KS Daily View 27.03.2023 >>> Wait and See แนะลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว SET คาดแกว่งตัวออกข้างในกรอบ 1,585-1,596 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ CPN, AAV

สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้

ต่างประเทศ: ดัชนี DJIA +0.41%, S&P 500 +0.56%, NASDAQ +0.31% โดย Sector ที่ outperform ใน S&P 500 ได้แก่ Utilities (+3.12%), Real Estate (+2.57%), และ Healthcare (+1.31%) เป็นต้น Sector ที่ underperform ใน S&P 500 ได้แก่ Consumer discretionary (-0.35%), Financials (-0.06%), และ IT (+0.25%) เป็นต้น

ในประเทศ: SET Index ปรับตัวลง -1.80 จุด หรือ -0.11% ปิดที่ 1,591.85 จุด โดยหุ้นที่ขึ้นแรง ได้แก่ KEX (+2.61%), KCE (+2.23%), CENTEL (+2.23%) เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ลงแรง ได้แก่  FORTH (-3.73%), OSP (-2.31%), MEGA (-2.29%) เป็นต้น

ประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการลงทุน

1.) Ft รายงานว่ามีการถอนเงินจากธนาคารในสหรัฐฯ​​​ โยกเข้ากองทุนตลาดเงิน (Money market fund) สูงถึง US$286bn ในเดือน มี.ค. 66 สูงสุดนับแต่เหตุการณ์วิกฤตโควิดในปี 2020 ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ รายงานเงินฝากในระบบลดลงจาก US$17.6tn เป็น U$17.5tn (ต้นเดือนถึง 15 มี.ค.) ขณะที่เงินฝากในธนาคารขนาดเล็กลดลงจาก US$5.6tn เป็น US$5.4tn ทำให้คาดว่าการปล่อยสินเชื่อในสหรัฐฯจะชะลอตัวตามจากฐานเงินฝากที่ลดลง

2.) ติดตามตัวเลขส่งออกเดือน ก.พ. ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ คาด -7.0% YoY ทั้งนี้ต้องจับตาผลกระทบทางอ้อมหากเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรปชะลอ ทำให้ไทยส่งออกได้น้อยลง ซึ่งผลกระทบต่อการส่งออกนั้นน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของจีดีพี นอกจากนี้ด้วยแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินในอนาคตหากจำเป็นเพื่อประคับประคองระบบสถาบันการเงิน กอปรกับเกิด gridlock ในการใช้นโยบายการคลังที่เสี่ยงจะเกิดปัญหา government shutdown ทำให้เงินดอลลาร์มีโอกาสอ่อนค่า และบาทแข็งค่า ทั้งนี้มองว่าหุ้นที่ link กับภาคการส่งออกจะยังอยู่ในทิศทางชะลอตัวต่อจากแรงกดดันดังกล่าว

3.) กระแสที่มีคลิปของ Creator คนนึงที่จีนที่มาเปิดประเด็น “อย่ามาเมืองไทย” กำลังกลายเป็นกระแสสร้างความกลัวและ Discredit ประเทศไทย เพราะไม่ปลอดภัย ทั้งนี้นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าในข้อเท็จจริงอาจมีผลกระทบบ้างช่วงแรก สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ซื้อแพ็กเกจทัวร์ผ่านเคโอแอล (KOL) หรือไลฟ์สตรีมมิ่ง แต่ล่าสุดทาง ททท. สำนักงานในจีนได้แจ้งมาแล้วว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวไทยในปัจจุบันกลับมาปกติแล้ว สะท้อนจากอัตรากการยื่นขอวีซ่าผ่านสถานทูตที่กลับมาปกติ ทำให้เรื่องนี้จะทยอยจางหายไปจากการที่สายการบิน ผู้ประกอบการทัวร์ โอเปอร์เรเตอร์ต่างๆ ที่ออกมาให้ความเป็นจริง นอกจากนี้รัฐบาลได้เชิญชวนให้ ‘นักท่องเที่ยว’ โหลดแอป ‘Tourist Police i lert u’ สามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินตำรวจท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง รองรับ 9 ภาษาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ : เราประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้  แกว่งตัวออกข้างในกรอบ  1600 จุด +- ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากไม่มี Key event สำคัญที่เป็นตัวผลักดันตลาด โดยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกของไทยเดือน ก.พ., การประชุม กนง.​, ตัวเลขเงินเฟ้อของยุโรป, และตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน เป็นต้น

ทั้งนี้ KS ยังประเมินปัจจัยในต่างประเทศจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่าปัจจัยในประเทศ  โดย Key สำคัญ คือ

1.) เงินเฟ้อสหรัฐ  (โดยเฉพาะภาค service และ housing)

2.) การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก/ปัญหาหนี้เสียที่ตามมาจากสภาวะการเงินที่ตึงตัวในตลาด/กำไร บจ.

3.) ทิศทางนโยบายการเงิน ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยใน 2H23 จำนวน 75-100bps. เพื่อหนุนการ soft landing โดยรวมประเมินภาพตลาดหุ้นไทยจะยังแกว่งตัวต่อในช่วง 2Q23 เพื่อรอดูปัจจัยต่างประเทศดังกล่าว  ส่วนปัจจัยในประเทศ คาดนักลงทุนต่างชาติจะยังรอดูผลการเลือกตั้ง, การประกาศตัวเลข GDP 1Q23 ของไทย และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในช่วงครึ่งแรกของเดือน พ.ค. ซึ่งตัวเลขภาพรวมดู mixed  โดยรวมในเชิงกลยุทธ์ยังแนะนำเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ และราคาหุ้นอยู่ในโซนล่าง

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1585-1596 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ CPN และ AAV

Top pick : 

  • CPN ราคาพื้นฐาน 79.00 บาท การเติบโตระยะกลาง –ยาว ชัดเจน  CPN ประกาศแผนธุรกิจ 5 ปี ขยายพื้นที่เช่า 100% โดยเตรียมลงทุรเงินจำนวน 1.2 แสนลบ. เพิ่มจำนวนโครงการเป็น 2 เท่า จาก 89 โครงการ ใน 1Q22 เป็น 186 โครงการ ภายในปี 2569 CPN ที่มีฐานธุรกิจที่ดี และจะได้ประโยชน์จากการกลับมาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะจีนที่คาดว่าจะเปิดประเทศใน 1H23 จะทำให้ CPN สามารถลดอัตราส่วนลดค่าเช่าพื้นที่โดยรวมได้เร็วกว่าคาด จะสร้าง Upside risk ต่อประมาณการ เรายังคงเชื่อว่า CPN จะสามารถทำสถิติกำไรสูงสุดใหม่ในปี 2566 ที่ 14,014 ลบ. (เติบโต 30.25% YoY)
  • AAV ราคาพื้นฐาน 3.10 บาท เราปรับคำแนะนำจาก ขาย เป็น ซื้อ มองปัจจัยหนุนจากจำนวนผู้โดยสารเร่งตัวขึ้น ค่าตั๋วเพิ่ม ต้นทุนน้ำมันมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ต้นทุนในการดูแลเครื่องบินจะลดลง 865 ลบ. คาดปีนี้จะมีกำไร 564 ลบ. จากปีก่อนที่ขาดทุน 8 พันลบ.

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้ แนะนำ

1.) หุ้นที่ราคาพักฐานลงมาแล้ว แต่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหนุนหรือทิศทางผลประกอบเติบโตต่อเนื่องในปี 2023  แนะนำ CK ราคาพื้นฐาน  33.3  บาท , CPN ราคาพื้นฐาน  79.0  บาท  , SNNP ราคาพื้นฐาน  30.3 บาท

2.) หุ้น Defensive ที่จะช่วยลดความผันผวน/ความเสี่ยงของพอร์ทการลงทุนรวม แนะนำ กลุ่ม ICT (ADVANC ราคาพื้นฐาน 233.85 บาท และ TRUE ราคาพื้นฐาน 10.32 บาท) และ กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM ราคาพื้นฐาน 64.5  บาท และ GULF ราคาพื้นฐาน 54.50 บาท)

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันจันทร์ ติดตาม ตัวเลขส่งออก และนำเข้าของไทยเดือน ก.พ. คาด -7.0% YoY และ +2.0% YoY ดุลการค้าของไทยเดือน ก.พ. คาด -US$1,414mn (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ -US$4,650mn) ตัวเลข Ifo Business Climate index ของเยอรมัน เดือน มี.ค. คาด 91.1 จุด (ทรงตัว MoM) ถ้อยแถลงของ ECB Elderson, ECB Schnabel, BOE Gov Beiley และ Fed Jefferson
  • วันอังคาร ติดตาม ถ้อยแถลงของ ECB Enria ดัชนีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller Home Price ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค.​ คาด -0.9% MoM ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค.​ คาดที่ 101 จุด (-1.8% MoM) ถ้อยแถลงของ Fed Barr และ ECB Enria
  • วันพุธ ติดตาม การประชุม กนง. คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bps. เป็น 1.75% ตัวเลข Gfk Consumer confidence ของเยอรมัน เดือน เม.ย. คาด -29 จุด (ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -30.5 จุด) ตัวเลข Pending home sales ของสหรัฐฯ​ เดือน ก.พ.​ คาด -3% MoM และปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ​
  • วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลข Industrial production ของไทย เดือน ก.พ.​ คาด -1.1% YoY ตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมัน เดือน มี.ค.​ คาด +0.7% MoM และ 7.3% YoY (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 8.7% YoY) ตัวเลข ​Initial Jobless Claim รายสัปดาห์ของสหรัฐฯ​ คาด +196K (จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +191K) และถ้อยแถลงของ Fed Barkin
  • วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ก.พ. ของ ธปท. ตัวเลข Industrial production ของญี่ปุ่น เดือน ก.พ. คาด +2.7% MoM ตัวเลข NBS Manufacturing PMI ของจีน เดือน มี.ค.​ คาด 51.2 จุด (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 52.6 จุด) ตัวเลข NBS Non Manufacturing PMI ของจีน เดือน มี.ค.​ คาด 54.9 จุด (จากเดือนก่อนหน้าที่ 56.3 จุด) ตัวเลข Retail sales ของเยอรมัน เดือน ก.พ. คาด +0.5% MoM ตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซน เดือน มี.ค.​ คาด 7.2% YoY (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 8.5% YoY) ตัวเลข Core inflation ของยูโรโซน เดือน มี.ค.​ คาด 5.7% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ 5.6% YoY) ตัวเลขอัตราการว่างงานในยูโรโซนเดือน ก.พ.​ คาด 6.7% ตัวเลข Core PCE Price index ของสหรัฐฯ เดือน ก.พ.​ คาด +0.4% MoM และ +4.7% YoY ตัวเลข PCE Price index ของสหรัฐฯ​ เดือน ก.พ.​ คาด +0.5% MoM และ +5.1% YoY ตัวเลข Personal spending ของสหรัฐฯ เดือน ก.พ.​ คาด +0.3% MoM (จากเดือนก่อนหน้าที่ +1.8% MoM) ถ้อยแถลงของ Fed William และ Fed Cook
- Advertisement -