สรุปภาวะตลาด

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ สวนทางกับตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวบวกแรง คาดปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทยมาจากประเด็น กนง. อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ประกอบกับกระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือนก.พ. หดตัว 4.7% พร้อมทั้งคาดว่าครึ่งปีแรกยังติดลบต่อเนื่อง โดยมีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก และไอซีที ส่วนแรงซื้อเข้ามาในหุ้น DELTA +94.00 บาท (+9.34%) ส่งผลต่อดัชนีราว 49.6 จุด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,605.42 จุด -5.10 จุด -0.32% มูลค่าการซื้อขาย 50,910 ลบ. ต่างชาติ -1,835.44 ลบ. TFEX +2,310 สัญญา ตราสารหนี้ +2,863.78 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 141.43 จุด หรือ +0.43% ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง หลังจากคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้เสนอมาตรการกำกับดูแลธนาคารขนาดกลางให้มีความเข้มงวดมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงในระบบธนาคารของสหรัฐ

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 1.92% ปิดที่ 74.37 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้ปัจจัยหนุน จากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี รวมทั้งข่าวอิรักระงับการส่งออกน้ำมันบางส่วนจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญภาวะอุปทานตึงตัว

+ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 198,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ราย ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง

ปัจจัยลบ-

– กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2565 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 2.6% ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งมีการขยายตัว 2.9% และ 2.7% ตามลำดับ

– จีนและบราซิลบรรลุข้อตกลงการค้าโดยใช้สกุลเงินหยวนและเงินเรอัลในการทำธุรกรรมกันโดยตรงแทนการใช้ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินกลาง ซึ่งนับเป็นความพยายามล่าสุดของจีนที่จะลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ในการค้าระหว่างประเทศ

– รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการส่งออกเดือนก.พ.2566 ว่า มีมูลค่า 22,376.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 4.7% เมื่อ เทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5

– คณะลูกขุนของศาลแขวงเมืองแมนฮัตตัน รัฐนิวยอร์ก ของสหรัฐ ได้ลงมติดำเนินคดีอาญาต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ฐานจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ไม่ให้แฉความสัมพันธ์ลับ ซึ่งเข้าข่ายการใช้จ่ายเงินรณรงค์หาเสียงอย่างผิดกฎหมายในศึกเลือกตั้งปี 2559

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด ขณะที่ราคา น้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,600-1,610 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
  • หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : TKS SIRI PR9 SC STEC STPI
  • BOI ส่งเสริมการลงทุนชิ้นส่วน EV : EA GPSC BCP DELTA PIMO FPI
  • หุ้นปันผลดี : ADVANC TISCO SCB PT SMIT
  • จำนวนนักท่องเท่ียวปรับตัวเพิ่มขึ้น : AOT BAFS AAV BA MINT CENTEL ERW

หุ้นรายงานพิเศษ

DEXON – บมจ. เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี

MAI/Service ราคา IPO 4.50 บาท (ราคาเหมาะสม Consensus 6.10-6.90 บาท)

  • DEXON (ชื่อเดิม บริษัท ดาคอน อินสเป็คชั่น เทคโนโลยีส์ จำกัด) เป็นผู้ให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมและ สร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี สำหรับตรวจสอบโครงสร้างและอุปกรณ์การผลิตในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้ง อุตสาหกรรมปิโตรเลียม ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้า กลุ่มพลังงานหมุนเวียน และที่เกี่ยวข้องกับ อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ตรวจสอบท่อส่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ตรวจสอบภาชนะรับแรงดัน ตรวจสอบอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน ตรวจสอบถังกักเก็บน้ำมัน ถังกักเก็บสารเคมี และการตรวจสอบกังหัน ลมผลิตไฟฟ้า เป็นต้น
  • ผลการดำเนินงานปี 63-65 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 439 ลบ. 433 ลบ. และ 609 ลบ. ตามลำดับ ปี 65 รายได้ เติบโต 40.4%YoY เนื่องจากรายได้จากการให้บริการตรวจสอบท่อโดยใช้เทคโนโลยีขั้น สูงเพิ่มขึ้นจากลูกค้าต่างประเทศเป็นหลัก โดยมี %GPM เท่ากับ 30.2% 30.6% และ41.2% ตามลำดับ ปี 65 %GPM ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากช่วงกลางปี 65 บริษัทให้บริการลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่ 1 รายซึ่งเป็นงาน ตรวจสอบโดยไม่ทำลายขั้นสูง (Advance NDT) และช่วงปลายปี 65 ให้บริการกับลูกค้าต่างประเทศอีก 1 ราย เป็นงานตรวจสอบท่อโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (ILI) ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 11 ลบ. 18 ลบ. และ 105 ลบ. ตามลำดับ คิดเป็น %NPM ที่ 2.5% 4.2% และ 17.2% ตามลำดับ
  • บริษัทเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 123.18 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.85 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ราคา Par 0.50 บาท คิดเป็น trailing P/E 20.5x เทียบกับ P/E MAI/Service ที่ 52x วัตถุประสงค์การใช้เงิน 1.เพื่อใช้ขยายธุรกิจไปยังประเทศเนเธอแลนด์ 50 ลบ. ประเทศสหรัฐอเมริกา 70 ลบ. 2.ลงทุนในงานวิจัยและพัฒนา 60 ลบ. 3.ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 110 ลบ. และ 4.ใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ

หุ้นมีข่าว

(+) MAJOR (Bloomberg consensus 22.50 บาท) เผยหนังไทย-นอก จ่อคิวเข้าฉายเพียบ ในช่วงที่เหลือของปี เดินหน้าขยายจอกว่า 40-50 จอ ระบุ “จอห์นวิค แรงกว่านรก 4” กระแสตอบรับดี ยอดขาย 8 วันโกยยอดกว่า 93 ล้านบาท จ่อทะลุ 100 ล้านบาทแล้ว ขณะเตรียมวางขายป๊อบคอร์นใน 7-Eleven ปลาย Q2/2566 นี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PJW (Bloomberg consensus บาท) ย้ายเข้า SET หวังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ลั่นปี 2566 – เทิร์นอะราวด์ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากงาน Backlog งานนิวโมเดลของชิ้นส่วนยานยนต์และกลุ่มบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น หลังเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DEMCO (Bloomberg consensus – บาท) ตุนงานในมือแน่นกว่า 2,927 ล้านบาท ลุยประมูล งานกฟผ. กฟภ. มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท และงาน MEIT กลุ่มงานปิโตรเคมี รุกคืบเข้าสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน พร้อมแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ปั้น New S Curve เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MEGA (Bloomberg consensus 57.00 บาท) เล็งปี 2566 รายได้โตเฉลี่ยประมาณ 5-6% หนุนจากตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแอฟริกา ชูความต้องการของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง พร้อมเผยมีแผนออกสินค้าใหม่ 23 รายการ มองกลุ่มเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม ยารักษาโรค และสมุนไพร ยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง เตรียมสร้างโรงงานใหม่ในอินโดนีเซีย ปลายไตรมาส 2/2566 (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 31 มี.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 18-21 เม.ย. หุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินงวด 1Q66
  • 14 พ.ค. เลือกตั้ง

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 31 มี.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-บริการ เดือนมี.ค. จากสํานักงานสถิติแห่งชาติจีน
    • อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. และอัตราว่างงานเดือนมี.ค. (ประมาณการเบื้องต้น)
    • สหรัฐ รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.พ. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • 3 เม.ย. กำหนดการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส เกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน
    • จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากไฉซิน
    • อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล
    • สหรัฐ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) กาคการผลิตเดือนมี.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการ ด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

 

- Advertisement -