วันเหงาๆ ที่มากเรื่องราว / 1,585-1,605
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัว Sideways: ตลาดได้รับ Sentiment ทางลบจากฝั่งสหรัฐฯ หลังสหรัฐฯ เผยตัวเลข JOLTS ปรับตัวลง 6.32 แสนตำแหน่ง สู่ระดับ 9.9 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 64 และต่ำกว่าตลาดคาดที่ระดับ 10.4 ล้านตำแหน่ง ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมานั้น อาจส่งผลให้ ศก. ถดถอย กอปรกับ J.P.Morgan เผยวิกฤตในภาคธนาคารสหรัฐฯ ในปัจจุบันยังคงไม่ยุติ และต่อให้เมื่อถึงเวลาสิ้นสุดลงมันก็จะยังคงส่งผลกระทบเป็นเวลาอีกหลายปี ด้านความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์คาดเป็นแรงกดดันต่อตลาดเช่นกัน ทั้งจาก 1) การเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต้อย่างเป็นทางการของฟินแลนด์เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้นาโตขยายชายแดนติดกับรัสเซียเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และ 2) การพบกันหว่างประสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และปธน.ไต้หวันในวันนี้ ซึ่งอาจทำให้ความสัมพันธ์ของ สหรัฐฯ กับจีนเลวร้ายลง ในทางกลับกันคาดกลุ่มนี้ได้ปัจจัยหนุนจาก China+1 ขณะที่ปัจจัยในประเทศคาดเป็นแรงหนุนต่อตลาด โดยวันนี้ติดตามการรายงาน CPI และ Core CPI ของไทยเดือนมี.ค. ตลาดคาดขยายตัวในทิศทางที่ชะลอตัวลงสู่ระดับ 3.25 และ 1.80% y-y ตามลำดับ จาก 3.79 และ 1.93% yy ในเดือนก.พ. ทั้งนี้การชะลอตัวลงของตัวเลขดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนุนต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและคาดเป็นอานิสงส์ทางบวกต่อหุ้นจับจ่ายใช้สอย รวมถึงหุ้นในกลุ่มการเงิน อย่างไรก็ดี คาดวันนี้ตลาดมี Volume การซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากวันหยุดจีนในวันนี้ และการปิดทำการของ SET ในวันพรุ่งนี้
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว: AAV, AOT, AWC, BA, CPN, CRC, SNNP 2) ลุ้นเงินเฟ้อไทยชะลอตัว: AP, MTC, ORI, SAWAD 3) Defensive: BCH, CHG, BDMS, BH, GULF และ 4) ย้ายฐาน+ก่อสร้าง: AMATA, CK, WHA
ปัจจัยบวก
- ททท.เผยสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ในช่วง 3M66 บีจํานวน 6.47 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1,199% y-y สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 2.56 แสนลบ.
- AOT ประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศระหว่างวันที่ 11-17 พ.ย.ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT จะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 14,220 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 59.62% y-y
- ม.หอการค้าฯเผยพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนช่วงสงกรานต์ปี 66 คาดมีเม็ดเงินสะพัด 1.25 แสนลบ. (+17.3%y-y)
- ADB เผยศก.ของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเร็วขึ้นในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากจีนเปิดประเทศ โดยคาด GDP ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียจะโต 4.8% ในปีนี้และปีหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 4.2% ในปี 65
ปัจจัยลบ
- สรท.เผยการส่งออกของไทยในปี 66 มีปัจจัยที่ท้าทายมากขึ้น และมีโอกาสที่จะเติบโตไม่ถึง 1% พร้อมกับบี้ยังคาดว่าการส่งออกของไทยใน 1066 จะหดตัวราว 10% y-y
- เฟดแอตแลนตาเผยว่าแบบจำลองคาดการณ์ GDPNOW ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ศก.สหรัฐฯขยายตัว 1.7% ใน 1066 ลดลงจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.5%
- จีนเดือนปธ.สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯอย่าพบกับปธน.ไต้หวัน ขณะที่ ก.กลาโหมสหรัฐฯ เผยจีนส่งเรือดำน้ำติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์อย่างน้อย 1 ลำออกทะเลอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งแรก เพิ่มแรงกดดันต่อสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร
- ก.ต่างประเทศจีนเผยสหรัฐฯ ได้เสริมกำลังกองทัพที่ประจำการในฟิลิปินส์ ซึ่งจะสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้นและบั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
PICKS OF THE DAY
AP BUY
- เป้าหมาย 12.70/13.10 แนวรับ 11.80/12.10
- AP ยังไปได้ต่อ : 1Q66 มีคอนโดครบกำหนดโอนมูลค่ากว่า 6,400 ลบ. คาด 1Q66 ยังโตได้ต่อทั้ง q-q และ y-y และจะโดดเด่นกว่าหุ้นกลุ่มอสังหาฯตัวอื่นๆ
- หุ้นปลอดภัยรอรับปันผลงาม: XD 9 พ.ค. 66 ที่ 0.65 บาท/หุ้น คิดเป็น Div yield 5.3% มั่นใจหุ้นแข็งกว่าตลาด หากหุ้นย่อยิ่งมีแต่นักลงทุนรอรับเพื่อหวัง Div yield ที่สูงขึ้น ถือเป็นหุ้นปลอดภัยในช่วงนี้ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นและสถานการณ์เศรษฐกิจโลก, และมี PE 6.5 เท่า ใกล้เคียงกลุ่ม แต่ยังถือว่าไม่ได้อยู่ในระดับสูงหากเทียบจากอดีต
BDMS BUY
- เป้าหมาย 31.00/32.00 แนวรับ 29.00/29.50
- รับคนไข้ต่างชาติเข้ามารักษาเพิ่ม: นทท. ต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย นอกจากอุตฯ การท่องเที่ยวได้ประโยชน์แล้ว อุตฯ การแพทย์ก็ได้รับผลบวกจากการ Fly-in ของผู้ป่วยชาวต่างชาติ โดยปัจจุบันพบว่ามีลูกค้าชาวต่างชาติ นัดหมายกับ รพ. เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเป็นการเดินทางเข้ามารับการรักษาโรคที่มีความซับซ้อน ซึ่งดีต่อภาพรวมของมาร์จิ้นมีโอกาสขยายตัว
- คาดรายได้โตเฉลี่ย 6-8% ต่อปี ในช่วง 3 ปีข้างหน้า: ผบห.ตั้งเป้ารายได้ในช่วง 3 ปีจากนี้คาดเติบโตเฉลี่ย 6-8% ต่อปี จากการเติบโตทั้งจากลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติที่กลับเข้ามาใช้บริการมากขึ้น รวมถึงแผนการเปิดโรงพยาบาลใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2-3 แห่ง
- Advertisement -
