สรุปภาวะตลาด
วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกสลับลบ แต่มีแรงขายเร่งตัวในช่วงบ่ายตามทิศทางตลาด Dow jones Futures แรงขายมาจากหุ้นกลุ่มธนาคาร อิเล็กทรอนิกส์ และพลังงาน โดยนักลงทุนติดตามเฟด ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางสัปดาห์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,555.45 จุด -8.22 จุด -0.53% มูลค่าการซื้อขาย 62,838 ลบ. ต่างชาติ -3,480.83 ลบ. TFEX -8,775 สัญญา ตราสารหน้ี -6,192.67 ลบ.
ปัจจัยบวก+
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด พุ่งขึ้น 382.60 จุด หรือ +1.20% ขานรับข่าวธนาคารยูบีเอสบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการ เครดิต สวิส รวมทั้งรายงานที่ว่าเฟดร่วมมือกับธนาคารกลางอีกหลายประเทศ เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องในระบบการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ + 1.4% ปิด ที่ 67.64 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากการดีดตัวขึ้นอย่าง แข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน หลังจากราคาดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนใน ระหว่างวัน
+ เจ้าหน้าที่สหรัฐกำลังศึกษาแนวทางที่จะขยายความคุ้มครองของบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ให้ครอบคลุมเงินฝากทั้งหมดเป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นการผลักดันของกลุ่มธนาคารที่ระบุว่า จําเป็นต่อการสกัดกั้นแนวโน้มการเกิดวิกฤตการเงิน
+ บีโอไออนุมัติส่งเสริมการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ รวมมูลค่า 56,615 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง โครงสร้างพื้นฐานในด้านพลังงานของประเทศ
+ โปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกา ยุบสภาแล้ว จัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 45-60 วัน
ปัจจัยลบ-
– โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบเบรนท์จะอยู่ที่ระดับ 94 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วง 12 เดือน ข้างหน้า จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 100 ดอลลาร์/ บาร์เรล และคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 97 ดอลลาร์/บาร์เรล ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567
– ทีมนักกฎหมายจากสวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐ และสหราชอาณาจักร กำลังเจรจากับผู้ถือตราสารทางการเงินที่นับเป็นกองทุนสำรองส่วนเพิ่มชั้นที่ 1 (Additional Tier 1 หรือ AT1) ของเครดิต สวิส เพื่อดำเนินคดี เนื่องจากมีแนวโน้มว่าพวกเขาจะไม่ได้รับสิทธิเรียกร้องเงินชดเชยในข้อตกลงที่ UBS เข้าซื้อกิจการของ เครดิต สวิส
– รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คาดปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ปี 2566 ช่วงหน้าร้อนนี้จะพุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี หรือสูงกว่า 30,936 เมกะวัตต์ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ยืนยันไทยมีปริมาณไฟฟ้าสำรอง 30% เพียงพอรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันนี้มีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากรายงานว่าเฟดร่วมมือกับ ธนาคารกลางอีกหลายประเทศ เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องในระบบการเงิน ขณะที่นักลงทุนการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 21-22 มี.ค. มองกรอบดัชนีในวันน้ีที่ 1,550-1,570 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- จีนเปิดประเทศ+เราเท่ียวด้วยกันเฟส 5 : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
- หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
- หุ้นเช่ือมโยงการเมือง : TKS SIRI PR9 SC STEC STPI
- BOI ส่งเสริมการลงทุนช้ินส่วน EV : EA GPSC BCP DELTA PIMO FPI
- หุ้นปันผลดี : ADVANC TISCO SCB PT SMIT
หุ้นรายงานพิเศษ
EGCO (Bloomberg Consensus 217) รายงานขาดทุน 4Q65 เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้อยค่า และส่วนแบ่งขาดทุนจากโครงการระหว่างก่อสร้าง
- รายงานขาดทุน 4Q65 ที่ 236 ลบ. -33%QoQ และ 128%YoY เนื่องจากมีบันทึกส่วนแบ่งขาดทุนโครงการระหว่างก่อสร้าง และขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์รวม 9,693 ลบ. จากโครงการหยุนหลินก่อสร้างล่าช้าราว 2 ปี อย่างไรก็ตาม รายได้ 4Q65 อยู่ที่ 18.6 หมื่นลบ +3%QoQ และ +43% YoY แต่อัตรากำไรปรับตัวลงเนื่องจากต้นทุนถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวขึ้นเป็นปัจจัยกดดัน ทั้งนี้ บริษัทรายงานกำไรปี 65 ที่ 1.18 หมื่นลบ. +15%YoY
- ผบห. มุ่งเน้นลดการปล่อยก๊าซ CO2 โดยมีแผนนำก๊าซไฮโดรเจนและแอมโมเนียมาเป็นเชื้อเพลิง โดยก๊าซไฮโดรเจนจะมาผสมกับก๊าซธรรมชาติ และแอมโมเนียเหลวจะมาผสมกับถ่านหิน เพื่อลดการปล่อยก๊าซ CO2 โดยในระยะยาวจะไม่ลงทุนใหม่ในโรงไฟฟ้าถ่านหิน เนื่องจากถือเป็นพลังงานที่ปล่อยก๊าซ CO2 ในระดับสูง ขณะที่ความคืบหน้าโครงการกังหันลม หยุนหลิน ที่ล่าช้าตั้งเป้าปี 2567 จะติดตั้งครบ 80 ต้น ด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้าราว 640 MW
- ความเห็น เรามีมุมมอง Neutral ต่อผลประกอบการปี 66 เนื่องจากคาดว่าต้นทุนเชื้อเพลิงทั้งก๊าซธรรมชาติและ ถ่านหินจะค่อยๆ ปรับตัวลง แต่ในปีนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือนในปี 65 ที่ผ่านมา ขณะที่บริษัทมีการจ่ายปันผล สม่ำเสอมที่ 6.5 บาท หรือคิดเป็น 4% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 ปี เราจึงแนะนำเพียง “ถือ”
หุ้นมีข่าว
(+) GULF (Bloomberg consensus 58.00 บาท) คว้าแล้ว PPA ไฟฟ้าพลังน้ำ Pak Lay ในลาว ขนาด 770 เมกะวัตต์ ระยะเวลา 29 ปี กำหนดจ่ายไฟ 1 ม.ค. 75 โกยรายได้เพิ่มปีละ 9 พันล้านบาท กำไรปีละ 3 พันล้านบาท ตามแผนเพิ่มพอร์ตพลังงานหมุนเวียน ชี้เป็นจุดเริ่มต้นพลังงานน้ำในสปป.ลาว (ที่มา ทันหุ้น)
(+) CHASE (Bloomberg consensus 3.74 บาท) แย้มไตรมาส 1/2566 คว้าหนี้ใหม่จากสถาบันการเงินเติมพอร์ต 15-20% เดินหน้าร่วมประมูลรับซื้อหนี้ด้อยมูลค่าใหม่เติมพอร์ตเพิ่มอีก 2-3 แห่ง จับตาหน้ีใหม่เติมพอร์ตพีคสุดในไตรมาส 2-3/2566 นี้ วางงบ 1 พันล้านบาท ซื้อหนี้ วางเป้ารายได้ปี 2566 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน และผลขาดทุนด้านเครดิตกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ แถมเดินหน้าเจรจาซื้อกิจการเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)
(+) JR (Bloomberg consensus – บาท) ส่งซิกโค้งแรกมีเซอร์ไพร์ส โครงการเรียงเคียวบุ๊กเพียบ บิ๊ก “จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ” จัดทัพชิงงานเพิ่มราว 2 พันล้านบาท อัพงานในมือจากเดิมกว่า 1 หมื่นล้านบาท กินยาวไปอีก 5 ปี แถมลุยปั้นสถานีชาร์จอีวียักษ์ หนุนธุรกิจทะยานเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)
(+) WINMED (Bloomberg consensus – บาท) บุกตลาด B2C ผ่านช่องทางขายออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมเร่งขยายเพิ่มหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ และทยอยออกผลิตภัณฑ์กลุ่มการแพทย์ใหม่ๆ ต่อเนื่อง ฟากผู้บริหาร “นันทิยะ ดารกานนท์” วางเป้ารายได้ปีนี้โต 30% ออลไทม์ไฮต่อ รับกระแสการตื่นตัวด้านสาธารณสุข และประชาชนหันมาสนใจสุขภาพมากขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
- 29 มี.ค. ประชุม กนง. ครั้งที่ 2/2566
- 31 มี.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 21 มี.ค. อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนมี.ค.จากสถาบัน ZEW
- สหรัฐ รายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.
- 21-22 มี.ค. กำหนดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
- 22 มี.ค. สหรัฐ รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
- (เช้าวันที่ 23 มี.ค.) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
- 23 มี.ค. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 4/2565 ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือน ก.พ.จากเฟดชิคาโก ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.
- 3 เม.ย. กำหนดการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส เกี่ยวกับนโยบายการผลิตนํ้ามัน