ASL ANALYSIS GUIDE 
 
ประเมิน SET Index ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1,600
 
ประเด็นการลงทุน
1. Update ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์
2. นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อครั้งแรกในรอบสัปดาห์
 

วันนี้เคาะ CNP ตั้งเป้ารายได้ปี 66 ขยายตัว 20% จากการขยายตัวของทุกธุรกิจ โดยกลุ่มศูนย์การค้าจะเปิดตัว Central Westville งบลงทุนราว 6.2 พันล้านบาท

MARKET STRATEGY

สรุปตลาดวานนี้

SET ปิดที่ 1,593.65 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด (+0.54%) มูลค่าการซื้อขาย 49,431.84 ล้านบาท คลายกังวลต่อวิกฤตธนาคารในฝั่งตะวันตก รวมถึงผลประชุมเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นไปตามที่ตลาดคาด

Research Highlight: SET ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1600 / ติดตามการประชุม กนง.

1. Update ผลการประชุม ธนาคารกลางอังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์

    • BoE ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25% ตามตลาดคาด หลังจากเงินเฟ้อดีตตัวขึ้นสู่ระดับ 10.4% ในเดือนก.พ. แทนที่จะปรับตัวลงตามที่มีการคาดการณ์ไว้ ซึ่งสอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดวานนี้ อย่างไรก็ดี ตลาดประเมินว่า BoE อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ในช่วงที่เหลือของปีนี้
    • SNB ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 1.50% ตามตลาดคาด ภายใต้อัตราเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นสู่ระดับ 3.4% ในเดือนกพ. แม้จะน้อยกว่าประเทศอื่นในยุโรป แต่สูงกว่าที่ตลาดคาดอยู่มาก ทั้งนี้ SNB ได้ปล่อยสินเชื่อให้กับเครดิต สวิส ราว 5 หมื่นล้านฟรังก์สวิส (5.368 หมื่นล้านดอลลาร์) ขณะที่ตลาดคาดหวังกับมาตรการช่วยเหลือผู้ถือหน่อย ATI ของ CS ที่หลักจากถูก takeover โดย UBS แล้วทําให้มูลค่าตราสารเป็นศูนย์
    • อย่างไรก็ดี ตลาดรับรู้ปัจจัยลบต่อประเด็นนี้ไปพอสมควรแล้ว สะท้อนผ่านราคาหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวลงแรง หนุนทั้ง upside และ Div. yield ให้สูงขึ้น เราจึงมองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อสะสม เราชอบ KBANK KTB KKP

2. นักลงทุนต่างชาติ กลับมาชื้อครั้งแรกในรอบสัปดาห์

    • ด้าน fund flow เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 1,000 ล้านบาท หลังจากที่ก่อนหน้ามีแรงขายสุทธิมาตลอด ขณะที่นักลงทุนสถาบันยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ด้านค่าเงินบาทที่ยังคงทรงตัวได้ระดับ 34 บาทต่อดอลล่าร์ แต่ US Bond Yield ที่ปรับตัวลงช่วยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยง อาจเห็นแรงชายนักลงทุนต่างชาติลดลงหลังจากนี้

Upcoming event

    • การประชุมกนง. 29 มี.ค. คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% สู่ระดับ 1.75% โดยเป้าเงินเฟ้อ 1-3% เรามองว่ามีโอกาสที่จะเป็นไปได้ที่กรอบบนที่ 3% +/- เนื่องจากช่วง มี.ค.-ต.ค. 65 อัตราเงินเฟ้อไทยอยู่ในระดับที่สูง 4.65-7.86% เทียบกับงวดล่าสุด ก.พ. ที่ขยายตัวเพียง 3.79%YoY ทำให้คาดการณ์ว่า กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในรอบการประชุม 31 พ.ค. สู่ระดับ 2.00% (ล่าสุดในปี 2557) ก่อนจะคงที่ระดับดังกล่าวไปตลอดทั้งปี
    • ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ 30 มี.ค. GDP4Q US (ประมาณการครั้งสุดท้าย) คาดขยายตัว 2.7%YoY และ Manufacturing PMI (มี.ค.) จีน, 31 มี.ค. อัตราเงินเฟ้อยุโรป มี.ค. คาดชะลอตัวลงเหลือ 7.4% จากเดือนก่อนที่ขยายตัว 8.5% และ Core PCE US คาดขยายตัวลดลงเหลือ 0.4%MoM จาก 0.6% ของเดือนก่อน

Investment Strategy

    • คาด SET รับรู้ปัจจัยลบจากวิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปไปพอสมควรแล้ว ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะกระทบต่อภาคการเงินโลกค่อนข้างจำกัด และไม่ลุกลามเป็นวิกฤติทางการเงินรอบใหม่ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงในภาคการเงินอาจมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในระยะสั้นจากสภาพคล่องในระบบที่ตึงตัว การใช้นโยบายการเงินที่แข็งกร้าวเกินไปอาจทำให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยมากกว่าคาด แนะนำเพิ่มการลงทุนที่อิงกับปัจจัยพื้นฐานในประเทศที่ได้อานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยว การบริโภคในประเทศ และการเลือกตั้ง
    •  แกว่งตัว sideway ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1600 เป็นจุดพิจารณา แนวรับ 1588/1580 ไม่ควรต่ำกว่า
    • แนะนำ Selective buy กลุ่ม Big cap. ที่ Laggard HMPRO CPALL CPN AOT KBANK SCB JMT BDMS กลุ่ม Election Rally ADVANC KBANK BBL SC SIRI WHA STEC CPALL EA

Global Markets

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ให้คำมั่น ว่าจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อปกป้องเงินฝากธนาคารของชาวอเมริกัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

(-) ตลาดหุ้นปิดปรับตัวลงในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) โดยหุ้นกลุ่มธนาคารถ่วงตลาดลง หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตธนาคารที่อาจจะลุกลาม

(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) หลังจากนางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐระบุว่า การเติมเต็มคลังสํารองนํ้ามันทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐ (SPR) อาจต้องใช้เวลานานหลายปี

(+) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

หุ้นเคาะไป คุยไป..CPN

  • CPN ตั้งเป้ารายได้ปี 66 ขยายตัว 20% จากการขยายตัวของทุกธุรกิจ โดยกลุ่มศูนย์การค้าจะเปิดตัว Central Westville งบลงทุนราว 6.2 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดในช่วง 4Q66 ย่านราชพฤกษ์ ซึ่งขณะนี้ Occupancy ร้านค้าเกือบเต็ม 100% ทั้งนี้ในปี 67 ตั้งเป้าจะเปิด Central Nakhon Sawan (งบลงทุน 5.8 พันล้านบาท คาดเปิด 1Q67), Central Nakhon Pathom (งบลงทุน 8.2 พันล้านบาท คาดเปิด 2Q67) ซึ่งเป็นโครงการ mixed used ขนาดใหญ่ และ Central Krabi (งบลงทุน 4.5 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิด 4Q67) ทั้งนี้ทิศทางของการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวขึ้น และส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง จะช่วยหนุนผลประกอบการในปีนี้
  • สำหรับการพัฒนาโครงการ Mega project Mixed-Used ของ CPN ใน 5-10 ปีนี้ มีทั้งสิ้น 5 โครงการ เริ่มจากโครงการแรก Dusit Central Park จะทยอยเปิดตัวในปี 67-68 ส่วนอีก 4 โครงการจะอยู่บนพื้นที่สถานทูตอังกฤษ เป็นการร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์, ที่ดินพระราม 9 ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดจอดแฟร์ 23 ไร่, ที่ดินพหลโยธิน 24 ใกล้กับเซ็นทรัล ลาดพร้าว และอีกทำเลยังอยู่ระหว่างการพิจารณามูลค่าการลงทุนรวม 2 หมื่นล้านบาท พื้นที่รวม 3.5 แสน ตร.ม.
  • ปัจจุบัน CPN มีพื้นที่เช่าศูนย์การค้ารวมกว่า 2.3 ล้านตารางเมตร และมีอัตราการเช่ามากกว่า 90% ส่วนการเติบโตของรายได้ในช่วง 5 ปีนี้ (ปี 66-70) วางเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ย 12-13% ต่อปี
  • ด้านธุรกิจที่อยู่อาศัย ยังคงใช้กลยุทธ์โลเคชั่นใกล้ศูนย์การค้า โดยแผนปี 66 เตรียมเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 9 พันล้านบาท ได้แก่ คอนโดมิเนียม 3 โครงการ คือ ESCENT เพชรบุรี, บุรีรัมย์ และนครศรีธรรมราช และ แนวราบ 4 โครงการ คือ บ้านนิรติ นครศรีธรรมราช และแบรนด์ใหม่ บ้านนิร ดา พระราม 2, อุทยาน และเอกชัย
  • ส่วนธุรกิจอาคารสำนักงาน มีโครงการ Central Park Offices ภายในโครงการ Dusit Central Park เป็น World-Class Professional Hub ส่วนกลุ่มโรงแรมปีนี้จะเปิดครบทุก 3 แบรนด์ รวมทั้งสิ้น 10 แห่ง 1,600 ห้อง
- Advertisement -