บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Diamond Building Products (DRT TB) กําไรปี 2565 ทําสถิติ แนวโน้มปี 2566 คาดจะทรงตัว
หุ้นปันผลตอบแทนดี คงแนะนำ ถือ รับปันผล
กำไรสุทธิ 4Q65 จะเติบโตได้ดี 117 ล้านบาท (+27%YoY) รวมปี 2565 มีกำไร 626 ล้านบาท เติบโต 7% ทำสถิติสูงสุดใหม่ ปี 2566 เราคาดยอดขายจะเติบโตได้ 5% เท่ากับประมาณการของผู้บริหาร แต่ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง ทำให้กำไรจะทรงตัวที่ 625 ล้านบาท DRT เป็นหุ้นจ่ายปันผลดีประมาณ 67% ของกำไร มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 6.4% เราประเมินราคาเป้าหมายปี 2566 เท่ากับ 8.50 บาท บนฐานค่าเฉลี่ย PE-0.5SD เท่ากับ 11.7เท่า คงแนะนํา ถือ
กำไร 4Q65 เติบโตดี รวมปี 2565 ทำสถิติ
DRT มีกำไร 4Q65 ที่เติบโตจากปีก่อน 117 ล้านบาท (-10%QoQ, +27%YoY) จากยอดขายที่เติบโต 1,248 ล้านบาท (+1%QoQ, +12%YoY) แรงหนุนจากลูกค้าโครงการที่โตสูงสองหลัก ส่วนลูกค้าเอเย่นต์และโมเดิร์นเทรดเติบโตหลักเดียว ในขณะที่ส่งออกลดลง ด้านอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 23.5% จาก 25.7% ในไตรมาสก่อน แต่ใกล้เคียงปีก่อน ถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมปี 2565 ยอดขาย 5,232 ล้านบาท เติบโต 9% มากกว่าเป้าหมายจะเติบโต 5% และมีกำไร 626 ล้านบาท เติบโต 7% โดยทั้งยอดขายและกำไรสามารถทำ สถิติสูงสุดใหม่
ปี 2566 ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายจะโตมากกว่า 5%
แนวโน้มปี 2566 ผู้บริหารตั้งเป้าหมายยอดขายจะเติบโตมากกว่า 5% แรงหนุนจากภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างที่คาดจะได้ปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมและก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น แต่ปีนี้จะถูกกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น คือ เยื่อกระดาษ ใยหิน และปูนซีเมนต์ รวมถึงต้นทุน พลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ปีนี้คาดจะไม่ปรับราคาขายขึ้น ทำให้ผู้บริหารได้ปรับลดเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นลงเหลือ 25-27% จากเป้าหมายระยะยาว 27-29%
คาดปี 2566 กำไรจะทรงตัว
ปี 2566 เราคาดยอดขาย 5,494 ล้านบาท เติบโต 5% สอดคล้องกับประมาณการของผู้บริหาร ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบที่สำคัญ คือ ปูนซีเมนต์สัดส่วน 14% เยื่อกระดาษสัดส่วน 8% ใยหินสัดส่วน 11% รวมถึงต้นทุนพลังงานสัดส่วน 8% ราคาปรับตัวสูงขึ้นและยังสูง จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2566 ลดลงเหลือ 26.4% จากปีก่อน 26.8% ซึ่งอยู่ในกรอบของผู้บริหารได้คาดการณ์ไว้ 25-27% ซึ่งจะทำให้กำไรปี 2566 เท่ากับ 625 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน