ตลาดเงียบเหงา กับแรงหนุนในประเทศ / 1,585-1,605
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัว Sideways up: ตลาดได้รับ Sentiment ทางลบเล็กน้อยจากฝั่งสหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังรอติดตามการรายงาน CPI ของสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้ง ด้านปัจจัยในประเทศคาดยังเป็นแรงหนุนต่อตลาด โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยที่ได้แรงหนุนจากการเลือกตั้งที่กำลังใกล้เข้ามา หลังหลายพรรคการเมืองเดินหน้าเปิดนโยบายเพื่อใช้หาเสียงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวคาดได้แรงหนุนจากเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งคาดว่าจะกลับมาคึกคักในปีนี้ เนื่องจากเป็นสงกรานต์แรกหลังการเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด 19 ด้านสภาพอากาศของประเทศไทยที่ค่อนข้างร้อน คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าและเกี่ยวเนื่อง และแม้ Volume การซื้อขายในวันนี้คาดยังเบาบางต่อเนื่อง ตามวันทำการที่กำลังจะหมดลงในสัปดาห์นี้ แต่ตลาดมีลุ้นได้แรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติ หลังวานนี้ชื่อสุทธิเกือบ 2.5 พันลบ. ขณะที่วันนี้ ติดตาม 1) การรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.ของจีน ตลาดคาด CPI ขยายตัว 1.0% y-y เท่ากับในเดือนก.พ. และ PPI ตลาดคาดหดตัว 2.5% y-y จากหดตัว 1.4% y-y ในเดือนก.พ. การคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนภาพศก.จีนที่พิ้นตัวค่อนข้างช้า และคาดเป็น Sentiment ทางลบต่อตลาดได้ และ 2) การปรับประมาณการศก.โลกของ IMF
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) อากาศร้อน: BGRIM, CPALL, CPN, GULF, HMPRO, ICHI, SAPPE, SNNP, TACC 2) Spending+ท่องเที่ยว: AAV, AOT, BA, CRC, ERW, MTC, ZEN และ 3) ราคาน้ำตาลขึ้น: BRR, KTIS
ปัจจัยบวก
- ธปท.ประมาณการว่าธ.พาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท.ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเทศกาลสงกรานต์เป็นมูลค่าสุทธิประมาณ 2.5 หมื่นลบ. สูงกว่าประมาณการในปี 65 อยู่ที่ 67%
- รอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่าซาอุดีอารามโคแจ้งแก่ลูกค้าอย่างน้อย 4 รายในเอเชียเหนือว่าลูกค้าจะได้รับนํ้ามันดิบเต็มจํานวนตามสัญญาในเดือนพ.ค. แม้กลุ่มโอเปกพลัสประกาศปรับลดการผลิตนํ้ามันลงอีก 1.16 ล้านบาร์เรล/วัน
- ธนาคารโลกปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของศก.โลกในปีนี้สู่ระดับ 2% จากเดิมที่ระดับ 1.7% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดประเทศของจีน ซึ่งจะส่งผลให้ศก.จีนมีการขยายตัว 5.1% ในปีนี้ เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 4.3%
ปัจจัยลบ
- FETCO ผลสำรวจในเดือนมี.ค. พบว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 95.65 ลดลง 21.0%m-m มาอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว เนื่องจากในเดือนที่ผ่านมา SET index มีความผันผวนจากวิกฤติธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรป
- ซิตี้กรุ๊ปคาดเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดแตะระดับ สูงสุด 5.50-5.75%
- กองทัพเรือสหรัฐฯ ประกาศว่าเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี ยูเอสเอส มิลิอุส แล่นผ่านน่านน้ำในทะเลจีนใต้ในปฏิบัติการเสรีภาพในการเดินเรือ ขณะที่จีนประณามการเดินเรือของสหรัฐฯ ที่เข้ามาในทะเลจีนใต้ว่าเป็นการบุกรุกที่ผิดกฎหมาย
PICKS OF THE DAY
BGRIM BUY
- เป้าหมาย 41.00/42.00 แนวรับ 38.25/39.00
- ได้รับคัดเลือกโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจาก กกพ.: เมื่อ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา กกพ.ประกาศผลคัดเลือกพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน Feed-in Tariff (FiT) โดย BGRIM ได้รับเลือกเป็นผู้ผลิต-ขายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนกว่า 15 โครงการ รวม 339 MW
- คาดผลดำเนินงานปี 66พลิกเป็นกำไร: จากค่า Ft ม.ค.-เม.ย. ที่ปรับเพิ่มสู่ 154.92 สต.ต่อหน่วย กอปรกับการเข้าสู่หน้าร้อนเต็มตัว ช่วยหนุนอุปสงค์ใช้ไฟให้สูงขึ้น ขณะที่ค่า Ft งวดที่เหลือของปีแม้จะมีหลายอัตรา แต่ทางฝ่ายมองจะไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานกับบริษัท นอกจากนี้ช่วง 2H66 คาดแนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติจะอ่อนตัวลง จะมีส่วนช่วยให้กำไร BGRIM ฟื้นตัวขึ้น
MTC BUY
- เป้าหมาย 36.25/37.50 แนวรับ 33.50/34.25
- คาดสินเชื่อเติบโตได้อย่างโดดเด่นต่อ: การเปิดสาขาเพิ่ม 600-700 สาขาต่อปี การเปิดประเทศ มาตรการกระตุ้นต่าง ๆ รวมไปถึงความคึกคักจากการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง คาดว่าจะส่งผลดีต่อการปล่อยสินเชื่อของ MTC โดยทาง MTC ตั้งเป้าที่จะปล่อยสินเชื่อเพิ่มในปีนี้อีก 20%
- คาดกำไรจะเติบโตได้ y-y และ q-q: จากสินเชื่อที่เติบโต การตั้งสำรอง และผลขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ ที่คาดว่าจะลดลงได้ จะทำให้กำไร 1Q66 เติบโตได้ทั้ง y-y และ q-q