCENT เพชรบุรี, บุรีรัมย์ และนครศรีธรรมราช และ แนวราบ 4 โครงการ คือ บ้านนิรติ นครศรีธรรมราช และแบรนด์ใหม่ บ้านนิรดา พระราม 2, อุทยาน และเอกชัย ส่วนธุรกิจอคารสํานักงาน มีโครงการ Central Park Offices ภายในโครงการ Dusit Central Park เป็น World Class Professional Hub ส่วนกลุ่มโรงแรมปีนี้ จะเปิดครบทุก 3 แบรนด์ รวมทั้งสิ้น 10 แห่ง 1,600 ห้อง