ASL ANALYSIS GUIDE

 ประเมิน SET Index แกว่งตัว Sideway ในกรอบ 1,570-1,602

 ประเด็นการลงทุน
1. ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรง คาดกลุ่มพลังงานหนุนตลาดวันนี้
2. ภาครัฐเตรียมขึ้นภาษีความหวานเฟส
3. จับตาตัวเลขส่งออก ก.พ. หดตัว 7%YoY และการประชุม กนง.
4. BJC เตรียมนำ บิ๊กซี รีเทล (BRC) เข้าตลท.โดยขายไอพีโอ 29.98%

 

วันนี้เคาะ SCGP ในเชิง sentiment ได้ประโยชน์จาก PMI จีนที่ปรับตัวขึ้นในเดือน ก.พ. หนุนภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวส่งผลต่ออุปสงส์ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงเป็น 1 ในหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก IMF ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจจีนมีความแข็งแกร่งและจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวโดยคาดการณ์ GDP ปีนี้ขยายตัว 5.2%

MARKET STRATEGY

สรุปตลาดวานนี้

SETI ปิดที่ 1,593.37 จุด เพิ่มขึ้น 1.52 จุด (+0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 36,058.65 ล้านบาท Outperform ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังรอความคืบหน้าเกี่ยวกับสถาบันการเงินในฝั่งยุโรป ขณะที่บ้านเรารอติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจของไทยและผลการประชุมกนง.

Research Highlight: คาดกลุ่มพลังงานหนุนตลาด/ติดตามการประชุม กนง.

1. ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรง คาดกลุ่มพลังงานหนุนตลาดวันนี้

    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังมีข่าวว่าตุรกีหยุดการสูบนํ้ามันดิบจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานในอิรักผ่านทางท่อส่งน้ำมัน หลังจากคำตัดสินของศาล อนุญาโตตุลาการยืนยันว่าการส่งออกน้ำมันจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลอิรัก โดยการส่งออกน้ำมันผ่านท่อลำเลียงแห่งนี้คิดเป็นสัดส่วนราว 0.5% ของอุปทานน้ำมันโลก หรือประมาณ 450,000 บาร์เรล/วัน
    • ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันจากรัสเซียประกาศว่าจะติดตั้งฐานอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีในเบลารุส ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความกังวลให้กับประเทศทั่วโลก รวมถึงสหรัฐ และ NATO
    • อีกแรงหนุนมาจากตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร หลัง FDIC รายงานว่า First Citizens BancShares ตกลงเข้าซื้อกิจการ SVB แล้ว โดยข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมถึงเงินฝากและเงินกู้ทั้งหมดของ SVB ซึ่งหนุนให้หุ้นในกลุ่มธนาคารของสหรัฐฯและยุโรปปรับตัวขึ้น
    • เป็น Sertirrerit เชิงบวกต่อกลุ่มพลังงาน เราแนะนำาก็งกำไร PTTEP PTTGC TOP BCP

2. ภาครัฐเตรียมขึ้นภาษีความหวานเฟส 3

    • ภาษีความหวานระยะที่ 3 ที่เริ่มเก็บตั้งแต่ 1 เม.ย.2566 – 31 มี.ค.2568 มีอัตรา ดังนี้ ปริมาณน้ำตาล 6-8 กรัม คิดอัตราภาษี 0.3 บาทต่อลิตร ปริมาณน้ำตาล 8-10 กรัม คิดอัตราภาษี 1 บาทต่อลิตร ปริมาณ น้ำตาล 10-14 กรัม คิดอัตราภาษี 3 บาทต่อลิตร ปริมาณน้ำตาล 14-18 กรัม คิดอัตราภาษี 5 บาทต่อ ลิตร ปริมาณน้ำตาลตั้งแต่ 18 กรัม คิดอัตราภาษี 5 บาทต่อลิตร
    • มองเป็น Sentiment เชิงลบต่อกลุ่มเครื่องดื่มในระยะสั้น แต่ทั้งนี้บริษัทต่างๆ ได้ปรับตัวผ่านการปรับสูตรในเครื่องดื่มหลักไปหมดแล้ว ซึ่งทำให้ไม่มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นมองว่าหากราคาย่อตัวลงเป็นจังหวะซื้อสะสม CBG OSP ICHI SAPPE TACC
    • นอกจากนี้กลุ่มเครื่องดื่มยังได้อานิสงส์จากการเข้าสู่ Theme Summer play หลังจากกรมอุตุฯคาดการณ์อุณหภูมิไทยปีนี้อาจแตะระดับสูงสุด 45 องศาในบางพื้นที่ ขณะที่ภาพเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่40-43 องศา ในช่วงฤดูร้อนนี้

3. จับตาตัวเลขส่งออก ก.พ. หดตัว 7%YoY และการประชุม กนง.

    • ตลาดคาดการณ์ตัวเลขส่งออกเดือน ก.พ. หดตัว 79% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่หดตัว 4.5%YoY ประเมินว่าการส่งออกไทยยังมีแนวโน้มหดตัวต่ออีกระยะหนึ่ง เนื่องจากสินค้าส่งออกหลักหลายรายการยังจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึงการปรับสมดุลระดับสินค้าคงคลัง หลังจากความต้องการสินค้าที่เคยได้รับอานิสงส์จากโควิค 19 โดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับ WFH ลดลง ซึ่งมีผลให้สินค้าบางประเภท มีแนวโน้มอยู่ในวัฏจักรสินค้าช่วงขาลง เช่น คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ประกอบกับผลสืบเนื่องจากปัญหาของเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่ฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ กดดันการส่งออกในกลุ่มพลาสติก และเคมีภัณฑ์ ที่พึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจีน
    • ด้านอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มขยายตัวแบบชะลอตัวลง เนื่องจากช่วง มี.ค.- ต.ค. 65 อัตราเงินเฟ้อไทยอยู่ในระดับที่สูง 4.65-7.86% เทียบกับงวดล่าสุด ก.พ. ที่ขยายตัวเพียง 3.79% YoY ถือเป็นสัญญาณที่ดี และเข้าใกล้กรอบเป้าหมายของ ธปท. ที่ 1-30% มากขึ้น
    • การประชุมกนง. 29 มี.ค. คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% สู่ระดับ 1.75% และอาจเห็นการ ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สะท้อนภาพปลายทางของวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นจาก 1. แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง 2. Fed ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว

Upcoming event

    • BJC เตรียมนำ บิ๊กซี รีเทล (BRC) เข้าตลท.โดยขายไอพีโอ 29.98% ซึ่งจะทำให้ BJC มีสัดส่วนการถือหุ้นในบิ๊กซีลดลง (Dilution) จากเดิมถือหุ้น 100% จะเหลือไม่ต่ำกว่า 70.02% โดยจะนำเงินที่ได้ จาก IPO นำมาจ่ายหนี้ และขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่รายได้ปี 64-65 อยู่ที่ 1.11 และ 1.13 แสนล้านบาท มีกำไรสุทธิ 7.3 และ 6.8 พันล้านบาท ตามลำดับ
    • ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ 30 มี.ค. GDP-4Q US (ประมาณการครั้งสุดท้าย) คาดขยายตัว 2.70 และ Manufacturing PMI (มี.ค.) จีน คาดขยายตัวเพียง 50.5 จุด จากเดือนก่อนที่ 52.6 จุด 31 มี.ค. อัตราเงินเฟ้อยุโรป มี.ค. คาดชะลอตัวลงเหลือ 7.4% จากเดือนก่อนที่ขยายตัว 8.5% และ Core PCE US คาดขยายตัวลดลงเหลือ 0.4%MoM จาก 0.6% ของเดือนก่อน และรายงานเศรษฐกิจจาก ธปท.

Investment Strategy

    • ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1570-1602
    • แนะนํา Selective buy กลุ่ม Big cap. ที่ Laggard HMPRO CPALL CPN AOT KBANK SCB JMT BDMS กลุ่ม Election Rally ADVANC KBANK BEL SC SIRI WHA STEC CPALL EA หลีกเลี่ยง กลุ่มการเงิน รับปัจจัยลบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง. และ US Bond Yield

Global Markets

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกจากข่าวการซื้อกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ เป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ หลังจากนักลงทุนเทขายทํากําไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกจากนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกเกี่ยวกับเสถียรภาพของภาคธนาคาร หลังการล่มสลายของธนาคารเครดิต สวิส และธนาคารขนาดกลาง 2 แห่งของสหรัฐ

(+) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันจันทร์ (27 มี.ค.) หลังมีรายงานว่า อิรัก ระงับการส่งออกน้ำมันบางส่วนจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิรัก ส่งผลให้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญภาวะอุปทาน์ติ้งตัว นอกจากนี้ ข่าวการซื้อกิจการธนาคาร ชี้ลิคอน วัลเลย์ แบงก์ ยังช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคการเงินสหรัฐ

(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดร่วงลง โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร

หุ้นเคาะไป คุยไป..SCGP

  • บริษัทตั้งเป้ารายได้โตเกือบ 10% มาที่ระดับ 1.6 แสนล้านบาท ตามจีนเปิดประเทศที่ทำให้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์เติบโต รวมถึงแนวโน้มต้นทุนเศษกระดาษลดลง ค่าเฟรทลดลง และราคาพลังงานที่ทรงตัว รวมถึงพยายามปิดดีล M&P อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จ่ายปันผล 0.35 บาท/หุ้น คิดเป็น div yield ที่ 0.7% ขึ้น XD 4 เม.ย.
  • เราแนะนำ “ซื้อ” โดยปรับลดราคาเป้าหมายปี 66 ลงเหลือ 68.75 บาท จาก 75.75บาท อ้างอิง DCF หลังผล ประกอบการ 4Q65 ออกมาน่าผิดหวัง คาดมีผลกระทบในระยะสั้น โดยเราปรับ EPS ลง 20.5% เพื่อสะท้อน COGS ที่ยังอยู่ในเกณฑ์สูง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าปัจจัยลบที่กดดันต้นทุนเริ่มผ่อนคลายบ้างแล้ว ต้นทุนกระดาษและค่าขนส่ง มีแนวโน้มทยอยปรับตัวลงในช่วง 1H66 ขณะที่การเปิดประเทศของจีนนั้นจะเป็นผลบวกต่อห่วงโซ่การผลิตใน อุตสาหกรรมต่างๆ ที่กลับสู่ภาวะปกติ ส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอยสินค้า จึงคาดว่า 1Q66 ผลประกอบการน่าจะเริ่มค่อยๆ ฟื้นตัว
  • ในเชิง sentiment ได้ประโยชน์จาก PMI จีนที่ปรับตัวขึ้น ในเดือน ก.พ. หนุนภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ส่งผลต่ออุปสงส์ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงเป็น 1 ในหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก IMF ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจจีนมีความแข็งแกร่งและจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว โดยคาดการณ์ GDP ปีนี้ขยายตัว 5.2%

 

- Advertisement -

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน