เสริมแกร่งอีคอมเมิร์ซ อัพเป้าดันรายได้สูงกว่าปีที่แล้ว 50% แย้มปิดดีลเพิ่มอีก 3 ดีลในปีนี้
บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์’ หรือ NRF ประกาศผลงานไตรมาส 2/2564 มีรายได้จากการขาย 448 ล้านบาท และกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 29 ล้านบาท หนุนผลงานครึ่งปีแรกปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.2564) มีรายได้จากการขาย 920 ล้านบาท และกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 98 ล้านบาท เดินหน้ามองหาโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติม แม้เผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ล่าสุดประกาศลงทุนในโครงการ WellPath มูลค่าลงทุน 135.3 ลบ. เสริมแกร่งธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แย้มปิดดีลซื้อกิจการอีคอมเมิร์ซอีก 3-4 ดีลภายในปีนี้ สอดรับเทรนด์ E-commerce และ IPCC Report หรือรายงานการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ตอกย้ำ Business Model ของบริษัท ผลักดันเป้ารายได้สูงกว่าปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 50%
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF
ผู้ผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร อาหารมังสวิรัติที่ไม่มีส่วนผสมของไข่และนม อาหารโปรตีนจากพืช อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมรับประทานและเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 (เมษายน-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 448 ล้านบาท เติบโต 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 327 ล้านบาท เป็นผลเติบโตจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้ธุรกิจอาหารไทยและอาหารท้องถิ่น (Ethnic Food) และอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based Food) ที่สูงขึ้น ประเทศที่เติบโตหลักๆ มาจากอเมริกาเหนือและยุโรป และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบริษัท Boosted NRF Corporation และบริษัท City Food
หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า รายได้จากการขายในไตรมาส 2/64 ลดลงเล็กน้อย โดยสาเหตุหลักมาจากรายได้ในธุรกิจอาหารไทยและอาหารท้องถิ่น รวมถึงอาหารโปรตีนจากพืชลดลง เนื่องจากระบบขนส่งทั่วโลกล่าช้า และเรือขาดแคลนทำให้เรือที่ทางบริษัทใช้บรรทุกสินค้าไม่มารับสินค้าที่ท่าเรือตามกำหนด ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ส่งสินค้าออกไม่ได้ตามแผนที่กำหนดในไตรมาสสอง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ ทั้งการผลิตและสต็อคสินค้าเกิดขึ้นแล้วในไตรมาสนี้ ส่งผลให้รายได้ที่ควรจะเข้ามาในไตรมาส 2/64 มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ไม่เป็นไปตามคาด แต่อย่างไรก็ตามสินค้าของ NRF ที่รอจัดส่งเมื่อเดือนมิถุนายน มูลค่า 80 ล้านบาท ได้ถูกจัดส่งเป็นที่เรียบร้อยในเดือนกรกฎาคมและจะเป็นรายได้เข้ามาในไตรมาส 3/64 แทน ทั้งนี้ หากระบบขนส่งทั่วโลกไม่ขัดข้อง ถ้าบริษัทฯ สามารถจัดส่งสินค้าตามแผนได้ทั้งหมดภายในไตรมาสนี้ จะส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาสนี้เกินกว่าเป้าหมายที่บริษัทฯ คาดไว้ และจะเป็นสถิติใหม่ทั้งในแง่รายได้และกำไรของบริษัทอีกด้วย
สำหรับกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติของบริษัทฯ (Normalized Net Profit) ในไตรมาส 2/2564 ทำได้ 29 ล้านบาท ลดลง 38.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) อยู่ที่ 91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านอัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (Net Profit Margin) ทำได้ 6.2% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 13.9% เนื่องจากมีการรับรู้ส่วนแบ่งผลขาดทุนที่เพิ่มขึ้นจากบริษัท Plant and Bean Ltd. ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้กระบวนการได้รับใบอนุญาตจาก British Retail Consortium (BRC) ล่าช้าออกไป ทั้งนี้ คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะสามารถเริ่มกำลังการผลิตได้ทันที และคาดว่าจะได้เห็นการเพิ่มขึ้นของยอดขายในไตรมาส 4/64
ส่วนผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2564) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 920 ล้านบาท เติบโต 55.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 592 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารไทยและอาหารท้องถิ่น (Ethnic Food) 82%ผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based Food) 5% ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน (Functional Products) 2% และการเติบโตที่สำคัญ คือธุรกิจ E-Commerce Platform คิดเป็นสัดส่วน 11% ของรายได้ เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบริษัท Boosted NRF Corporation โดยซื้อผลิตภัณฑ์ Prime Labs เข้ามาจัดจำหน่ายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นหลังซื้อทรัพย์สินภายใต้แบรนด์ SOL Trading ซึ่งมีแฟลตฟอร์ม E-commerce ในการขาย โดยเพิ่มโอกาสการเสนอขายสินค้าในหมวดผลิตภัณฑ์อื่นๆ แก่กลุ่มลูกค้าเดิม และสามารถต่อยอดไปสู่แผนการลงทุนในอนาคต เช่น การรับจ้างเป็นผู้ผลิตสินค้า (OEM) รวมถึงการต่อยอดธุรกิจ V-shape เป็นต้น
ขณะที่กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติของบริษัทฯ ทำได้ 98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 93 ล้านบาท ในส่วนของ EBITDA อยู่ที่ 174 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 131 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (Net Profit Margin) ทำได้ 10.3% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 15.4% เนื่องจากรับรู้ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายของ City Food และ BOOSTED NRF Corp. ที่เพิ่มขึ้น
นายแดน ปฐมวาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดและในช่วงล็อคดาวน์ บริษัทฯ มองเห็นศักยภาพของตลาด E-commerce ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงมองหาพาร์ทเนอร์และโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติมเพื่อสร้างการเติบโตผ่าน E-commerce ซึ่งบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับทุกดีลไม่ว่าจะเป็น ดีลขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ เพื่อต่อยอดและสร้างพอร์ตโฟลิโอของ NRF ในการขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้เข้าซื้อทรัพย์สินภายใต้แบรนด์ SOL Trading ภายใต้บริษัท BOOSTED NRF Corporation ได้สำเร็จ มูลค่าการลงทุน 2.92 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ โดยผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย The Cocoa Trader, Fossil, Power Caribbean Cacao, and Aspen Naturals ซึ่งเป็นอาหารเพื่อสุขภาพชั้นนำที่ขายอยู่บนแพลตฟอร์ม Amazon.com
ปัจจุบันมีการจัดจำหน่ายสินค้าทั้งหมด 45 รายการ เช่น ผงโกโก้ ผงเจลาตินและจัดจำหน่ายในประเทศสหรัฐฯสำหรับการเข้าลงทุนครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างจุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่งในผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารเสริมบน E-commerce ระดับโลก รวมถึงเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติมสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช ซึ่งบริษัทฯ ได้รับรู้รายได้จากทั้ง Prime Labs และ SOL Trading เข้ามาในไตรมาสนี้ ส่งผลให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นกว่า 91.4% จากไตรมาสที่ 1/2564
ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการลงทุนในโครงการ WellPath ซึ่งเป็นการลงทุนภายใต้บริษัท Boosted NRF Corporation เพื่อรองรับการขยายตัวและต่อยอดกลยุทธ์ทางด้าน E-commerce ต่อจากโครงการ Prime Labs และ SOL Trading โดยการลงทุนดังกล่าวเป็นการซื้อทรัพย์สินทางปัญญา เครื่องหมายการค้า องค์ความรู้และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์เฉพาะ (know-how) และสินทรัพย์ไม่มีตัวตนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ ภายใต้แบรนด์ของกลุ่ม WellPath อาทิ Pure Apple Cider Vinegar Gummies, Boost Elderberry Gummies, Zen Anxiety and Stress Relief Supplement และ Vital Turmeric Gummies ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพชั้นนำที่ขายอยู่บน Amazon.com และอยู่ในตลาดมาแล้วกว่า 6 ปี ปัจจุบัน มีการจัดจำหน่ายสินค้าทั้งหมด 11 ผลิตภัณฑ์ (SKU) เช่น วิตามินและอาหารเสริม ชนิดเยลลี่ และ จัดจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา มูลค่าลงทุนไม่เกิน 4.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 135.3 ล้านบาท คาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปี 2564 อย่างไรก็ตาม NRF ยังคงมุ่งมั่นเติบโตในธุรกิจอีคอมเมิร์ซและตั้งเป้าหมายเข้าเจรจาซื้อกิจการอีก 3 ดีลภายในปี 2564 ส่งผลทำให้รายได้ในปี 2564 สูงกว่าปีที่แล้วไม่น้อยกว่า 50%
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับ IPCC Report หรือรายงานการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ปัจจุบันนี้ รัฐบาลทั่วโลกจัดตั้งภาษีสำหรับอาหารคาร์บอนสูง ส่งผลให้มีการรณรงค์เรื่องการทานอาหารโปรตีนจากพืชมากขึ้น นับเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างรายได้ Plant-based Food เป็นไปตามวิสัยทัศน์และ Business Model ของบริษัทที่วางไว้อีกด้วย