บล.บัวหลวง:

JASIF – TTTBB ขาดสภาพคล่องและจ่ายค่าเช่าให้กับ JASIF ไม่ครบ

What’s new?

อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” เมื่อเช้านี้ บริษัททริปเปิลทรี บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB หรือ 3BB) ได้ทำหนังสือถึงบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด (BBLAM) ในฐานะบริษัทจัดการของ JASIF โดยมีสาระสำคัญเรื่องการจ่ายค่าเช่าแก่กองทุน JASIF ที่ครบกำหนดชำระเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2023 ซึ่ง TTTBB สามารถชำระค่าเช่าให้กับกองทุน JASIF ได้แค่บางส่วนคือ จำนวน 700 ล้านบาทในวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดธุรกิจบรอดแบนด์ รวมถึงต้นทุนการดำเนินงานที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งกระทบต่อกระแสเงินสดของ TTTBB ส่วนที่เหลือ TTTBB จะชำระภายใน 5 วันนับจากวันที่ครบกำหนดชำระ

ด้านแหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด (BBLAM) ในฐานะบริษัทจัดการของ JASIF เปิดเผยว่าบริษัท TTTBB ยังมีความสามารถในการชำระค่าเช่าที่เหลือให้กับกองทุน JASIF โดยที่ผ่านมา TTTBB ได้ชำระค่าเช่าให้กับกองทุน JASIF แล้วมากกว่า 90% ส่งผลให้ยอดเงินที่เหลือค้างจ่ายอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ซึ่งไม่เป็นนัยสำคัญต่อกองทุน JASIF แต่อย่างใด และยังคงมีเวลาถึงสิ้นเดือนมี.ค. นี้ที่จะดำเนินการชำระค่าเช่าในส่วนที่เหลือ ทั้งนี้หาก TTTBB ชำระค่าเช่าไม่เป็นไปตามกำหนด กองทุน JASIF จะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ผู้ถือหน่วยรับทราบอย่างแน่นอน

View From Fundamental:

เรามองว่าข่าวข้างต้นถือว่าเป็นข่าวลบต่อ JASIF ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกระแสเงินสดของ TTTBB ที่ไม่เพียงพอสำหรับการจ่ายค่าเช่าให้กับกองทุน JASIF ตามจำนวนภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สำหรับการจ่ายเงินค่าเช่างวดนี้ เรามองว่าการชำระเงินค่าเช่าในส่วนที่เหลืออีก 10-15% ของจำนวนที่ต้องจ่ายในเดือนมี.ค. ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับ TTTBB แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากนัก เรามองว่าในระยะกลางถึงระยะยาว ปัญหาเรื่องสภาพคล่องของ TTTBB จะหมดไปภายใต้การเข้ามาของ ADVANC ซึ่งจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ใน TTTBB และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน JASIF รวมถึงเป็น sponsor สำหรับการจ่ายค่าเช่าให้กับกองทุน JASIF ซึ่งโปรไฟล์ด้านเครดิตหรือความมั่นคงด้านการเงินของ ADVANC น่าจะรับประกันให้ TTTBB สามารถจ่ายค่าเช่าได้ครบตามจำนวนจนสิ้นสุดอายุสัญญาเช่ากับกองทุน JASIF และ ณ ปัจจุบันดีลซื้อกิจการของ ADVANC ใน TTTBB และ JASIF ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาของกสทช. ซึ่งคาดว่าจะอนุมัติดีลนี้ภายใน 2Q23

เรามองว่าเป้าหมายที่ ADVANC จะเข้าไปจัดการในลำดับถัดไป ได้แก่ การพลิกให้ TTTBB กลับมามีกำไรให้ได้ภายในปี 2023 ซึ่งจะมาจากการเร่งรับรู้ synergy หลังการเข้าซื้อกิจการ TTTBB ทั้งในรูปของรายได้ที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง รวมถึงการเจรจาคุยกับเจ้าหนี้สถาบันการเงินเพื่อขอลดภาระดอกเบี้ยจ่าย และการยืดชำระหนี้เงินต้นของ TTTBB เพื่อให้กระแสเงินสดของ TTTBB กลับมาปรับตัวดีขึ้น

ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงระยะยาวสำหรับการที่ ADVANC อาจจะทำการเช่ากับกองทุน JASIF ต่อหรือไม่ หรือถ้า ADVANC ทำการเช่าต่อ อาจจะขอต่อราคาค่าเช่าลงจากเดิมหรือไม่ (สัญญาเช่าหลักจำนวน 1.34 ล้านคอร์กม. และสัญญารับประกันรายได้สัญญาที่สองจำนวน 0.14 ล้านคอร์กม. จะสิ้นสุดวันที่ 29 ม.ค. 2032 และสัญญารับประกันรายได้สัญญาแรกจำนวน 0.196 ล้านคอร์กม. จะสิ้นสุดวันที่ 22 ก.พ. 2026) เรามองว่าเงื่อนไขเดิมของสัญญาเช่าจะไม่มีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้นจนกว่าจะถึงเดือนก.พ. 2026 และผู้ถือหน่วย JASIF ก็จะยังคงได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลเท่าเดิมในช่วงปี 2023-25 (ภายใต้สมมติฐานว่ากระแสเงินสดของ TTTBB ยังคงไม่มีปัญหาถ้า ADVANC เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ใน TTTBB ตั้งแต่ 2H23) เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ JASIF ที่ราคาเป้าหมาย 8.38 บาท

- Advertisement -